บทที่ 805 คิดถึงนายจะแย่แล้ว / บทที่ 806 จอมมารปล่อยท่าใหญ่แล้ว!

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 805 คิดถึงนายจะแย่แล้ว

ลึกเข้าไปในป่าเล็กของจิ่นหยวน

รปภ. ที่เข้ากะคืนนี้กำลังนั่งยองหลบภัยด้วยกันอย่างลำเค็ญ

“หัวหน้า พวกเราจะได้กลับไปตอนไหนเหรอ”

เฟิงเสวียนอี้ส่ายหน้า “ฉัน…ฉันก็ไม่…ไม่รู้…”

สืออีถอนหายใจ “ฉันว่าอย่างน้อยก็จนกว่าคุณหนูหวันหวั่นจะสร่างเมาตอนเช้าพรุ่งนี้ละมั้ง”

คนอื่นๆ ก็พยักหน้ารัวเห็นด้วย “อืม เห็นแก่ความปลอดภัย รออยู่ที่นี่นานอีกหน่อยก็แล้วกัน! คุณหนูหวันหวั่นเวลาเมาคลั่งนี่น่ากลัวไปจริงๆ…”

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลังฝึกพิเศษ พลังต่อสู้ของคุณหนูหวันหวั่นสูงขึ้นอีกระดับจากตอนอยู่ในบาร์ครั้งนั้นอีก

“ชั่วชีวิตนี้ฉันไม่อยากต่อสู้กับคุณหนูหวันหวั่นที่เมาอีกแล้ว…”

สวนดอกไม้และลานบ้านของจิ่นหยวนใหญ่โตมาก สำหรับเยี่ยหวันหวั่นที่เมามายแล้วเรียกได้ว่าไม่ต่างจากเขาวงกต

คงเพราะดื่มไวน์เมา เยี่ยหวันหวั่นจึงรู้สึกว่าร่างกายร้อนผ่าวมาก หมัดก็คันยิบๆ อยากหาคนมาอัดสักที

แต่เดินวนอยู่ครึ่งเนิ่นนานก็ไม่เจอเงาใครสักคน…

เยี่ยหวันหวั่นเริ่มอยู่ไม่สุขแล้ว

เธอโมโห ทำไมไม่มีคนเลย!

เยี่ยหวันหวั่นกำลังเดินมั่วอย่างงุนงง ฉับพลันนั้นเธอก็เห็นก้อนกลมสีเงินใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง

อ๊ะ!

นั่นมัน…

เยี่ยหวันหวั่นแทบจะถูกก้อนกลมขนฟูสีเงินนั้นดึงดูดความสนใจทันที เธอตาวาววับ วิ่งตึกๆ ไปยังใต้ต้นไม้นั้นอย่างรวดเร็ว

หลังจากเข้าไปใกล้ จึงพบว่าเป็นเสือขาวตัวใหญ่ขนสีเงินปลอดกำลังนอนหมอบอยู่ใต้ต้นไม้

เสือขาวขนมันวาวเรียบลื่น หัวใหญ่ๆ ของมันกำลังฟุบบนกรงเล็บอวบอ้วนต่างหมอน หูแหลมกระดิกเป็นครั้งคราว คงเพราะได้ยินเสียงคนเดินจึงลืมตาขึ้นช้าๆ เผยให้เห็นดวงตาสัตว์ป่าสีเหลืองอ่อน ในดวงตาสัตว์ป่านั้นมีแววระแวดระวังเย็นเยียบ

เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่น ต้าไป๋ก็กลับไปนอนหมอบต่ออย่างไม่สนใจ

“ว้าว ต้าไป๋ๆๆ! นายกลับมาตั้งแต่เมื่อไร! ฉันคิดถึงนายจะแย่แล้ว!”

คงเพราะเมามายจนลืมหวาดกลัว เยี่ยหวันหวั่นพุ่งไปเหมือนลูกธนู เธอโถมหัวใส่ต้าไป๋ จากนั้นก็ฝังหน้าลงไปในขนนุ่มนิ่มของต้าไป๋เสียงดัง ‘ฟุบ’ เข้าคลอเคลียอย่างไม่หักห้ามใจแม้แต่น้อย

ในเวลาเดียวกัน ภายในห้อง

ซือเยี่ยหานยกถั่วลิสงที่ต้มเสร็จแล้วขึ้นชั้นบนมา แต่กลับกลายเป็นว่าในห้องว่างเปล่า เยี่ยหวันหวั่นหายไปแล้ว หน้าต่างก็เปิดอ้าออก

“น่าตายจริงๆ…” ซือเยี่ยหานเปลี่ยนสีหน้าทันที

เขารู้แล้วว่าตัวเองไม่ควรอ่อนข้อให้หญิงสาวสักวินาทีเดียว

ซือเยี่ยหานรีบลงชั้นล่างไปหาคน

แต่ผลคือหาในสวนหนึ่งรอบก็ไม่เจอเงาคน ไม่รู้ว่าเยี่ยหวันหวั่นวิ่นแจ้นไปอยู่ไหนแล้วกันแน่

ขณะที่ร้อนใจเหมือนไฟแผดเผาอยู่นั้น ที่สวนดอกไม้เล็กก็มีเสียงร้องคำรามของสลอเทอร์ดังขึ้นมา…

‘กรร—’

เสียงของสลอเทอร์?

ซือเยี่ยหานรีบวิ่งไปยังทิศทางของเสียงนั้น เขาอ้อมแปลงดอกไม้ไป จากนั้นก็เห็นสลอเทอร์ถูกเยี่ยหวันหวั่นกอดลูบถูไถไม่หยุดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่

ไม่ออกมาแป๊บเดียว ขนเรียบลื่นเรียบร้อยของสลอเทอร์ก็ถูกนวดจนฟูฟ่องยุ่งเหยิงไปทั้งตัว ส่วนสลอเทอร์ก็ดูใกล้จะเขมือบคนแล้วอย่างเห็นได้ชัด ‘กรร…’

มนุษย์หน้าโง่ ไม่เห็นเหรอว่าผู้หญิงของนายกำลังทำอะไรอยู่ มันถูกย่ำยีจนมีสภาพเป็นแบบไหนแล้วเห็นไหม?

เยี่ยหวันหวั่นเกลือกกลิ้งไปมาบนตัวต้าไป๋ “อ๊า! ต้าไป๋นุ่มสบายมากเลย! ต้าไป๋คืนนี้พวกเรานอนด้วยกันนะโอเคไหม”

ซือเยี่ยหานมองฉากตรงหน้าอย่างหมดคำจะพูด หว่างคิ้วเขาปรากฏแววหมดอาลัยตายอยากจางๆ

เขาปกป้องทุกคน แต่กลับลืมว่ายังมีต้าไป๋ด้วยไปเสียสนิท…

———————————————-

บทที่ 806 จอมมารปล่อยท่าใหญ่แล้ว!

ลึกเข้าไปในป่าของจิ่นหยวน

พวกบอดี้การ์ดลับที่ได้ยินเสียงเสือคำรามต่างมีสีหน้าสงสัยเต็มเปี่ยม “หือ นี่มันเสียงอะไร”

สืออีพึมพำ “เหมือนจะเป็นเสียงสลอเทอร์นะ…”

“สลอเทอร์ร้องเสียงน่าเวทนามากเลย เกิดอะไรขึ้น”

“หรือว่ามันถูกคุณหนูหวันหวั่นจับได้”

“เอ่อ งั้น…งั้นมันก็น่าสงสารจริงๆ…”

ทุกคนพลันมองหน้ากันและกันด้วยสีหน้าหวาดกลัว “แม้แต่เสือตัวเดียวก็ไม่ละเว้น…สะ…สัตว์ป่า…ยังไม่เทียบติด…”

สลอเทอร์ที่น่าสงสาร…

ได้ยินเสียงร้องคำรามเสียงแล้วเล่า พวกบอดี้การ์ดลับตัวสั่นงันงกหลบซ่อนในเงา…

พวกเขาต้องซ่อนตัวดีๆ! ต้อง…ต้องไม่ให้คุณหนูหวันหวั่นเจอตัวเด็ดขาด…

ขณะเดียวกัน ซือเยี่ยหานก็กำลังยืนอยู่ตรงข้ามกับหนึ่งคนหนึ่งเสือ

ซือเยี่ยหานเอ่ย “หวันหวั่น ปล่อยสลอเทอร์ไป”

เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้ฟังซือเยี่ยหานตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว กอดรัดต้าไป๋อย่างสุขใจ “แงๆๆ นุ่มมากสบายมากเลย! ที่รักให้สัมผัสดีจังเลย…”

ให้สัมผัสดี…?

สีหน้าซือเยี่ยหานพลันมืดทะมึนลงอีกหลายส่วน เอ่ยน้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อยว่า “หวันหวั่น มานี่”

เยี่ยหวันหวั่นกอดต้าไป๋ไม่ยอมปล่อย “ไม่เอาๆ! ฉันจะอยู่กับต้าไป๋! จะนอนกับต้าไป๋!”

นอนกับต้าไป๋…

ซือเยี่ยหานจ้องหญิงสาวที่ทั้งตัวติดหนึบกับต้าไป๋ราวกับเป็นสุดที่รัก บรรยากาศรอบๆ ยิ่งทวีความเย็นเยียบ

แต่เยี่ยหวันหวั่นยังคงไม่รู้สึกตัว ยังคงหมกมุ่นกับการคลอเคลียต้าไป๋อย่างมีความสุข

เธออยากลูบต้าไป๋แบบนี้มานานมากแล้ว เวลานี้จึงอาศัยสัญชาตญาณเข้าช่วย จะยอมปล่อยมือได้ยังไง!

ซือเยี่ยหานเอ่ยอีกครั้ง “หวันหวั่น ฉันให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้าย”

ฤทธิ์แอลกอฮอล์ของไวน์แดงชักมากขึ้นทุกที สมองเยี่ยหวันหวั่นยิ่งมึนงง รู้สึกว่าเสียงที่ข้างหูช่างรบกวนเธอ ด้วยอารามมึนงง เธอหันมองร่างคนคนนั้นที่มีเงาของกิ่งไม้และใบไม้บดบังอย่างไม่พอใจ “คุณเป็นใคร…หนวกหูมาก…รบกวนฉันกับต้าไป๋นะ…”

ซือเยี่ยหานนิ่งเงียบ

ลมราตรีพลันพัดผ่านมา ใบไม้ส่งเสียงแซ่กๆ

เยี่ยหวันหวั่นเย็นอย่างน่าประหลาด อดตัวสั่นไม่ได้

เวลานี้เอง ผู้ชายที่กวนเธอไม่เลิกคนนั้นก็ก้าวเท้าทีละก้าวออกมาจากเงาช้าๆ…

ใบหน้างดงามเหนือใดเปรียบดุจเทพเซียนของชายหนุ่มจึงปรากฏใต้แสงจันทร์ทีละน้อย เงาที่ด้านหลังเขาเสมือนค่อยๆ เปลี่ยนเป็นภาพวาดหมึกจีน…

ยอดคิ้วเหมือนหมอกควัน สันจมูกโด่ง ดวงตาเย็นเยือกเหมือนน้ำแข็งเย็นเฉียบ ริมฝีปากบางเหมือนดอกท้อเดือนสาม สายตาเย็นชาราวกับดูแคลนทุกคน…

เยี่ยหวันหวั่นได้แต่มองอย่างตะลึงงัน

ซือเยี่ยหานหยุดตรงตำแหน่งที่ห่างจากเยี่ยหวันหวั่นห้าก้าว จากนั้นนิ้วมือเรียวขาวจนแทบจะโปร่งใสก็วางลงบนปกคอเสื้อที่ปิดมิดชิดของตัวเอง เขาขยับนิ้วน้อยๆ แล้วกระดุมหินออบซีเดียนที่อยู่ระหว่างนิ้วก็ถูกปลดออกดัง ‘กึก’…

เม็ดที่หนึ่ง…

จากนั้นก็เม็ดที่สอง…

หลังปลดเม็ดที่สอง ซือเยี่ยหานดึงปกคอเสื้อลง พลันเผยให้เห็นไหปลาร้าที่ทำให้คนใจยุ่งเหยิง…

ความรู้สึกยากเข้าถึงเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นเสน่ห์ที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิงในพริบตา…

เยี่ยหวันหวั่นจ้องคนงดงามตรงหน้าตาไม่กะพริบ ลูกตาไม่ยอมขยับแล้ว

พริบตาที่กระดุมเม็ดที่สามถูกปลดออก ซือเยี่ยหานก็ช้อนสายตาขึ้น ดวงตาลึกล้ำในยามค่ำคืนมีประกายแสงขยับ ประหนึ่งดวงดาวดวงจันทร์สุกสกาวตกลงบนหญิงสาว ขณะเดียวกันริมฝีปากบางก็เปิดอ้าน้อยๆ เอ่ยปากอีกครั้ง “มานี่”

‘สวบ…’

วินาทีที่ซือเยี่ยหานพูดจบ เยี่ยหวันหวั่นปล่อยต้าไป๋ในอ้อมกอด ลุกพรวดขึ้นและพุ่งฉิวเข้าไปหาคนงาม…

…………………….