ตอนที่ 395: สำแดงเดชกลางอากาศ
เมื่อชายชรามองเจี้ยนเฉินที่รวบรวมกระบี่อยู่กลางอากาศใบหน้าของเขาก็ขาวซีดจากความตกใจทันที แต่ไม่มีการหยุด เขากำกระบี่เพลิงแดงของเขาแน่นและพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉินเพื่อพยายามที่จะฟันเขา
เมื่อชายชราฟาดกระบี่ออกไป เจี้ยนเฉินก็ฟันกระบี่สวนกลับมาเช่นกัน
“ปัง ! “
เมื่อกระบี่เพลิงทั้งสองปะทะกัน กระบี่จากดาบทั้งสองก็ระเบิดพลังออกมา รอบ ๆ การต่อสู้ของทั้งสองเต็มไปด้วยลูกไฟกระจายออกมาทั่วทุกที่พร้อมกับรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่กระจายออกมา
หนีเร็ว !
ถอยออกไป !
คุ้มกันฝ่าบาท !
ผู้ชมรอบ ๆ กระจายออกไปทันที ขณะที่ถอยหลังพวกเขาก็ดึงอาวุธเซียนหลากสีออกมาป้องกันเขาและใครก็ตามเป็นคนสำคัญ
เมื่อเห็นเพลิงลุกโหมอย่างฉับพลัน แม้กระทั่งราชาแห่งอาณาจักรฉินหวงก็ยังต้องประหลาดใจ แต่ทันใดนั้นก็มีร่างสีขาวพุ่งเข้าหา ขณะที่ชายเสื้อคลุมฟ้าได้พาราชากระโจนขึ้นไปบนอากาศโดยใช้พลังลมจากพลังเซียน ด้วยการคว้าไหล่ของราชาพร้อมกับบินขึ้นไปบนฟ้าเพื่อหนีจากเพลิง
เซียนปฐพีสามารมองเห็นการเคลื่อนไหวได้ทุกที่ขณะที่เริ่มแผ่พลังเซียนปกคลุมพระราชวัง ทหารในชุดเกราะหลายคนรีบบินขึ้นมาด้านหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับสร้างแนวป้องกัน
ในเวลาเดียวกันชายชรา 4 คนและชายวัยกลางคน 2 คนก็ได้ก้าวออกมาจากผู้คน พร้อมกับล้อมเปลวเพลิงเอาไว้ก่อนที่จะยกมือและใช้พลังลมออกมาเพื่อควบคุมไฟ
ทะเลเพลิงได้บดบังทั้งเจี้ยนเฉินและชายชราที่ต่อสู้กับเขา แต่แม้ว่าเปลวเพลิงจะรุนแรงแต่มันก็ไม่อาจขัดขวางการเคลื่อนไหวของเขาแม้แต่น้อย เมื่อเปลวเพลิงสงบลงจากคนทั้ง 6 ทันใดนั้นก็เกิดพลังที่รุนแรงที่ไม่อาจมองเห็นอยู่ห่างจากพวกเขาเพียง 1 เมตร
ให้ชายชราผู้นี้สู้กับเจ้าจากข้างบนนี้ ! ชายชราพูดขณะที่เขาบินขึ้นไปบนอากาศอีก 500 เมตรและขนาดของเขาก็เท่ากับมด ธาตุไฟได้ปกคลุมทั่วร่างกายของเขา
ไม่อาจเต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ เจี้ยนเฉินก็เริ่มใช้ธาตุลมที่ได้รวบรวมไว้ก่อนหน้านี้เพียงเสี้ยวความคิดของเขา บินขึ้นไปบนอากาศ เขารีบมาอยู่ต่อหน้าชายชราโดยห่างออกไป 100 เมตร
อะไรกัน ! จะ จะ เจ้าสามารถควบคุมธาตุลมได้เช่นกัน ? ชายชราพูดอย่างงุนงงขณะที่เขามองเห็นลมหมุนรอบ ๆ ร่างกายของเจี้ยนเฉิน
แสงสีฟ้าอยู่รอบ ๆ ร่างของเจี้ยนเฉินและคนที่อยู่ด้านล่างก็ไม่อาจสังเกตเห็น พวกเขาแต่ละคนตะโกนออกมาด้วยความตกใจ แต่ไม่ดังเท่ากับเซียนสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ภายในฝูงชน ราวกับว่าพวกเขาเป็นตัวประหลาดเบื้องหน้า พวกเขาต่างมีใบหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความตกใจ
เป็นไปได้อย่างไร ? เห็นได้ชัดว่าการบ่มเพาะของเขาเป็นพลังเซียนธาตุไฟ เขาใช้พลังเซียนธาตุลมได้อย่างไร ?
เขาอาจจะเป็นผู้ใช้พลังเซียนธาตุลมและธาตุไฟ?
เป็นไปไม่ได้ ไม่เคยมีใครสามารถใช้พลังเซียนต่างธาตุกันได้ ! เขาต้องมีวิธีการแปลก ๆ ของเขา !
….
เจี้ยนเฉิน เป็นไปได้หรือไม่ว่าเจ้าสามารถควบคุมธาตุลมและไฟได้ ? ชายชราถามเขาอย่างประหลาดใจ
เจี้ยนเฉินยิ้มและตอบตรง ๆ ถูกต้อง ข้าสามารถควบคุมธาตุไฟและธาตุลมได้จริง ๆ
ไม่ นั่น เป็นไปไม่ได้ ! เจ้าจะควบคุมสองธาตุได้อย่างไร ? ไม่เคยมีใครสามารถทำได้มาก่อนในทวีปนี้ ! ชายคนนั้นตะโกนออกมา
ไม่เคยมีใครทำได้ ไม่ได้แปลว่าทำไม่ได้ ยังมีความลึกลับมากมายในโลกนี้ที่เราล้วนไม่อาจรู้และก้าวข้ามความเข้าใจของเรา
เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินสามารถควบคุมได้ทั้งสองธาตุได้นั่นน่าประหลาดใจอย่างยิ่ง แต่ชายชราก็สงบลงอย่างรวดเร็ว เจ้าพูดถูก ยังมีอีกหลายอย่างที่เราไม่อาจรู้จักในโลกนี้ ดูเหมือนว่าตาเฒ่าอย่างข้าจะหลงหลือไปแล้ว ลมหายใจของเขาหยุดลง เขาถือกระบี่เพลิงในมืออีกครั้ง วันนี้ข้าอยากจะรู้ว่าการที่ควบคุมได้ทั้งสองธาตุจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน
เจี้ยนเฉินยิ่มพร้อมกับยกมือทั้งสองข้าง ทันใดนั้นก้อนหินที่อยู่ในบ่อน้ำใกล้ ๆ ก็เริ่มลอยขึ้นมาราวกับมีแรงดึงดูดแปลก ๆ ได้ดึงมันขึ้น ก้อนหินทุกก้อนที่อยู่ในน้ำลอยมาล้อมร่างของเจี้ยนเฉินทำให้เกิดลางไม่ดี
นี่หมายความว่าอย่างไร ก้อนหินลอยขึ้นมาบนอากาศได้อย่างไร…?
พลังเหล่านี้คืออะไร เขาทำมันได้อย่างไร ?
เมื่อมองเห็นความแปลกประหลาด ทุกคนทำได้เพียงอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
ด้านหลังองค์รักษ์เซียนสวรรค์ทั้งสองคน ราชาแห่งฉินหวงก็มองขึ้นไปบนฟ้า เจี้ยนเฉินผู้นี้ เหนือกว่าที่ข้าคิดเอาไว้อย่างมาก อายุยังน้อยแต่ก็ไปถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ อัจฉริยะเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นคนเดียวในรอบพันปี
หนึ่งในเซียนสวรรค์มองอย่างประหลาดใจ ทำไมต้องรอบพันปี ? พรสวรรค์อย่างนี้ต้องพูดว่ารอบหมื่นปี ! หากความสามารถของเขายังเพิ่มขึ้นโดยไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ เข้ามาแทรก เขาจะต้องเป็นเซียนผู้คุมกฏอย่างไม่ต้องสงสัย การเป็นเซียนราชาก็อาจไม่มีปัญหาสำหรับเขา
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ราชาก็หยุดด้วยความตกใจ แม้กระทั่งองค์ชายที่อยู่ด้านหลังราชาก็ยังตกใจกลัวกับเรื่องนี้ พวกเขาพยายามอย่างมากเพื่อที่จะรักษาความเยือกเย็น ฉินจี๋มองดูเขาอย่างชื่นชมและอิจฉา
สำหรับฉินจี๋ เขาเคยเห็นความกล้าหาญที่น่าทึ่งของเจี้ยนเฉินด้วยตาตัวเองมาก่อน ใจของเขาคิดว่าเจี้ยนเฉินต้องแข็งแกร่งกว่าที่พูดอย่างมาก
ตอนนี้เซียนสวรรค์ได้ละทิ้งความคิดที่จะดูหมิ่นเจี้ยนเฉิน ด้วยการผนึกพลังกระบี่เพลิงของเขาก็ระเหยกลายเป็นไอ
เจี้ยนเฉินลอยอยู่กลางอากาศอย่างมั่นคงเหมือนกับภูเขา ลมที่พัดผ่านร่างของเขาอย่างรุนแรง มือทั้งสองข้างของเขายกขึ้นมาขนานกับหน้าอก ขณะที่ก้อนหินที่ลอยอยู่รอบ ๆ ตัวเขาก็เริ่มรวมตัวกันเป็นรูปแบบกระบี่ที่เปล่งประกายด้วยแสงสีม่วง-ฟ้า