DC บทที่ 266: ย้ายไปยังเขตกลาง

 

ซูหยางมองผ่านๆไปยังคนหลายร้อยคนในห้อง

 

“ทั้งหมดนี้เป็นคนที่เหลืออยู่รึ นี่มีมากกว่าที่ข้าคิดไว้”

 

ซูหยางได้เคยเห็นเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันแบบนี้มาก่อน และเมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่พวกเขาไม่อาจคิดว่าจะชนะได้ มันไม่แปลกถ้ามีเพียงแค่ศิษย์ไม่กี่คนหลงเหลือก่อนที่การศึกจะเริ่มขึ้น

 

นี่ถือว่าเป็นความจริงกระทั่งนิกายใหญ่ที่สุดข้างนอกนั้นที่มีศิษย์มากมายหลายแสนคน

 

ดังนั้นสำหรับศิษย์ร้อยคนที่หลงเหลือจากไม่กี่พันคน ซูหยางค่อนข้างจะประทับใจอยู่บ้าง

 

“ผู้นำนิกาย ข้ามีข้อเสนอ”

 

เขาพลันกล่าว

 

“พูดออกมาให้พวกเราฟัง”

 

“แผนการรับเป็นเจ้าภาพในการรับสมัครศิษย์หลังการแข่งขันระดับภูมิภาคควรจะคงไว้…เช่นเดียวกับการเข้าร่วมการแข่งขัน”

 

“ต่อให้ข้าต้องการเข้าร่วมการแข่งขันมากเท่าไหร่ก็ตาม โชคร้ายสำหรับพวกเรา มีคนเหลือไม่ถึงห้าคนในห้องนี้ที่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วม และเราต้องการผู้เข้าร่วมอย่างน้อยสิบคนในกรณีที่จะเข้าร่วม” โหลวหลานจีถอนหายใจ

 

“ความต้องการมีอะไรบ้าง ขออีกครั้ง” ซูหยางถาม

 

“ผู้นั้นต้องมีอายุต่ำกว่าสามสิบปีและถึงเขตคัมภีร์วิญญาณก่อนพวกเขาจึงจะมีคุณสมบัติ นอกจากนั้นจำนวนผู้เข้าร่วมที่แต่ละนิกายสามารถนำไปได้คือยี่สิบคน”

 

ซูหยางมองไปรอบๆห้องอีกครั้ง

 

นอกจากเขาแล้ว ก็มี ฟางซีหลาน ซุนจิงจิง และศิษย์ในอีกคนที่มีคุณสมบัติสำหรับเข้าร่วมการแข่งขันระดับภูมิภาค ทุกคนที่เหลือนอกนั้นล้วนเป็นศิษย์นอกที่มีพลังการฝึกปรือเพียงเขตปฐมวิญญาณและผู้อาวุโสนิกายที่มีอายุเกิน

 

หลังจากมองไปทั่วยังบรรดาศิษย์นอก ซูหยางก็พลันถาม “พวกเจ้าใครบ้างต้องการเข้าร่วมในการแข่งขันระดับภูมิภาค อย่าเพิ่งคิดว่าไม่มีคุณสมบัติในตอนนี้และเพียงแค่ยกมือเจ้าขึ้น”

 

เหล่าศิษย์นอกพากันสบสายตาซึ่งกันและกัน

 

หลังจากเวลาผ่านไป ไม่กี่คนในบรรดานั้นก็ยกมือขึ้น

 

ซูหยางปล่อยให้เวลาผ่านไปอีกชั่วขณะ ก่อนที่จะพูดว่า “ดีแล้ว ข้าจักช่วยพวกเจ้าในเรื่องนั้น”

 

โหลวหลานจีมองดูเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง

 

“เจ้าจักช่วยพวกเธอให้บรรลุจุดประสงค์ได้อย่างไร” เธอถาม

 

“อย่างไรรึที่ท่านถาม แน่นอนว่าก็ด้วยการร่วมฝึกคู่กับพวกเธอ”

 

ผู้อาวุโสจ้างพลันระเบิดเสียงหัวเราะ

 

“พวกเธอทั้งเจ็ดคนอยู่ระหว่างระดับที่สี่และห้าเขตปฐมวิญญาณ เจ้าบอกข้าว่าเจ้าสามารถช่วยทั้งเจ็ดคนไปให้ถึงเขตคัมภีร์วิญญาณก่อนการแข่งขันระดับภูมิภาคเช่นนั้นรึ”

 

“แน่นอน”

 

ซูหยางพยักหน้าด้วยความมั่นใจ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

 

ผู้อาวุโสจ้าวเพิ่มเสียงหัวเราะ กระทั่งผู้อาวุโสซุนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะหึๆ

 

อย่างไรก็ตามทั้งโหลวหลานจีและหลานลี่ชิงไม่ได้หัวเราะ ตามจริงพวกเธอทั้งคู่กลับมีสีหน้าจริงจัง

 

ขณะที่ผู้อาวุโสจ้างอาจจะไม่รู้ ทั้งโหลวหลานจีและหลานลี่ชิงรู้เป็นอย่างดีว่าปราณหยางของซูหยางนั้นมีมากมายเพียงใด ในเมื่อพวกเธอได้มีประสบการณ์มาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลานลี่ชิง

 

ตามจริงหลานลี่ชิงได้เข้าสู่เขตปฐพีวิญญาณอย่างง่ายดายหลังจากที่ได้ร่วมฝึกคู่กับซูหยาง

 

ซูหยางไม่สนใจเสียงหัวเราะของผู้อาวุโสจ้าวแต่หันไปหาโหลวหลานจี

 

“เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็มีคนสิบเอ็ดคนที่สามารถเข้าร่วมในการแข่งขันระดับภูมิภาคแล้ว”

 

โหลวหลานจีไร้คำพูด แต่เธอก็พยักหน้า

 

“ส่วนสำหรับการคัดเลือกหลังจากการแข่งขันระดับภูมิภาค ท่านจักเข้าใจหลังจากที่เวลานั้นมาถึง” ซูหยางกล่าว

 

ซูหยางพลันหันไปหาศิษย์นอกและกล่าวว่า “ข้าจักร่วมฝึกคู่กับพวกสาวเจ้าไปจนถึงการแข่งขันระดับภูมิภาค แต่แน่นอนว่าเจ้าสามารถเลือกปฏิเสธได้”

 

“ศิษย์พี่ชาย ท่านได้ร่วมฝึกคู่กับพวกเรามาก่อนอยู่แล้ว…ทำไมเราจึงต้องมาปฏิเสธตอนนี้”

 

หนึ่งในเหล่าศิษย์นอกหัวเราะหึ รู้สึกว่าการเลือกที่จะอยู่เป็นสิ่งที่ถูกต้องจริงๆ

 

ศิษย์นอกคนอื่นก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ตอนนี้เมื่อศิษย์เกือบทั้งหมดจากไปแล้ว การแข่งขันและเข้าแถวเพื่อที่จะร่วมฝึกคู่กับเขาลดลงไปอย่างมหาศาล

 

“อืม…ศิษย์พี่ชาย…แล้วพวกเราล่ะ”

 

ศิษย์ที่ไม่ได้ยกมือถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล จะเป็นอย่างไรถ้าเขาปฏิเสธที่จะร่วมฝึกคู่กับพวกเธอเพราะว่าพวกเธอไม่ต้องการที่จะเข้าร่วมในการแข่งขัน

 

“มิมีอะไรเปลี่ยน ข้าจักรับพวกเจ้าตราบเท่าที่พวกเจ้าขอร้องและแขนข้าว่าง”

 

ซูหยางมั่นใจว่าเขาสามารถช่วยศิษย์นอกเจ็ดคนบรรลุถึงเขตคัมภีร์วิญญาณภายในหนึ่งอาทิตย์ ดังนั้นย่อมมีเวลาว่างมากมายนักสำหรับเขาสำหรับศิษย์คนอื่น

 

และช่างเป็นเหตุบังเอิญ นอกจากจะมีผู้อาวุโสนิกายไม่กี่คนแล้ว ก็ไม่มีศิษย์ชายเหลืออีก อีกนัยหนึ่งก็คือย่อมไม่มึใครที่จะมาบ่นเรื่องขาดคู่ฝึกไปพักหนึ่ง อย่างน้อยก็จนกว่าพวกเขาได้รับศิษย์นอกมามากกว่าเดิม

 

“ข-ขอบคุณศิษย์พี่ชาย”

 

ผู้อาวุโสจ้าวและผู้อาวุโสซุนมองไปยังสถานการณ์ด้วยสายตาริษยา นึกในใจอย่างเงียบๆว่า “เจ้าเด็กเลวนี่ช่างเก่งกาจนักในการทำให้คนอื่นอิจฉา…”

 

“ข้าจักปล่อยศิษย์เหล่านี้ไว้กับเจ้า ซูหยาง และข้าจักช่วยเหลือเจ้าด้วยทรัพยากรจำนวนมากเท่าที่ข้าสามารถหาได้ ศิษย์ฟาง เจ้าสามารถฝึกฝนเซียวไป่ต่อไป นิกายเราจักต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งอันล้ำลึกของเธออย่างมากในอนาคต ส่วนสำหรับผู้อาวุโสนิกาย ข้ามีงานอื่นให้กับพวกท่าน”

 

โหลวหลานจีเริ่มให้คำแนะนำ

 

“ข้ารู้ว่าเกิดเหตุการณ์มากมายในวันนี้ แต่มิว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม อย่าปล่อยให้มันรบกวนจิตของผู้ฝึกยุทธของเจ้า ซึ่งเจ้าจักเพียงประสบกับความยากลำบากต่อไปเท่านั้น”

 

“ขอรับ ผู้นำนิกาย”

 

โหลวหลานจีพยักหน้าและกล่าวว่า “นอกจากผู้อาวุโสนิกายแล้ว พวกเจ้าทุกคนแยกย้ายกันไปได้”

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่เหล่าศิษย์จะทันออกไปพ้นจากที่แห่งนั้น โหลวหลานจีพลันกล่าวขึ้นว่า “หยุดก่อน ข้าเกือบลืมไป ในเมื่อพวกเรามีเพียงไม่กี่คนตอนนี้ ข้าต้องการให้พวกเราอยู่ใกล้ชิดกันในกรณีที่จะมีบางอย่างเกิดขึ้น ดังนั้นพวกเราทั้งหมดจักอาศัยในเขตกลางในตอนนี้ ครั้นเมื่อพวกเจ้าเลือกบ้านพักแล้วจงบอกให้ผู้อาวุโสนิกายรู้”

 

เหล่าศิษย์นอกต่างพากันตื่นเต้นขึ้นมาในทันที ในเมื่อไม่มีพวกเธอคนใดได้คิดฝันว่าพวกเธอจะได้ย้ายมาอยู่ในเขตกลางในชีวิตนี้ อย่าว่าแต่ในเร็ววันนี้

 

เมื่อเหล่าศิษย์พากันจากไปทีละคนสองคน ฟางซีหลานก็เข้าไปหาซูหยางและพูดว่า “แม้ว่าข้าต้องการที่จะทำตามแผนของพวกเราตอนนี้ แต่ข้าต้องดูแลเซียวไป่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เธอได้ผ่านมาในวันนี้ อาทิตย์หน้า…ข้าจักไปหาเจ้าแน่นอน”

 

“ใช้เวลาของเจ้าให้ดี” ซูหยางพยักหน้า