แดนนิรมิตเทพ บทที่ 585
ค่ายกลล่าวิญญาณสายเลือดยังดำเนินการต่อไปถึงหนึ่งชั่วโมง จากนั้นค่ายกลถึงได้หยุดการเคลื่อนไหว
ว่านฉางหรูได้ล้มตัวลงกับพื้นด้วยสีหน้าซีดเซียวไร้วิญญาณไปนานแล้ว
มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งคนนี้ที่เคยน่าเกรงขามไปทั่วเมืองฮ่านหยาง ผู้ที่ทำร้ายคู่ต่อสู้จนครอบครัวแตกสลาย ตอนนี้ได้ลิ้มลองความเจ็บปวดของบุคคลที่เขาเคยทำร้ายจนครอบครัวแตกสลายแล้ว
เพียงชั่วขณะเดียว ผมของว่านฉางหรูก็ขาวหงอกหมดหัว เหมือนดั่งกลายเป็นชายชราใกล้ตาย
เฉินโม่จ้องมองเขา สีหน้าเรียบเฉย ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ
“ไม่ว่าทำอะไรล้วนต้องรับผลกระทบ ตั้งแต่วินาทีที่นายคิดจะลงมือจัดการกับเหม่ยหวากรุ๊ป ชะตาชีวิตตระกูลว่านของพวกนายก็ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว!”
“วันนี้ให้ความแค้นนับหกร้อยปีของฉันกับตระกูลว่านของนายจบสิ้นให้หมด!”
แววตาของว่านฉางหรูมีความหวาดกลัว มองเฉินโม่แล้วพึมพำว่า “หกร้อยปี?”
“นายเป็นใคร? นายต้องไม่ใช่เพียงแค่เด็กมัธยมปลายแน่นอน นายเป็นใครกันแน่?”
เฉินโม่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เหมือนว่าแววตาสามารถมองทะลุเพดานไปยังจักรวาล
น้ำเสียงของเฉินโม่เรียบเฉยมาก แต่กลับมีความว่างเปล่าแฝงอยู่ด้วย “นายรู้มั้ย? ที่จริงแล้วการต่อสู้ระหว่างเหม่ยหวากรุ๊ปและตระกูลว่านของนาย สุดท้ายแล้วตระกูลว่านของนายชนะ แต่คนที่ครอบครัวแตกสลายไปคนนั้นคือฉัน”
ใบหน้าของว่านฉางหรูปรากฏรอยยิ้มเยาะเย้ยตัวเอง แล้วพูดอย่างขมขื่นว่า “จนกระทั่งตอนนี้ นายยังพูดจาประชดแบบนี้อีก มีประโยชน์งั้นหรอ? ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร นายชนะแล้ว!”
“ที่ฉันพูดล้วนเป็นความจริง” เฉินโม่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“แต่น่าเสียดายที่ฉันได้มาเกิดใหม่ และฉันก็ยังเป็นผู้บำเพ็ญด้วย ดังนั้นในวินาทีที่ฉันได้เกิดใหม่ ชะตาชีวิตตระกูลว่านของนายก็ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว”
“ใช่สิ ฉันลืมไป นายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรคือผู้บำเพ็ญ” เฉินโม่เหมือนว่ากำลังอธิบายความสงสัยให้กับว่านฉางหรู แล้วก็เหมือนว่ากำลังพูดอยู่กับตัวเอง
“ก็คือการพิชิตฟ้า สู้กับฟ้า สู้กับดิน เป็นอมตะ เป็นผู้แข็งแกร่งท่องเที่ยวในจักรวาล”
“ฉันคือคนประเภทนั้น!”
เฉินโม่พูดจบแล้วหันมองว่านฉางหรู
ว่านฉางหรูเองก็มองเฉินโม่ ทั้งสองคนจ้องตากันอย่างนี้อยู่หนึ่งนาที
ทันใดนั้น ว่านฉางหรูก็หัวเราะออกมา เหมือนดั่งคนบ้าคลั่ง
“ฉันเข้าใจแล้ว”
“เจ้าหนุ่ม ตระกูลว่านของฉันไม่ได้แพ้ และไม่ใช่เหม่ยหวากรุ๊ปเอาชนะฉันได้ แต่คือพระเจ้าที่ชนะฉัน!”
เฉินโม่พูดช้าๆว่า “มีอะไรแตกต่างกันละ? ผู้ที่หายไปจากโลกคือตระกูลว่านของนาย ไม่ใช่เหม่ยหวากรุ๊ปของฉัน”
“แพ้แล้ว สุดท้ายก็แพ้ แพ้ให้กับใคร ก็เหมือนกัน”
ราวกับว่าในที่สุดก็จะได้จัดการกับหนึ่งในศัตรูตัวฉกาจ วันนี้เฉินโม่จึงพูดมากกว่าปกติ ถึงขั้นบอกเล่าความลับภายในใจโดยตลอดออกมาให้ฟัง
ว่านฉางหรูมองเฉินโม่อย่างโหดเหี้ยม แล้วพูดอย่างดุร้ายว่า “ไม่เหมือนกัน มันไม่เหมือนกัน! หากไม่ใช่เพราะว่าพระเจ้าช่วยพวกนาย เพียงแค่ความสามารถเหม่ยหวากรุ๊ปของพวกนาย ตระกูลว่านของฉันทำลายพวกนายได้ง่ายดั่งมดตัวหนึ่งเท่านั้น!”
“ตระกูลว่านของฉันไม่ได้แพ้ให้พวกนาย แต่แพ้ให้กับพระเจ้าที่สมควรตายนี่ต่างหาก!”
เฉินโม่มองเขา พูดนิ่งๆว่า “พอแล้ว ทุกอย่างควรจะจบสิ้นแล้ว”
ว่านฉางหรูล้มตัวอยู่บนพื้น แล้วหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย ในดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย “พระเจ้าชั่ว ไม่ยุติธรรมเลย!”
เฉินโม่โบกมือ ค่ายกลล่าวิญญาณสายเลือดกลายเป็นแสงสีแดง ลอยเข้าใส่ในร่างกายของว่านฉางหรู
ปัง!
เปลวไฟสีเทาลุกโชนใส่ว่านฉางหรูในทันที แต่เขากลับดื้อรั้น ตัวสั่นสะท้านแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมส่งเสียงร้องแม้แต่น้อย
มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งฮ่านหยางผู้เป็นสิงห์ร้าย จนตอนนี้ ในที่สุดก็จบสิ้น
ค่ำคืนนี้ ถูกกำหนดไว้ว่าไม่ใช่ค่ำคืนที่ธรรมดา ทุกหนแห่งทั่วเมืองฮ่านหยาง แม้กระทั่งทุกหนแห่งทั่วประเทศ มีข่าวลือมากมาย บอกว่าสวรรค์เสด็จมาลงโทษ วันโลกแตกใกล้จะมาถึงแล้ว