พูดจบแล้ว มั่วชิงเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ พูดต่อว่า
“ชิวจวี๋มีเครื่องประดับราคาแพงอยู่ไม่น้อย ก่อนหน้านี้คุณหนูสงสัยชิวจวี๋อยู่บ้าง ให้ข้าน้อยคอยสังเกตดูชิวจวี๋ เรื่องการหายตัวไปของคุณหนูไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับนางหรือไม่”
“เจ้าพาชิวจวี๋มานี่”
เซียวเหยี่ยนนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ พูดสั่งการ
มั่วชิงพยักหน้า ไม่นานก็เดินนำชิวจวี๋เข้ามา ชิวจวี๋ไม่เคยพบเซียวเหยี่ยนมาก่อน ได้ยินว่าท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต้องการพบ นางก็ตกใจจนตัวสั่นไปหมด ยังไม่ทันได้เห็นรูปร่างหน้าตาของเซียวเหยี่ยนชัดเจนดีก็คุกเข่าดังตุบลงกับพื้น ขดตัวเป็นก้อน ไม่กล้าเงยหน้าด้วยซ้ำ
“อวี้จื้ออยู่ที่ใด”
เซียวเหยี่ยนไม่พูดอ้อมค้อม ถามตรงๆ
ชิวจวี๋ตัวสั่นงันงก พูดจาตะกุกตะกัก เห็นอยู่ชัดเจนว่านางไม่ได้ทำอะไรผิด เรื่องนี้นางไม่ได้เป็นคนลงมือทำ ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามหานางทำไม
“บ่าว…บ่าวไม่ทราบเพคะ”
เซียวเหยี่ยนเริ่มรำคาญพูดว่า
“ชิวจวี๋ ความอดทนของข้ามีขีดจำกัด หากอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปก็บอกเรื่องที่เจ้ารู้มา มิเช่นนั้นข้าจะให้คนเอาเจ้าไปสับเป็นชิ้นๆ ให้สุนัขกิน เจ้าคิดให้ดีๆ แล้วค่อยพูด”
ชิวจวี๋ตกใจจนหน้าขาวซีด คราวนี้นางเสียใจจริงๆ ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ไม่ใช่คนที่นางจะขัดใจได้ ตอนแรกคิดว่าเรื่องนี้นางทำได้อย่างเรียบร้อยไร้รอยต่อแล้ว คิดไม่ถึงว่าหลิงอวี้จื้อเพิ่งจะหายตัวไป เซียวเหยี่ยนก็จะเรียกนางมาทันที
ลังเลอยู่สักครู่ ชิวจวี๋ก็ไม่กล้าปิดบังอีก พูดตะกุกตะกักว่า
“บ่าวไม่ทราบว่าคุณหนูอยู่ที่ไหนเพคะ บ่าวได้เงินจากเหลียนอี๋เหนียง ขาดสติไปชั่วครู่ถึงได้วางยาแฝดใส่ซุปรังนกพุทราแดงของคุณหนู อย่างอื่นบ่าวไม่ทราบแล้วเพคะ ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิตเถิด บ่าวผิดไปแล้วเพคะ…”
ชิวจวี๋พูดจบก็เอาหัวโขกพื้นไม่หยุด เกิดเสียงดังตึงตึงติดต่อกัน
หรูเยียนเข้ามาจากข้างนอก เมื่อได้ยินประโยคนี้ ก็มองชิวจวี๋ที่อยู่บนพื้นอย่างตกใจมาก
“เจ้า…”
ชิวจวี๋เหมือนเจอผู้กู้ชีพอย่างไรอย่างนั้น รีบเข้าไปกอดขาหรูเยียน
“พี่ ข้าขอโทษ ข้าผิดไปแล้วจริงๆ ข้าไม่กล้าอีกแล้ว ข้าขาดสติไปชั่วขณะ ข้าไม่คิดว่าเหลียนอี๋เหนียงจะร้ายกาจขนาดนี้ ไม่นึกว่าจะเอาตัวคุณหนูไป เรื่องอื่นข้าไม่รู้จริงๆ”
“คุณหนูดีกับพวกเราขนาดนี้ เจ้าทำเรื่องไม่ดีกับคุณหนูได้อย่างไร เจ้า…”
หรูเยียนโกรธจนไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว เซียวเหยี่ยนไม่อยากเสียเวลาอีก ลุกขึ้นออกไปหาเหลียนอี๋เหนียงทันที
หลิงอวี้จื้อยังถูกมัดอยู่ ในที่สุดชวีเหยาที่เหม่อลอยอยู่นานก็มีสติกลับมา เดินมาตรงหน้าหลิงอวี้จื้ออีกครั้ง
“ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าก็ได้ แต่เจ้าจะไม่สามารถเป็นพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้แล้ว ข้ายังมีพิษขุยเหล่ยเซียงอยู่หน่อย ในเมื่อเคยเป็นคนปัญญาอ่อนแล้ว เช่นนั้นก็เป็นต่อไปเถิด”
ไตร่ตรองอยู่ตั้งนาน ชวีเหยานี่ใจดีจริงๆ แล้วนี่คิดบ้าบออะไร ให้เธอกลับไปเป็นคนปัญญาอ่อน เช่นนั้นเธอตายไปไม่ดีกว่าหรือ
“ท่านป้า พิษขุยเหล่ยเซียงของท่านวางไว้ตั้งหลายปีแล้ว หมดอายุไปนานแล้ว”
“หากไม่ได้ผลก็ถือว่าเจ้าโชคดี คราวนี้ดูสิว่าท่านเทวดาจะช่วยเจ้าหรือไม่ หากท่านเทวดายืนอยู่ข้างเจ้า ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว แค่ปล่อยเจ้าไป”
“ท่านเทวดายืนอยู่ข้างข้าไปแล้ว มิเช่นนั้นข้าคงไม่กลับมาปกติ ท่านเทวดาเองก็ไม่ใช่เทวดาของข้าคนเดียว จะมาให้พรข้าคนเดียวครั้งแล้วครั้งเล่าได้อย่างไร ข้าไม่อยากเดิมพันกับโชคเช่นนี้ ท่านปล่อยข้าไปไม่ได้จริงๆ ก็ฆ่าข้าเถิด อย่าเล่นแบบนี้เลย”
ชวีเหยาไม่สนใจหลิงอวี้จื้อ ลุกขึ้นไปหาพิษขุยเหล่ยเซียง หลิงอวี้จื้อร้อนใจสุดๆ เธอจะเป็นคนปัญญาอ่อนอีกไม่ได้ มือเท้าถูกมัดอยู่ เธอขยับไม่ไหว มองไปรอบๆ ดูว่ามีของอะไรที่สามารถตัดเชือกได้บ้าง