ตอนที่ 854 โกรธ

หยางโปมองหยวนต๋าด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น !

อวี่เหวินออกไปได้สองวันก่อนแล้วและไม่มีข่าวคราวใดๆ หยางโปสงสัยว่าเขากำลังไปตามหาสมุนไพร แต่เขาก็ไม่ได้กล่าวลาก่อนที่จะออกไป แบบนี้มันผิดปกติไปหน่อย

 

หยวนต๋าวางสายโทรศัพท์และมองไปที่หยางโปด้วยสายตาที่แปลกๆ ” อินากาวะส่งคนมาล้อมโกดังเอาไว้ และบอกว่าเขาอยากได้กระจกกลับคืน “

หยางโปดื่มนมด้วยใบหน้าที่ไม่แปลกใจ ” อ้อ ? กระจก ? “

 

ลัวย่าวหัวเหลือบมองไปที่หยางโปและไม่ได้พูดอะไร หยางโปมีกระจกมากกว่าหนึ่งบาน แต่ยังไงก็ตามเขายังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะไม่พูด !

 

หยวนต๋าพยักหน้า ” ผมไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะเจาะจงนี้  แต่อาเฟยโทรมาขอความช่วยเหลือ หวังว่าคุณจะไปด้วย “

หยางโปยิ้ม ” ฉันไปแล้วทำอะไรได้บ้าง ? “

 

“ เขาบอกว่า เขาคุณคุ้นเคยกับประธานอินากาวะของลอสแอนเจลิส ถ้าไปสถานการณ์มันอาจจะดีขึ้นหน่อย ” หยวนต๋าจ้องไปที่หยางโปและเกือบจะพูดว่ากระจกบานนั้นอยู่ในมือของหยางโป !

 

หยางโปยังคงดูเฉยเมย แต่เขาก็พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ “ งั้นฉันจะไปดูสถานการณ์สักหน่อย ”

หยางโปค่อยๆกินอาหารเช้าอย่างช้าๆ และเดินออกจากวิลล่าไปพร้อมกับลัวย่าวหัวเพื่อไปที่โกดัง

 

ระหว่างทาง หยางโปได้เล่าเกี่ยวกับเรื่องของกระจกโบราณและแนะนำสถานการณ์ของทั้งสองฝ่ายคราวๆให้

ลัวย่าวหัวฟัง และถามลัวย่าวหัว ” ฉันคิดว่าอินากาวะเป็นคนนำกระจกเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงมา กระจกบานนั้นที่มาต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน นายคิดว่าควรแก้ไขยังไง ? “

 

ลัวย่าวหัวส่ายหัว ” ตอนนี้ฉันไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่กับเรื่องที่นายเล่ามา ที่ดีที่สุดคือเราควรรีบไปที่เกิดเหตุเพื่อดูสถานการณ์และค่อยตัดสินใจ ! “

 

ในไม่ช้าทั้งสองก็มาถึงที่เกิดเหตุ หยางโปนั่งอยู่ในรถ เขาเห็นกลุ่มชายในชุดดำขวางประตูโรงงานเอาไว้

อย่างน้อยก็หลายร้อยคนในกลุ่มโพกผ้าสีขาวไว้บนหัว ดูมีความฮึกเหิม และปากก็ไม่หยุดตะโกน

” คืนกระจกโบราณของฉันมา ! คืนกระจกโบราณของฉันมา ! “

 

หยางโปไม่ได้ลงจากรถ เขาโทรหาจางซานเซี่ยก่อน

ทันทีที่โทรศัพท์ดังขึ้นจางซานเซี่ยก็รับโทรศัพท์

“ นายอยู่ที่ไหน ” หยางโปถามตรงๆ

 

จางซานเซี่ยตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและตอบว่า ” ผมอยู่ในโรงงาน เราปิดกั้นประตูเอาไว้และไม่ได้โจมตี พวกเขาแค่ขอกระจกโบราณจากเราคืน ! “

 

หยางโปพยักหน้า “ ถามพวกเขาหรือยังว่าอยากได้กระจกบานไหน ขายให้พวกเขาไม่ได้เหรอ ? ”

จางซานเซี่ยหยุดพูดและยิ้มอย่างขมขื่น ” อาจารย์ลุง ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากให้ แต่เพราะว่าเป็นกระจกบานนั้น

ที่คุณเอามันไปเมื่อคืน ”

 

หยางโปถามด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย ” ฉันเอาไปแล้ว ? แล้วกระจกบานไหนล่ะ ? “

” มันคือกระจกสีเงินๆเทาๆ ” จางซานเซี่ยกล่าว

 

หยางโปดูเหมือนจะมีปฏิกิริยาตอบกลับ ” กระจกเงิน ? ดูเหมือนว่าฉันจะเอามันไป ? พวกเขาต้องการเอากระจกสีเงินไปทำอะไร ? ” ” ผมกำลังตรวจสอบรายละเอียด เดี๋ยวผมได้คำตอบแล้วจะบอกนะครับ ! “

จางซานเซี่ยกล่าว

 

หยางโปพยักหน้า ” ตกลง ฉันจะรอข้างนอก “

หยางโปวางสายและไม่ได้ลงจากรถ เขานั่งรออยู่ในรถ

ไม่นานหลังจากนั้น หยางโปก็ได้รับโทรศัพท์จากหยวนเฉิงเฟย

 

หยวนเฉิงเฟยพูดด้วยความเคารพ ” อาจารย์ลุง เรื่องนี้ได้รับการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว กระจกสีเงินนี้ได้มาจากสินบนของสมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่น สมาชิกคนนั้นไม่กล้าที่จะเปิดเผย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะหาตามอินเทอร์เน็ต แต่เมื่อไม่นานมานี้กระจกสีเงินได้ถูกขโมยและถูกส่งไปที่ท่าเรือเมื่อวานนี้ และเนื่องจากสมาชิกรัฐสภาคนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับกลุ่มอินากาวะ จึงทำให้พวกเขาต้องออกโรงและตามหากระจกสีเงินคืน “

 

หยวนเฉิงเฟยอธิบายให้หยางโปฟัง ทำให้หยางโปเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

หยางโปลังเลเล็กน้อย ” โอเค ฉันรู้แล้วว่าต้องจัดการยังไง “

 

พูดจบ หยางโปก็วางสาย เขาหันไปมองที่ลัวย่าวหัว ” ฉันเพิ่งได้ของมา ยังไม่ทันหายร้อนเลย ! “

หยางโปหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและโทรหาอู่อี

 

ในไม่ช้าอู่อีก็รับโทรศัพท์ ” เป็นอะไรไป ? ทำไมคุณหยางถึงยอมโทรหาฉัน ? ” หยางโปไม่พูดเรื่องไร้สาระและพูดว่า ” พวกเธอไม่ได้กำลังมองหากระจกเหรอ ? กระจกสีเงิน ? “

 

อู่อีตะลึงงัน ” หรือว่าเมื่อคืนคุณเห็นแล้ว ? “

” กระจกอยู่ที่นี่ ” หยางโปกล่าว

” มอบมันให้ฉัน ” อู่อีกล่าว

 

หยางโปยิ้มและกำลังจะพูดมากขึ้นกว่าเดิม ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนที่ด้านนอกรถ เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นจางซานเซี่ย วิ่งออกมาจากประตูโรงงานพร้อมกับกลุ่มคนเหล่านั้น พวกเขาถือแท่งเหล็กไว้ในมือและฝ่าวงล้อมของผู้ชุมนุมออกมา !

 

สถานการณ์เกิดเหตุชุลมุนและเสียงตะโกนกรีดร้องดังลั่น !

กลุ่มคนในการประท้วงของอินากาวะไม่ได้มีการเตรียมการใดๆมาเลย พวกเขาถูกตีแตก และเกิดความวุ่นวายเล็กน้อยขึ้นชั่วขณะ ผู้รับผิดชอบกลุ่มประท้วงต้องการเสริมฝูงชนให้แข็งแกร่งขึ้น  แต่ว่าเขาก็ถูกไม้ทุบที่ด้านหลัง จึงไม่มีใครกล้าอยู่ !

 

” พวกคุณจะชดเชยให้ผมได้ยังไง ? ” หยางโปหันกลับมามองจางซานเซี่ยและคนอื่นๆ ที่มุ่งมั่นที่จะเอาชนะ !

อู่อีไม่รู้สถานการณ์ในที่เกิดเหตุ เดิมทีเธอวางแผนที่จะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้กับหยางโป ขณะที่เธอกำลังจะพูด เลขาก็เดินเข้ามากระซิบข้างหูของเธอ ” สถานการณ์ตอนนี้ได้เริ่มการต่อสู้แล้ว มีคนถูกตี ! ”

 

อู่อีตะลึงงันและดึงสติกลับแล้วพูดด้วยความโกรธ ” หยางโป นายหลอกฉัน ! “

หยางโปกล่าวว่า ” ผมไม่ได้หลอก “

” นายส่งคนมาตีคนของฉัน ! ” อู่อีพูดอย่างโกรธๆ

 

หยางโปส่ายหัว ” นี่ไม่ใช่คำสั่งของผม ! “

” หยางโป จำเอาไว้ว่าพวกเราอินากาวะ ไม่กลัวใครหน้าไหน ถ้าหากฮงเหมินต้องการทำสงครามเราก็ไม่กลัว ! ” อู่อีพูดด้วยความโกรธ

 

หยางโปตะคอก “ ไม่ต้องมาทำเป็นขู่ ฉันไม่กลัวอยู่แล้ว ! ”

พูดจบ หยางโปวางสาย เดิมทีเขาจริงใจมากและต้องการจะเจรจากับอู่อี คิดไม่ถึงว่ามันจะถูกทำลายโดยสถานการณ์แบบนี้ !

 

แต่อย่างไรก็ตาม หยางโปก็ไม่ได้โกรธ เขามองออกไปข้างนอกและเห็นว่าคนของอินากาวะถูกตี  ทิ้งรอยเลือดและเสื้อผ้าเกลื้อนกลาดบนพื้น !

 

จางซานเซี่ยยืนอยู่กลางฝูงชนตะโกนเสียงดัง ” อินากาวะรอฉันก่อน จะต้องมีสักวันที่พวกแกจะต้องยอมก้มหัวให้ฉัน เมื่อถึงตอนนั้นผู้หญิงญี่ปุ่นจะเป็นได้แค่ของเล่นของพวกฉันเท่านั้นแหละ ! “

 

มีเสียงหัวเราะมากมายในที่เกิดเหตุ และทุกคนดูเหมือนจะคิดว่าจางซานเซี่ยพูดได้ดีมาก !

หยางโปเหลือบมองไปที่จางซานเซี่ยแล้วคิดถึงสิ่งที่อู่อีพูด ว่าถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกมีโอกาสมากที่อินากาวะและฮงเหมินจะทะเลาะกัน เมื่อถึงตอนนั้นการตะลุมบอนกันด้วยอาวุธขนาดใหญ่ น่าจะกลายเป็นเรื่องปกติ !

 

ลัวย่าวหัววิ่งออกไปและตบไหล่ของจางซานเซี่ย  ” น้องชาย นายชื่ออะไรเหรอ ? “

จางซานเซี่ยเห็นลัวย่าวหัววิ่งออกมาจากรถของหยางโป เขารู้ว่านี่คือเพื่อนของหยางโป เขายังคิดอีกว่าลัวย่าวหัวเป็นนักบวชเหมือนกัน และเขาต้องเก่งมากแน่ๆ เขารีบพูดด้วยความเคารพ “ คุณอย่าเรียกผมแบบนั้นเลย เดี๋ยวอาจารย์ลุงจะตำหนิผมเอาได้ ! ”

 

ลังย่าวหัวตะลึง “ อาจารย์ลุงคือใครเหรอ ? ”

จางซานเซี่ยรีบชี้ไปที่หยางโป