ตอนที่ 1562 มาเล่นกันหน่อย (2)
สถานการณ์เช่นนี้เป็นสิ่งที่หลินเฮ่าอวี่ไม่ได้คาดคิดไว้เลย
กู่ซินเยียนเริ่มสนิทสนมกับจวินอู๋เสียมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองพบกันเกือบทุกวันเพื่อศึกษาวิชาเสริมวิญญาณ จวินอู๋เสียไม่ใช่คนช่างพูด นางมักจะทำมากกว่าพูด ในช่วงแรกกู่ซินเยียนยังพยายามชวนจวินอู๋เสียคุย แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาจเป็นเพราะนางได้รับอิทธิพลจากจวินอู๋เสีย กู่ซินเยียนก็เริ่มที่จะเงียบเหมือนจวินอู๋เสียโดยไม่รู้ตัว
เวลาพวกเขาเจอกันก็มักจะเงียบแบบนี้ กู่ซินเยียนค่อยๆยอมรับว่านี่คือเรื่องปกติจนถึงขนาดที่เริ่มรู้สึกสบายใจกับมัน
แม้ว่ากู่ซินเยียนจะเป็นคุณหนูของวิหารมารโลหิตและเคยชินกับการแสร้งทำเพื่อเผชิญกับเรื่องต่างๆมานานแล้ว แต่สิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ก็คือ สุดท้ายแล้วนางก็ยังคงเป็นแค่เด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่ง นิสัยพื้นฐานของนางทำให้นางมีความสุขกับปฏิสัมพันธ์ที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อนเช่นนี้
ยังไงซะ คงไม่มีใครมีความสุขกับการใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงและต้องคอยวางแผนอยู่ตลอดเวลาหรอก
วันนี้กู่ซินเยียนกับจวินอู๋เสียมาเจอกันเพื่อศึกษาการเสริมวิญญาณแบบต่างๆ ยิ่งกู่ซินเยียนเข้าใจวิชาเสริมวิญญาณมากเท่าไร นางก็ยิ่งไม่อยากปล่อยมือจากจวินอู๋ วิชาเสริมวิญญาณมีความสำคัญมากเกินไป แต่ในขณะเดียวกัน นางก็เข้าใจด้วยว่าการใช้วิชาเสริมวิญญาณไม่ใช่ไม่มีขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นเวลาแสดงผลหรือจำนวนครั้งที่ใช้ ล้วนกินพลังของจวินอู๋อย่างมาก
ดังนั้น ทุกครั้งที่จวินอู๋เสียพูดว่าจะหยุด กู่ซินเยียนจะไม่คัดค้านเลย
แต่สิ่งที่กู่ซินเยียนไม่รู้ก็คือ ความเหนื่อยล้าที่จวินอู๋แสดงออกมาทุกวัน ความจริงแล้วอาจเป็นการเสแสร้งของจวินอู๋เสียก็ได้
ก่อนที่จะมาอาณาจักรกลาง จวินอู๋เสียยังไม่สามารถควบคุมพลังที่ใช้ในการเสริมวิญญาณได้ แต่ช่วงนี้นางได้แช่ตัวในสระเหล้ามาตลอด จวินอู๋เสียค้นพบว่าตอนที่นางใช้วิชาเสริมวิญญาณ การใช้พลังในร่างลดลงอย่างมาก เมื่อก่อนพลังที่ใช้ในการเสริมวิญญาณหนึ่งครั้ง มาตอนนี้ใช้ได้ถึงสามครั้ง การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้จวินอู๋เสียประหลาดใจมาก
เห็นได้ชัดว่า วิธีฝึกของซูหย่าไม่ได้เสียเปล่าเลย
“จวินอู๋ เจ้าจะพักสักหน่อยไหม?” กู่ซินเยียนมองใบหน้าที่ซีดเล็กน้อยของจวินอู๋เสีย แล้วอดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
ตอนแรก ความห่วงใยที่นางแสดงออกมานั้นเป็นแค่การเสแสร้ง นางทำเพื่ออยากเอาชนะใจจวินอู๋เท่านั้น เป็นเพียงกลอุบายเล็กๆน้อยๆของนาง แต่ไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไรที่ความห่วงใยจวินอู๋กลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเองโดยไม่รู้ตัว ถึงขนาดที่กู่ซินเยียนไม่ปรารถนาให้จวินอู๋ฝืนตัวเองมากเกินไป แค่ทั้งสองได้ออกมาเดินเล่นด้วยกัน นางก็รู้สึกว่าดีมากแล้ว
จวินอู๋เสียสั่นหัว “ข้าไม่เป็นไร”
กู่ซินเยียนเม้มปาก “เจ้าสีหน้าไม่ดีเลย ช่วงนี้ฝืนตัวเองมากไปรึเปล่า? เอาเป็นว่า……วันนี้เราพักสักหนึ่งวันดีไหม?” คำพูดนี้มาจากความห่วงใยของกู่ซินเยียนอย่างแท้จริง นางรู้สึกปวดใจเมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเล็กน้อยของจวินอู๋เสีย
ความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้เป็นสิ่งที่กู่ซินเยียนไม่เคยสัมผัสมาก่อน
จวินอู๋เสียไม่ตอบ แต่ปรับลมหายใจตัวเอง ในสายตาของกู่ซินเยียน จวินอู๋เสียดูเหนื่อยมาก แต่มีเพียงจวินอู๋เสียเท่านั้นที่รู้ว่า แท้จริงแล้วนางกำลังตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของพลังวิญญาณในร่างของตัวเองต่างหาก
กู่ซินเยียนไม่กล้ารบกวนการพักผ่อนของจวินอู๋เสีย นางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาและยื่นมือออกไปเพื่อเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของจวินอู๋เสีย
“พวกเจ้าทำอะไรกัน!” ทันใดนั้น เสียงตะคอกก็ดังขึ้นจากด้านข้าง
หลินเฮ่าอวี่จ้องจวินอู๋เสียกับกู่ซินเยียนที่ดูใกล้ชิดสนิทสนมกันด้วยสีหน้าโกรธจัด