ตอนที่ 1560 ดาบนั้นคืนสนอง (3)
ไม่เจ็บ ไม่ร้อนเลย
กู่ซินเยียนมองเปลวไฟที่ลุกโชนอยู่ติดกับตัวเอง แล้วแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็นเลย
นางรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความร้อนสูงจากเปลวไฟ แต่มันไม่ได้แผดเผานางเลยสักนิด
[น่าทึ่งเกินไปแล้ว!]
[นี่น่ะหรือวิชาเสริมวิญญาณ?]
กู่ซินเยียนยังคงตกใจอยู่ ข้อมือนางสั่น มือทั้งสองข้างถือแส้เอาไว้ จากนั้นแส้ก็สว่างวาบขึ้นมาและเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นดาบคู่ทันที!
เปลวไฟร้อนแรงห่อหุ้มใบมีดทั้งสอง กู่ซินเยียนอดใจไม่ให้รำดาบไม่ไหว เปลวไฟร้อนแรงทิ้งภาพติดตาไว้ในอากาศตามการเคลื่อนไหวของนาง
ครู่ต่อมา เปลวไฟก็สลายไป ดาบคู่ในมือนางกลับคืนสู่สภาพเดิมของมัน
มันเป็นการเปลี่ยนแปลงแค่ช่วงสั้นๆ แต่ทิ้งร่องรอยที่ไม่อาจลบเลือนได้ไว้ในใจของกู่ซินเยียน นางมองไปที่ดาบคู่ในมืออยู่เป็นเวลานานและไม่รู้จะพูดอะไรดี
ในที่สุดนางก็เข้าใจว่าทำไมในตอนที่นางเข้าสำนักธาราเมฆ ผู้อาวุโสจึงสั่งให้นางพยายามทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อดึงจวินอู๋เข้าสู่วิหารมารโลหิต
ความสามารถของวิชาเสริมวิญญาณได้พลิกทุกสิ่งที่นางคิดว่าตัวเองรู้ไปจนหมดสิ้น
แม้ว่ามันจะมีผลแค่ชั่วระยะเวลาสั้นๆ แต่ใครจะแน่ใจได้ว่ามันจะขยายเวลาให้นานขึ้นไม่ได้? ถ้าคุณสมบัติต่างๆเหล่านี้สามารถเพิ่มลงบนภูติประจำตัวได้ มันก็เท่ากับการเพิ่มพลังในการต่อสู้ของภูติประจำตัวขึ้นอีกหลายเท่าทีเดียว!
การเปลี่ยนแปลงที่ทรงพลังเช่นนี้ แม้แต่ช่างหลอมแหวนที่เก่งที่สุดก็คงทำไม่ได้!
“นี่คือวิชาเสริมวิญญาณของเผ่าจ้าววิญญาณหรือ?” กู่ซินเยียนเงยหน้าขึ้น ดวงตาทอประกายตื่นเต้นโดยไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ นางประหลาดใจกับผลของการเสริมวิญญาณจริงๆ
จวินอู๋เสียพยักหน้า เทียบกับความตื่นเต้นของกู่ซินเยียน ปฏิกิริยาของจวินอู๋เสียสงบกว่ามาก ดูเหมือนนางกำลังคิดอะไรบางอย่าง แล้วพูดขึ้นขณะมองไปที่ดาบคู่ในมือของกู่ซินเยียนว่า “ดูเหมือนว่าวิชาเสริมวิญญาณสามารถใช้กับภูติอาวุธได้ด้วย แต่ไม่รู้ว่าการเสริมวิญญาณจะได้ผลทุกแบบรึเปล่า……”
“เจ้าค่อยๆลองทดสอบได้นะ!” กู่ซินเยียนพูดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
ผลของวิชาเสริมวิญญาณทำให้นางตกใจ และทำให้นางยิ่งมุ่งมั่นที่จะดึงจวินอู๋เสียเข้าวิหารมารโลหิตให้ได้ ถ้านางเอาชนะใจจวินอู๋ได้สำเร็จ เวลาที่วิหารมารโลหิตกับวิหารปีศาจเพลิงแข่งขันกันเพื่อเป็นที่หนึ่งในสิบสองวิหาร มันจะเป็นการเพิ่มพลังให้พวกเขาได้อย่างมาก!
กู่ซินเยียนเต็มไปด้วยความคาดหวังต่อวิชาเสริมวิญญาณ นางดีใจมากที่ได้ช่วยจวินอู๋เสีย นี่ไม่เพียงทำให้นางเข้าใจเกี่ยวกับวิชาเสริมวิญญาณได้ดีขึ้น แต่ยังสร้างโอกาสที่จะทำให้นางกับจวินอู๋เสียได้ใช้เวลาร่วมกันเพิ่มมากขึ้น ทำให้นางสนิทกับจวินอู๋เสียได้ง่ายขึ้น
เป็นผลดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย ทำไมจะไม่ทำล่ะ?
“ไม่รบกวนหรือ?” จวินอู๋เสียไม่ได้ปฏิเสธทันที แต่มองกู่ซินเยียนอย่างเกรงใจเล็กน้อย
กู่ซินเยียนส่ายหัวทันควัน “ไม่รบกวนเลย! เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรือ?” กู่ซินเยียนยิ้มอย่างสดใส นางดีใจมากที่ตัดสินใจถูก ถ้าไม่ใช่เพราะนางเริ่มติดต่อกับจวินอู๋เสียตั้งแต่แรก จวินอู๋เสียคงไม่คิดจะมาขอให้นางช่วยทดสอบวิชาเสริมวิญญาณ และถ้าไม่ใช่เพราะหลินเฮ่าอวี่ทำให้จวินอู๋เสียโดดเดี่ยวได้อย่างสมบูรณ์ นางก็คงไม่มีโอกาสนี้!
เป็นครั้งแรกที่กู่ซินเยียนรู้สึกว่าหลินเฮ่าอวี่ก็ฉลาดอยู่บ้างเหมือนกัน
เมื่อเห็นความกระตือรือร้นของกู่ซินเยียน จวินอู๋เสียก็ตกลงด้วยท่าทางเกรงใจ
ขณะที่กู่ซินเยียนคิดว่าในที่สุดนางก็หาช่องเจาะเข้าไปได้แล้วและใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม นางไม่ได้สังเกตเห็นประกายเย็นเยียบในดวงตาของจวินอู๋เสียเลย