151 นี่ถึงจะเป็นความสุขใจของจริง(1)

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 151 นี่ถึงจะเป็นความสุขใจของจริง(1)

เย่เฉินได้ยินดังนั้น ก็ยิ้มๆ ออกมา แล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าคุณซ่งจะไม่อยากถูกตระกูลซ่งควบคุมสินะครับ?”

ซ๋งหวั่นถิงก็พยักหน้า ตอบว่า “ฉันคิดอย่างนั้นจริงๆ แต่ว่าฉันไม่มีหนทางอื่น”

“ทำไมละครับ?” เย่เฉินตั้งใจพูด “ผมคิดว่าครั้งนี้ที่คุณปู่ของคุณรอดตายมาได้ ความคิดน่าจะเปลี่ยนไปบ้างนะ บวกกับที่ครั้งนี้

คุณหาตัวผมพบ ถึงได้ช่วยชีวิตเขาไว้ได้ ถ้าเขาซาบซึ้งคุณจริงๆ แล้วคุณจะเอ่ยปากขอความเป็นอิสระ หรือมีสิทธิ์เลือกสามี

ของตนเองได้ ผมคิดว่าเขาก็น่าจะรับปากนะครับ”

ซ่งหวั่นถิงยิ้มแหยส่ายหน้า พูดว่า “ไม่มีทางหรอกค่ะ ต่อให้คุณปู่จะรักฉัน หรืออยากจะรับปาก แต่ก็ไม่กล้ารับปากหรอก”

“ทำไมละครับ?” เย่เฉินถามอย่างไม่เข้าใจ “คุณปู่ของคุณเป็นผู้นำตระกูลไม่ใช่หรือ? ควบคุมทุกอย่างในตระกูลซ่งไม่ใช่หรือ? เขายังจะกลัวอะไรอีก?”

ซ่งหวั่นถิงตั้งใจพูด “ที่ตระกูลซ่งเจริญมาถึงทุกวันนี้ พัฒนาไปมีเส้นสายมากมาย เส้นสายต่างๆ ก็อาศัยกฎเกณฑ์นี้เพื่อเป็นข้อบังคับ เพื่อให้ทุกคนฟังกฎของตระกูล ไม่เช่นนั้น ถ้าคุณแหกกฎไป คนอื่นๆ ก็จะทำตาม พอลูกสาวของคุณแต่งงานได้อย่างอิสระ ลูกบ้านอื่นๆ ก็อยากแต่งงานอย่างอิสระบ้าง ถ้าเป็นเช่นนั้น ตระกูลซ่งก็จะเสียหายอย่างมาก ถ้าทุกคนแหกกฎกันหมด หลายปีเข้า ตระกูลซ่งก็จะล่มจมแน่”

พูดไปดังนั้น ซ่งหวั่นถิงก็พูดต่อ “ที่ตระกูลซ่งไม่ล่มสลายตั้งแต่สมัยยุคราชวงศ์หมิง ราชวงศ์ชิง อยู่รอดมาได้ทุกวันนี้ หลักสำคัญก็คือกฎเกณฑ์ของตระกูล ไม่แหกกฎแม้แต่น้อย ต่อให้แยกสาขาออกไป แล้วมีเส้นสายเพิ่ม แต่พวกสาขาทั้งหลายของ

พวกเรา ต่างก็จับตามองกันเอง ใครก็ไม่สามารถจะทำเรื่องที่ทำให้ตระกูลซ่งเสียหายได้เลย”

เย่เฉินถอนหายใจอีก แล้วตั้งใจพูดว่า “ผมคิดมาตลอดว่าคุณซ่งเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง ไม่นึกว่าคุณเองก็เป็นพญาหงส์ที่ถูกกักขัง

เช่นกัน จะต้องฟังคำของคนอื่นมาจัดการทั้งหมด”

“ใช่นะสิคะ!” ซ่งหวั่นถิงกลุ้มใจจนถอนหายใจ แล้วพูดว่า “เรื่องแบบนี้ ไม่มีทางจะคัดค้านได้เลย”

พูดถึงจุดนี้ ซ่งหวั่นถิงก็ส่ายหัว แล้วยกแก้วไวน์ขึ้นพูดว่า “คุณเย่คะ พวกเราจะไม่พูดเรื่องที่ไม่สบายกันอีก มาค่ะ! ดื่ม! ฉันขอดื่มให้คุณอีกแก้ว!”

เย่เฉินยิ้ม แล้วยกแก้วขึ้น “แก้วนี้ ดื่มให้กับความเป็นอิสระ!”

ซ่งหวั่นถิงก็อึ้ง

ดื่มให้ความเป็นอิสระหรือ?

ตนเองมีความเป็นอิสระที่ไหนกัน?

ถึงแม้จนงง แต่เธอก็บีบยิ้มออกมา แล้วพยักหน้าพูดว่า “มาค่ะ ให้พวกเราดื่มให้กับความเป็นอิสระ!”

ดื่มลงไปอีกแก้ว ซ่งหวั่นถิงเมามากขึ้น เธอมองเย่เฉิน แล้วถอนหายใจพูดว่า “หลายครั้งที่ฉันคิดว่า ตนเองยอมเกิดในครอบครัว

ธรรมดา เช่นนั้น ชีวิตเราอาจจะลำบากหน่อย แต่จะไม่ถูกบังคับเช่นนี้ สิ่งที่ตระกูลฉันมีให้นั้น นอกจากจะเป็นตำแหน่งที่สูงส่ง แล้วก็ความร่ำรวยที่ใช้ทั้งชีวิตก็ไม่หมด ก็ไม่มีความสุขอย่างที่มันควรจะมีเลยจริงๆ”

เย่เฉินยิ้มๆ แล้วพูดว่า “จริงๆ แล้วคนธรรมดามากมายอิจฉาคนที่มีเงินใช้ไม่มีวันหมดอย่างพวกคุณ มีคนเคยบอกไว้ว่า ยอมร้องไห้รถBMW แต่ไม่ยอมนั่งหัวเราะบนรถจักรยาน ในสายตาคุณ จะมีครอบครัวธรรมดามันยากมาก แต่ในสายตาของคนธรรมดาแล้ว ความธรรมดานี้ มันกลับเป็นสิ่งที่พวกเขาอยากจะหลุดพ้นออกไป ทุกคนคิดจนหัวจะแตก ก็เพื่อหาเงินไม่ใช่หรือ?”

ซ่งหวั่นถิงมองเย่เฉิน แล้วตั้งใจพูดว่า “คุณเย่ไงที่ไม่ได้ทำเพื่อเงิน!คุณเองก็ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจจำนวนเงิน เมื่อครู่ ที่ยาเม็ดละ10ล้าน คุณสามารถหาเงินได้ง่ายๆ หลายสิบล้าน แต่คุณกลับไม่ต้องการมัน แต่จะให้ฟรี นี่ไม่ใช่หรือที่มองเงินทองเป็นของนอกกาย?”

เย่เฉินหัวเราะเบาๆ ในใจคิดว่า ที่ตนมองเงินเป็นของนอกกาย ก็เพราะว่าตนไม่ขาดแคลนเงินอย่างไรเล่า

ตอนที่ผมขาดแคลนเงิน คุณไม่ได้เห็น

ตอนนั้น ป้าหลี่ป่วยหนัก เพื่อที่จะหาเงินค่ารักษาเธอ ผมเอ่ยปากขอยืมเงินในงานวันเกิดของนายหญิงใหญ่เซียว

เดิมที่คิดว่า เธอนั้นนับถือศาสนาพุทธ คงจะมีความคิดที่ว่าช่วยชีวิตคนดีกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น เดี๋ยวก็คงให้ตนยืมเงิน