ตอนที่ 242 เขาเชื่อเธอ

กับดักรักในรอยแค้น

ในห้องนอนของวิลล่าบ้านเผย เผยหนานเจวี๋ยนึกว่าฉู่อีอีหลับแล้ว ลุกขึ้นจากเตียงแผ่วเบา ออกไปจากห้องนอน เมื่อประตูปิดลง ฉู่อีอีก็ลืมตาที่สดใสขึ้น 

 

 

           ในห้องที่มืดสนิท ดวงตาของฉู่อีอีทอแสงดังดวงดาว ประกายของดวงตามีความคลุมเครือ 

 

 

           เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ ฉู่อีอีรู้สึกว่ามันแปลกเกินไปแล้ว พอนึกว่างานแต่งงานถูกยกเลิก หัวใจของเธอก็โมโหสุดขีด 

 

 

           การทำให้เผยหนานเจวี๋ยตกลงแต่งงานกับเธอนั้นมันไม่ง่ายเลย คิดไม่ถึงว่าจะมีคนทำพังแบบนี้ 

 

 

           ทั้งหมดที่ลงแรงลงใจไป ในใจคิดว่าหลังจากวันนี้ไป ก็จะได้นั่งตำแหน่งคุณนายเผยอันล้ำค่า แต่ว่าคิดไม่ถึงเลย ริมฝีปากแดงกัดแน่น ฉู่อีอีลุกขึ้นมาจากเตียง 

 

 

           ตกลงว่าเป็นใครกันแน่ ใครที่กล้าทำลายเรื่องดีๆ ของเธอ ฉู่อีอีโมโหในใจ ขุ่นเคืองจนนอนไม่หลับ 

 

 

           เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากฉู่อีอีตื่นนอนล้างหน้าแปรงฟังแล้วก็ไปที่ออฟฟิศของเผยหนานเจวี๋ย 

 

 

           “หนานเจวี๋ย” ฉู่อีอีมาถึงออฟฟิศของเผยหนานเจวี๋ย ในเวลานี้เขากำลังนั่งอยู่ในออฟฟิศของเขา 

 

 

           เธอจะต้องรู้เรื่องให้ได้ว่าใครกล้าทำลายพิธีแต่งงานของเธอกันแน่ ให้เขาได้รู้ว่าเธอไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่นอน! 

 

 

           “อีอี คุณมาได้ยังไง” เผยหนานเจวี๋ยเห็นใบหน้าของฉู่อีอีที่มีความอ่อนโรยเล็กน้อย ขมวดคิ้ว 

 

 

           เมื่อคืนเธอคงจะนอนไม่หลับสินะ เธอจะต้องไม่สบายใจกับเรื่องเมื่อวานแน่นอน 

 

 

           “หนานเจวี๋ย สืบเรื่องของผู้หญิงคนนั้นได้แล้วยังว่ามันคือเรื่องอะไร” 

 

 

           เพิ่งจะถามพอดี เสียงประตูออฟฟิศเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้น “เข้ามา” 

 

 

           เสียงทุ้มต่ำที่เจือปนความขึงขังดังขึ้น เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากพูด 

 

 

           ประตูออฟฟิศเปิดออก ผู้ช่วยเดินเข้ามาจากด้านนอก เมื่อเห็นฉู่อีอี ดวงตามีประกายความเข้าใจชัดเจน 

 

 

           “ประธานครับ สืบเรียบร้อยแล้ว” หลังจากผู้ช่วยเข้ามา มองเผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากอย่างนอบน้อม ไม่รอให้เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยถาม เขาก็พูดถึงเป้าหมายที่เข้ามาแล้ว 

 

 

           “ว่ามา” คำพูดที่เย็นชาดังขึ้น เผยหนานเจวี๋ยเม้มริมฝีปากที่เรียวบาง 

 

 

           คำพูดของผู้ช่วย ทำให้หัวใจของฉู่อีอีตื่นเต้น ดวงตาที่สดใสมองผู้ช่วยไม่กระพริบ 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยนั่งลงข้างฉู่อีอี มือยาวโอบเอวของเธอไว้ เห็นสีหน้าที่ตื่นเต้นบนใบหน้าของเธอแล้ว มือที่โอบเอวฉู่อีอียิ่งแน่นขึ้น 

 

 

           “ท่านประธานครับ ผู้หญิงคนนั้นล่าสุดมีการติดต่อกับคุณหนูถัง ส่วนจะเป็นคุณหนูถังสั่งหรือเปล่าเราสืบไม่เจอ ตั้งแต่ที่ผู้หญิงคนนั้นหายตัวไปเมื่อคืนก็ไม่เจอตัวแล้ว” ผู้ช่วยเล่าข่าวที่สืบเจอทั้งหมดอย่างเรียบง่าย จากนั้นก็ยืนอยู่ข้างเผยหนานเจวี๋ย 

 

 

           เมื่อคืนเขาก็เริ่มสืบเรื่องนี้แล้ว แต่ว่าหลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นหายไปจากพิธีแต่งงาน ก็ไม่พบร่องรอยของเธออีก 

 

 

           คุณหนูถัง? ถังถัง? คำพูดของผู้ช่วย ทำให้สองมือของฉู่อีอีกำแน่น สายตาที่ก้มต่ำมีประกายความโกรธ 

 

 

           ต้องเป็นฉู่เจียเสวียนแน่นอน ต้องเป็นฉู่เจียเสวียนสั่งการแน่นอน ถังถังเป็นเพื่อนสนิทของฉู่เจียเสวียน เธอจะต้องสอนให้เธอมาวุ่นวายของพิธีแต่งงานของเธอแน่นอน ใช่ มันต้องเป็นแบบนี้แน่นอน 

 

 

           ในใจยิ่งคิดยิ่งโมโห แต่ว่าใบหน้าของฉู่อีอีกลับไม่แสดงอาการเลยสักนิด 

 

 

           “หนานเจวี๋ย คุณหนูถังคนไหน ใช่ถังถังหรือเปล่า เพื่อนสนิทของพี่สาวเหรอ” เวลาที่ฉู่อีอีพูดคำว่าพี่สาวสองคำนี้ เธอจงใจเน้นเสียง 

 

 

           ดวงตาจับจ้องเผยหนานเจวี๋ยราวกับว่าต้องการคำตอบ 

 

 

           “อีอี ฉู่เจียเสวียนไม่ทำเรื่องแบบนี้หรอก เรื่องนี้ผมจะหาคำอธิบายมาให้คุณ” 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยก้มหน้าอยู่เหนือศีรษะของฉู่อีอี ดมกลิ่นหอมของผมเธอ โล่งอกในใจ เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของฉู่เจียเสวียนแน่นอน จิตใต้สำนึกของเขาคิดเช่นนี้ 

 

 

           ฉู่อีอีคิดไม่ถึงว่าเผยหนานเจวี๋ยจะพูดกับเธอแบบนี้ ความโกรธในใจยิ่งเพิ่มขึ้น 

 

 

           เธอยังไม่ทันพูดอะไรเลย เผยหนานเจวี๋ยก็ช่วยพูดแทนฉู่เจียเสวียนซะแล้ว ทำไมเธอจะไม่ทำแบบนี้ล่ะ เธอจะต้องอยากแก้แค้นเธอแน่ๆ ฉะนั้นจึงสอนให้ถังถังหาคนมาสร้างความปั่นป่วนในพิธีแต่งงานของเธอ ทำให้เธอแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยไม่สำเร็จ จากนั้นเธอก็จะสามารถอยู่ด้วยกันกับเผยหนานเจวี๋ย 

 

 

           ฉู่อีอีคิดกลับไปกลับมาในใจอยู่ในอ้อมอกของเผยหนานเจวี๋ย ดวงตาราวกับว่าจะมียาพิษหยดออกมาอย่างไรอย่างนั้น