ตอนที่ 1561 มาเล่นกันหน่อย (1)
นับตั้งแต่กู่ซินเยียนตกลงว่าจะ “ช่วย” จวินอู๋เสียทดสอบผลลัพธ์ต่างๆของวิชาเสริมวิญญาณบนภูติอาวุธ ทั้งสองคนก็นัดพบกันทุกวันหลังจากเสร็จสิ้นการฝึกเพื่อทำการทดสอบ
การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนนี้จะรอดพ้นสายตาของหลินเฮ่าอวี่ได้อย่างไร
หลินเฮ่าอวี่ยังแอบดีใจกับตัวเองที่แผนการดำเนินไปอย่างราบรื่นอยู่เลย แต่พอวันรุ่งขึ้นกู่ซินเยียนก็นำ “ข่าวดี” มา และนั่นเป็นตอนที่เขาเข้าใจถ่องแท้ถึงความหมายของคำว่าถูกตบหน้า
รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าหล่อเหลาของเขาสลายไปทันที สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าตอนที่กู่ซินเยียนเล่าทุกอย่างให้เขาฟังอย่างร่าเริงและตื่นเต้นด้วยเสียงที่มีความสุขนั้น ความเกลียดชังในใจเขารุนแรงขึ้นมากขนาดไหน!
[มันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง?]
[จวินอู๋เลือกจะเป็นเพื่อนกับกู่ซินเยียนจริงๆหรือ?]
เห็นได้ชัดว่าหลินเฮ่าอวี่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ไม่ได้ เขาสังเกตจวินอู๋เสียอยู่พักหนึ่ง และรู้ว่าจวินอู๋เสียเป็นคนเย็นชาไม่สนโลก ขนาดเจอกับการกลั่นแกล้งจากศิษย์ทั้งสำนักธาราเมฆ จวินอู๋เสียก็ไม่เคยแสดงความอ่อนแอออกมาเลย ซึ่งเป็นการยืนยันความคิดของหลินเฮ่าอวี่
แต่……
หลินเฮ่าอวี่จะคิดได้ยังไงว่าเรื่องจะไม่เป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้
จวินอู๋เสียไม่ได้แสดงความอ่อนแอ แต่กลับเข้ามาใกล้ชิดสนิทสนมกับกู่ซินเยียนมากขึ้นเรื่อยๆ!!
ตอนนี้หลินเฮ่าอวี่รู้สึกเหมือนว่าเขายกก้อนหินขึ้นมาทุ่มใส่เท้าตัวเอง เขาอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขาไม่พยายามสร้างความลำบากให้จวินอู๋เสีย จวินอู๋เสียจะยังทำหน้าแบบห้ามคนแปลกหน้าเข้าใกล้และไม่ทำตัวสนิทสนมกับกู่ซินเยียนรึเปล่า?
ยิ่งคิด หลินเฮ่าอวี่ก็ยิ่งเสียใจ เขาเสียใจมากจนไส้เขียวเลยทีเดียว
ถ้ารู้อย่างนี้ เขาคงไม่เข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ ปล่อยให้ความสัมพันธ์ระหว่างจวินอู๋เสียและกู่ซินเยียนเป็นแบบนั้นต่อไป ผ่านไปสักพักกู่ซินเยียนอาจจะหมดความอดทนไปเองก็ได้
โชคร้าย ไม่ว่าหลินเฮ่าอวี่จะเสียใจแค่ไหน เรื่องก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว
ทุกวันหลังจากกู่ซินเยียนฝึกเสร็จ นางก็ไม่ได้ใช้เวลากับเขาเพื่อพูดคุยเรื่องของวิหารมารโลหิตอีกต่อไป แต่มักจะนัดพบกับจวินอู๋เสียที่ไหนสักแห่งพร้อมรอยยิ้มสดใสบนใบหน้า
ทุกครั้งที่เห็น หลินเฮ่าอวี่ก็รู้สึกเหมือนกำลังจะกระอักเลือดออกมา!
ความรู้สึกที่เขามีต่อกู่ซินเยียนไม่อาจชัดเจนไปมากกว่านี้ได้แล้ว แล้วจะให้เขาทนดูกู่ซินเยียนออกไปกับคนอื่นอย่างสนิทสนมเช่นนี้ได้อย่างไร?
แต่หลินเฮ่าอวี่ก็ไม่สามารถพูดคำเหล่านี้กับกู่ซินเยียนได้
และสิ่งที่ทำให้แย่ลงไปอีกก็คือ หลังจากกู่ซินเยียนสนิทสนมกับจวินอู๋เสียมากขึ้น กู่ซินเยียนก็ออกคำสั่งกับศิษย์ทุกคนของวิหารมารโลหิตให้เลิกสร้างปัญหาให้จวินอู๋ ถ้าใครด่าจวินอู๋ พวกเขาจะต้องจัดการกับมันด้วยท่าทีที่เป็นมิตรต่อจวินอู๋ ห้ามใช้เล่ห์เหลี่ยมจัดฉากให้ร้ายเขาอีก
พวกผู้เยาว์จากวิหารมารโลหิตไม่มีทางขัดคำสั่งของกู่ซินเยียน สถานการณ์จึงผูกมัดวิหารมารโลหิตกับจวินอู๋เสียเข้าไว้ด้วยกัน
เมื่อกู่ซินเยียนปรากฏตัวพร้อมจวินอู๋เสียต่อหน้าทุกคนบ่อยครั้งเข้า สายตาของศิษย์จากวิหารอื่นจึงแปลกไป
ก่อนหน้านี้วิหารมารโลหิตทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างภาพลวงตาว่าพวกเขาทุกคนปกป้องจวินอู๋ และตอนนี้กู่ซินเยียนก็ถูกมองว่าสนิทสนมกับจวินอู๋ ทำให้ทุกคนเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น
ตอนนี้ เวลาที่พวกเขาด่าจวินอู๋ วิหารมารโลหิตก็จะถูกลากเข้าไปด่าด้วย
แล้วพวกผู้เยาว์จากวิหารมารโลหิตจะสามารถทนต่อการถูกคนอื่นๆชี้หน้าด่าทอได้หรือ?
ตอนนี้ ไม่เพียงสถานการณ์ของจวินอู๋เสียไม่ดีขึ้นเท่านั้น แต่วิหารมารโลหิตก็ยังถูกลากลงโคลนไปด้วยกัน และยังถูกคนจากวิหารอื่นๆอีก 11 วิหารรุมล้อมจากทุกด้าน