แดนนิรมิตเทพ บทที่ 586
แต่ว่า พวกคนที่รู้เรื่องสังเกตเห็นอย่างละเอียดว่า คนที่ถูกเผาอย่างงุนงงพวกนั้น ล้วนเป็นคนตระกูลว่าน

บวกกับท่านประธานเหม่ยหวากรุ๊ปเพิ่งเกิดอุบัติเหตุรถชน ตระกูลว่านก็ถูกทำลายล้าง จึงคิดถึงความเป็นจริงได้ไม่ยาก

เพียงนึกคิดก็รู้สึกหวาดกลัว พวกคนที่รู้เรื่องราว ต่างก็เพิ่มความหวาดกลัวและเคารพเฉินไต้ซือมากขึ้นอีกระดับ

ค่ำคืนนี้ ผู้คนที่รู้จักเฉินไต้ซือ ต่างก็ย้ำเตือนครอบครัวและเพื่อนพ้องของตัวเอง ว่าห้ามมีปัญหากับเฉินไต้ซือเด็ดขาด

โรงแรมในเครือเหม่ยหวากรุ๊ป ภายในห้อง เมื่อหลี่ซู่เฟินฟังรายงานของเวินฉิงจบ ก็รู้สึกตกตะลึงขาอ่อนล้มตัวลงบนเก้าอี้

ผ่านไปสักพัก หลี่ซู่เฟินถึงตั้งสติได้ “เสี่ยวโม่ ครั้งนี้ลูกสร้างปัญหาใหญ่แล้ว!”

“เสี่ยวฉิง ไม่ว่าต้องเสียสละอะไรก็ตาม เธอรีบไปหาคนทำพาสปอร์ตให้เร็วที่สุด จากนั้นก็โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารสวิส”

“ฉันไปหาเสี่ยวโม่ เมื่อจัดการเสร็จแล้วพวกเราไปเจอกันที่อำเภอเฟิ่งซาน”

หลี่ซู่เฟินลุกขึ้น แล้วออกคำสั่งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

เวินฉิงเองก็รู้ถึงความรุนแรงของสถานการณ์ ผลกระทบของตระกูลว่านไม่ธรรมดา และฝีมือการจัดการในครั้งนี้ของเฉินโม่ก็โหดร้ายมากเกินไป คนตระกูลว่านมากมายที่อยู่ในราชการต่างก็ถูกลากเข้ามาเกี่ยว รวมทั้งทั่วสารทิศในประเทศต่างก็กำลังพูดคุยถึงเรื่องนี้

ครั้งนี้ ทางรัฐบาลต้องไม่นิ่งดูดายแน่นอน!

“ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ค่ะ เรื่องนี้รอช้าไม่ได้ ท่านประธานพาพวกเฉินซงจื่อไปก่อนเถอะค่ะ!”

“ตกลง!”

ทั้งสองเพิ่งออกจากห้อง เฉินโม่ก็เดินมาเหมือนอย่างไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

“แม่ครับ พี่เวินฉิง รีบร้อนจะไปทำอะไรครับ?” เฉินโม่พูดด้วยรอยยิ้ม

ทั้งสองกลอกตาใส่เฉินโม่อย่างเอือมระอา เจ้าคนนี้มันเจ้าเล่นมากถึงขนาดไหนกันเนี่ย?

หลี่ซู่เฟินต่อว่าด่าทอ “เรื่องที่ตัวเองก่อไม่รู้ตัวหรือไง? รีบไปกับแม่เร็ว ถ้ายังช้าจะไม่ทันแล้วนะ!”

เฉินโม่รู้ว่าเรื่องของตระกูลว่านไม่สามารถปิดบังหลี่ซู่เฟินได้ แต่ไม่คิดว่าหลี่ซู่เฟินจะรู้เร็วขนาดนี้ ดูแล้วความสามารถของเหม่ยหวากรุ๊ปในช่วงนี้เพิ่มระดับมากขึ้นไม่น้อยเลย ความเร็วในการรู้ข่าวแทบจะเทียบเท่ากับเวลาเกิดเหตุจริงแล้ว

เวินฉิงพูดด้วยสีหน้าจนใจว่า “เสี่ยวโม่ ครั้งนี้นายทำเกินไปจริงๆ!พวกเราทำได้แค่หนีไปต่างประเทศสักพัก หวังว่าจะทัน!”

เมื่อได้ยินว่าทั้งสองคนคิดจะหลบหนีไปต่างประเทศ เฉินโม่กลับหัวเราะออกมา “แม่ครับ พี่เวินฉิง อย่ากังวล ไม่ได้อลังการขนาดนั้น พวกคุณทำแค่อยู่บ้านอย่างสบายใจก็พอ ควรทำอะไรก็ทำ เรื่องทุกอย่างผมจะจัดการเองครับ!”

“เจ้าเด็กโง่ ลูกคิดจะจัดการยังไง? หรือว่าลูกคิดจะต่อกรกับทั้งประเทศหรือไง?”

“ตอนนั้นฉันไม่น่าปล่อยลูกและไม่สนใจเลยจริงๆ ไม่อย่างนั้นวันนี้ลูกคงไม่ก่อเรื่องร้ายแรงขนาดนี้!” หลี่ซู่เฟินสีหน้าเศร้าใจ

ใบหน้าเฉินโม่มีรอยยิ้มจางๆ มีความมั่นใจอย่างมาก “แม่ครับ แม่เชื่อผมเถอะ ผมเคยทำให้แม่ผิดหวังเมื่อไหร่กัน? เพียงแค่มีผมอยู่ ไม่มีใครกล้าทำอะไรพวกคุณหรอกครับ!”

“อีกอย่าง แม่ทำใจทิ้งเหม่ยหวากรุ๊ปที่ลงทุนลงแรงมานานหลายปีด้วยหรอครับ?”

หลี่ซู่เฟินมองเฉินโม่ ในแววตามีความขัดแย้ง

เฉินโม่ส่งสายตาให้กับเวินฉิง เวินฉิงถอนหายใจอย่างจนใจ และเลือกที่จะเชื่อใจเฉินโม่

“ท่านประธานคะ พวกเราเชื่อเฉินโม่เถอะ เขาคงไม่ทำร้ายพวกเราหรอกค่ะ!”

หลี่ซู่เฟินจ้องเฉินโม่อยางเคร่งเครียด เฉินโม่ยิ้มอย่างเฉยเมย ท่าทางมั่นใจอย่างมาก

“ก็ได้ เรามาพนันกันสักตั้ง!แต่ลูกต้องตกลงกับแม่อย่างหนึ่ง ไม่ว่ายังไง ห้ามสู้กับประเทศเด็ดขาด!”

เฉินโม่พยักหน้า “ผมทราบแล้วครับ!”

หากไม่ถึงขั้นหมดหนทาง เฉินโม่เองก็ไม่ยินดีที่จะสู้กับเครื่องมือรบของประเทศ ยังไงซะญาติพี่น้องของเรา ยังต้องอาศัยอยู่ในแผ่นดินแห่งนี้