เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1290 พักรบ

แปลโดย iPAT

เปลวเพลิงสีซีดราวกับหิ่งห้อยหรือตะเกียงกำลังลุกไหม้อยู่บนกำแพงหิน

มันกำลังส่องสะท้อนใบหน้าของราชันภูเขาม่วงและกลุ่มของอิงอู๋เซี่ย

พวกเขาเป็นกลุ่มแรกที่ล่าถอยออกจากแม่น้ำหวนคืน

แต่หลังจากมาถึงที่นี่ ราชันภูเขาม่วงก็กลับสู่สภาวะวิกลจริตอีกครั้ง

เมื่อมองไปยังราชันภูเขาม่วงที่กำลังกัดนิ้วเท้าของตนเอง ไป่หนิงปิงเย้ยหยัน “นี่คือแผนการของเจ้างั้นหรือ? นี่คือผู้อมตะระดับแปดที่จะสังหารฟางหยวนงั้นหรือ?”

ในการเดินทางสู่แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ แม้อิงอู๋เซี่ยจะสามารถปลุกราชันภูเขาม่วงให้ตื่นขึ้น แต่เขาก็สูญเสียซื่อหนิวและไท่เป่ยหยุนเฉิง

ไห่ลั่วหลันเงียบ

ผู้อมตะระดับแปดผู้นี้ไม่สามารถเชื่อถือ

แต่เนื่องจากข้อตกลงพันธมิตร ไห่ลั่วหลันจึงเลือกที่จะนิ่งเงียบ

อิงอู๋เซี่ยถูกไป่หนิงปิงเย้ยหยันแต่การแสดงออกของเขายังไม่เปลี่ยน

หลังจากประสบความล้มเหลวมาหลายครั้ง จิตใจของเขาเริ่มมั่นคงไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ใดก็ตาม

เขากล่าวอย่างช้าๆ “ข้าประเมินฟางหยวนต่ำเกินไป ผู้ใดจะคิดว่าเขาจะสามารถหลอมรวมวิญญาณความพยายามและกลายเป็นเจ้าของแม่น้ำหวนคืน ไม่แปลกใจเลยที่เจตจำนงสวรรค์เลือกเขาเป็นเครื่องมือ คนผู้นี้ต้องถูกฆ่าเท่านั้นเพราะเขาจะไม่มีวันยอมจำนน”

อิงอู๋เซี่ยยกย่องฟางหยวน

แม้พวกเขาจะเป็นศัตรู แต่อิงอู๋เซี่ยต้องยอมรับว่าฟางหยวนมีความได้เปรียบและแข็งแกร่งกว่า

ไป่หนิงปิงก่นเสียงเย็น เมื่อนางนึกถึงฉากที่ฟางหยวนพิชิตแม่น้ำหวนคืน นางก็ไม่สามารถกล่าวสิ่งใดออกมาได้อีก

ในถ้ำเล็กๆมีเพียงเสียงกรีดร้องของราชันภูเขาม่วงเท่านั้นที่ดังกังวานไปทั่ว

ครู่ต่อมาราชันภูเขาม่วงก็หยุดกรีดร้อง ร่างเล็กลุกขึ้นอย่างสงบ

“นายท่านตื่นแล้ว!” อิงอู๋เซี่ยดีใจมาก

ราชันภูเขาม่วงยังรู้สึกปวดศีรษะ ใบหน้าของเขายังบิดเบี้ยวเล็กน้อย

“ก่อนหน้านี้ในแม่น้ำหวนคืน ข้าบังคับตนเองให้ตื่นขึ้น ดังนั้นมันจึงอยู่ได้ไม่นาน แต่ตอนนี้มันต่างออกไป ข้ามีเวลาอีกมาก การต่อสู้จบลงมานานเพียงใดแล้ว?”

“ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว ฟางหยวนหนีออกจากภาคเหนือโดยผ่านกำแพงภูมิภาค ข้าคิดว่าเขาไปที่ทะเลตะวันออก ท้ายที่สุดเขาก็มีรากฐานอยู่ในทะเลตะวันออก สำหรับการต่อสู้ ผลลัพธ์ยังไม่ปรากฏ ผู้อมตะภาคกลางต้องการจากไปแต่ปีศาจอมตะเซี่ยหูไล่ล่าพวกเขา ในช่วงเวลาสำคัญ คฤหาสน์วิญญาณอมตะบินลงมาจากท้องฟ้าและนำทั้งสองฝ่ายขึ้นไปต่อสู้กันต่อบนสวรรค์สีขาว” อิงอู๋เซี่ยตอบ

ราชันภูเขาม่วงพยักหน้า “ครั้งนี้ผู้อมตะภาคกลางจะพ่ายแพ้ ในอดีตเทพอมตะตะวันเดือดเลือกภาคเหนือเป็นอาณาจักรของเขา แล้วเขาจะไม่จัดเตรียมบางสิ่งเอาไว้ได้อย่างไร? นอกจากนั้นในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน ผู้อมตะระดับแปดของถ้ำสวรรค์ยังไม่ปรากฏตัว”

“นายท่าน หลังจากนี้พวกเราจะทำอย่างไร?” อิงอู๋เซี่ยถาม

เมื่อผู้อมตะระดับแปดราชันภูเขาม่วงตื่นขึ้น เขาจึงกลายเป็นผู้นำนิกายเงาโดยธรรมชาติ

ราชันภูเขาม่วงกำลังจะกล่าวแต่ในจังหวะนี้เสียงลมกลับดังขึ้นในถ้ำอย่างกะทันหัน

ต่อมาเปลวเพลิงบนกำแพงก็เริ่มสั่นไหว

ดววตาของราชันภูเขาม่วงส่องประกายขึ้น “ถ้ำแห่งนี้เป็นสถานที่หลบภัยที่ข้าสร้างขึ้น เปลวเพลิงเหล่านี้เป็นค่ายกลวิญญาณ มันจะปกป้องพวกเราจากการอนุมานของผู้อื่น ตั้งแต่ข้าเป็นบ้า เปลวเพลิงเหล่านี้สั่นไหวไปกี่ครั้งแล้ว?”

“หนึ่งร้อยเจ็ดครั้ง” ไป่หนิงปิงตอบอย่างชัดเจน

“ข้าเกรงว่าการอนุมานของฟางหยวนจะรวมอยู่ในนี้ด้วย การตรวจสอบของเขาพึ่งพาวิธีการบนเส้นทางแห่งโชค แม้เราจะอยู่ในมิติช่องว่าง เราก็ไม่สามารถหลบหนีจากเขา” อิงอู๋เซี่ยกล่าว

ราชันภูเขาม่วงพยักหน้า “ฟาหงยวนสมควรเป็นคนที่เจตจำนงสวรรค์เลือกเป็นกุญแจสำคัญในการหยุดยั้งนิกายเงาของเรา เขาทั้งกล้าหาญและมีพรสวรรค์ พลังใจของเขาก็น่าเหลือเชื่อมาก เขาเป็นอัจฉริยะที่จะพบได้ในรอบหมื่นปีเท่านั้น”

ราชันภูเขาม่วงประเมินฟางหยวนสูงมาก

แต่ผู้อมตะทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ไม่ได้โต้แย้ง พวกเขาเห็นด้วยกับคำกล่าวของราชันภูเขาม่วง

ราชันภูเขาม่วงกล่าวต่อ “ดังนั้นแผนต่อไปของเราก็คือสงบศึกกับฟางหยวน”

นี่เป็นคำกล่าวที่น่าตกใจมาก

“กระไรนะ!? สงบศึก?” อิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆตะลึง

“มันแปลกมากงั้นหรือ?” ราชันภูเขาม่วงมองคนทั้งสาม

เขาเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันอย่างชัดเจน

“เจ้ายังเด็กเกินไป เจ้ารู้น้อยเกินไป ศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราตอนนี้ไม่ใช่ฟางหยวนแต่เป็นวังสวรรค์” ราชันภูเขาม่วงส่ายศีรษะ “เจ้าคิดว่าการช่วยร่างหลักของเราเป็นเรื่องง่ายงั้นหรือ? นอกจากค่ายกลวิญญาณของภาคใต้และอาณาจักรแห่งความฝันขนาดใหญ่ ข้ารับรองได้เลยว่าเมื่อเราโจมตี วังสวรรค์จะขัดขวางพวกเรา เช่นเดียวกับเหตุการณ์บนภูเขาอี้เทียน พวกเขาใช้หอคอยดวงตาสวรรค์และพยายามทำลายแผนการของพวกเรา ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ไปแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะเพื่อช่วยหม่าหงหยุน”

การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยกล่ายเป็นมืดครึ้ม “นายท่าน ข้าเคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน แต่ร่างหลักของเรากำลังตกอยู่ในอันตราย ท่านติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน นั่นเป็นสิ่งที่ข้ากังวล…”

“นั่นเป็นเหตุผลที่เราควรร่วมมือกับฟางหยวน” ราชันภูเขาม่วงกล่าวเสริม

“ประการแรก ฟางหยวนแข็งแกร่งมาก ท่าไม้ตายอมตะของเขาสามารถต่อต้านผู้อมตะระดับแปด”

“ประการที่สอง ฟางหยวนเป็นปีศาจต่างโลกอย่างสมบูรณ์ เขาถูกตัดสินว่าเป็นปีศาจร้าย ดังนั้นเราจึงมีศัตรูร่วมกันคือวังสวรรค์”

“สุดท้าย ความร่วมมือเป็นสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายจะได้รับประโยชน์ นิกายเงาของเรามีทรัพยากรมากมายขณะที่เขามีท่าไม้ตายอมตะที่สามารถคลี่คลายความฝัน”

อิงอู๋เซี่ยขมวดคิ้วลึก เขาละทิ้งอารมณ์ส่วนตัวและพยายามพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในเรื่องนี้

แต่ในไม่ช้าเขาก็แสดงออกด้วยความกังวล “ฟางหยวนเป็นนักวางแผนที่ชั่วร้าย เขาคิดว่าพวกเราเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ เขาต้องการกำจัดพวกเรา ตอนนี้เขาเป็นเจ้าของแม่น้ำหวนคืน เขาสามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปด เราต้องการวิธีคลี่คลายความฝันอย่างมากขณะที่ความต้องการทรัพยากรอย่างเร่งด่วนของเขาลดน้อยลง มันยากสำหรับเราที่จะสร้างความร่วมมือ”

ราชันภูเขาม่วงพยักหน้า “เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง แต่เจ้ารู้ข้อบกพร่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของร่างทารกอมตะหรือไม่?”

“ท่านหมายถึงพลังงานแห่งเต๋าที่ไม่ขัดแย้งกันของร่างทารกอมตะงั้นหรือ?” อิงอู๋เซี่ยถามด้วยความสงสัย

“ไม่อย่างแน่นอน พลังงานแห่งเต๋าที่ไม่ขัดแย้งกันเป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของร่างทารกอมตะ สิ่งที่ข้าหมายถึงคือปัญหาที่ซ่อนอยู่!” ราชันภูเขาม่วงส่ายศีรษะ

“มีปัญหาร้ายแรงที่ซ่อนอยู่ด้วยงั้นหรือ?” อิงอู๋เซี่ยตะลึง

“แผนเดิมของเราคือการหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะระดับสิบ มีเพียงวิญญาณอมตะระดับสิบเท่านั้นที่ไร้ข้อบกพร่อง แต่เห็นได้ชัดว่าเราสามารถหลอมรวมวิญญาณระดับเก้าเท่านั้น ข้อบกพร่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมันยังไม่แสดงออกมาในเวลานี้ แต่มันจะบังคับให้ฟางหยวนต้องร่วมมือกับพวกเรา” ราชันภูเขาม่วงกล่าว

ร่างทารกอมตะมีข้อบกพร่องร้ายแรง!

อิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆสงสัยแต่ราชันภูเขาม่วงไม่ตอบ

ในเวลาเดียวกันราชันภูเขาม่วงก็มีคำถามและข้อสงสัยบางอย่าง

‘แปลก’

‘จากข้อมูลของอิงอู๋เซี่ย นิกายเงาของเราหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะอย่างเร่งรีบ มันไม่เหมือนแผนเดิมของเรา’

‘สิ่งใดคือสาเหตุที่ทำให้ร่างหลักต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเช่นนี้?’

‘ดูเหมือนนอกจากสร้างความร่วมมือกับฟางหยวน ข้ายังต้องเดินทางไปยังสายธารแห่งกาลเวลา’

…..

ทะเลตะวันออก

เหนือทะเลสีฟ้า ฟางหยวนเคลื่อนที่ผ่านก้อนเมฆไปอย่างรวดเร็ว เป้าหมายของเขาคือภาคใต้

‘มันเกิดขึ้นอีกครั้ง!’ ใบหน้าของฟางหยวนเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน

เขาสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจของวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดที่ลดลงอย่างรวดเร็ว หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป มันจะหมดพลังในไม่ช้า

เห็นได้ชัดว่าผู้เชี่ยวชาญบางคนกำลังอนุมานเกี่ยวกับตัวเขา

หลังจากตรวจสอบความปลอดภัย ฟางหยวนรีบวางมิติช่องว่าง

เมื่อเข้าสู่มิติช่องว่าง อันตรายของฟางหยวนจะบรรเทาลง

ฟางหยวนถอนหายใจ

หลังการต่อสู้ที่แม้น้ำหวนคืน เขาถูกอนุมานซ้ำแล้วซ้ำอีก

รูปลักษณ์ของหลิวกวนซื่อถูกแพร่กระจายออกไป

ไม่เพียงภาคเหนือแต่มันแพร่กระจายไปทุกภูมิภาค ตอนนี้ทุกคนกำลังค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเขา

หลิวกวนซื่อเป็นตัวตนปลอมแต่เขายังคงเป็นฟางหยวน

ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนจึงต้องต่อสู้กับแรงกดดันมหาศาล

แม้วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดจะสามารถต่อต้านการอนุมานเหล่านี้แต่มันก็มีเวลาจำกัด

ระหว่างทางฟางหยวนพบกับการอนุมานมาแล้วประมาณห้าร้อยครั้ง

สิ่งนี้รบกวนการเดินทางของเขาเป็นอย่างมาก มันทำให้เขาต้องหยุดเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง

ในความเป็นจริงด้วยความเร็วของเขา เวลานี้เขาต้องอยู่ที่ภาคใต้แล้ว

‘หากไม่ใช่เพราะวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด สถานการณ์ของข้าจะเลวร้ายกว่านี้’

‘อย่างไรก็ตามเป็นไปตามการคาดเดา ข้าทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ขึ้น ผู้คนต่างเปรียบเทียบข้ากับฟงจิวเก้อ’

‘เมื่อข้าทำลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง ข้าได้รับความช่วยเหลือจากนิกายเงา นั่นทำให้ข้าไม่รู้สึกถึงแรงกดดัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนข้าต้องคิดค้นท่าไม้ตายอมตะเพื่อต่อต้านการอนุมานเหล่านั้น’

ฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา การคิดค้นท่าไม้ตายอมตะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่มันไม่ง่ายเหมือนการสร้างเกราะหวนคืน

ท้ายที่สุดเกราะหวนคืนก็เกิดขึ้นจากหลายองค์ประกอบที่สนับสนุนมันโดยบังเอิญ

สิ่งสำคัญที่สุดคือเขามีวิญญาณอมตะที่สามารถใช้เป็นแก่นกลาง ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ปัญหา

แต่สำหรับวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด มันเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความมืด ไม่ใช่วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

ขณะที่ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งความมืดของฟางหยวนไม่โดดเด่น