45 ดึงดูดความสนใจของทุกคน

The Bloodline System

**ตอนที่****45:**ดึงดูดความสนใจของทุกคน

 

‘ละแวกนี้คงเป็นพรที่มอบให้ฉันจริงๆ‘ กุสตาฟคิดพร้อมกับยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขา

 

 

ในตอนท้ายของวันกุสตาฟกำลังเดินไปที่สำนักงานของครูเอมมี่ตามปกติ

 

ระหว่างทางเขาได้รับการจ้องมองจากนักเรียนหลายคนเหมือนอย่างเคย แต่คราวนี้เป็นการจ้องมองที่แตกต่างออกไป

 

ผู้หญิงเหล่านั้นมองมาที่เขาด้วยความปรารถนาในจิตใต้สำนึก ในขณะที่ผู้ชายมองเขาด้วยความอิจฉาเล็กน้อย

 

ทุกคนอดสงสัยไม่ได้ว่า ‘ทำไมวันนี้เขาดูน่าสนใจจัง?’

 

สิ่งที่กุสตาฟไม่รู้คือวิธีการเดินของเขาในตอนนี้ วิธีที่เขาจ้องมองโดยมีการแสดงออกที่ห่างเหิน การกระทำทุกอย่างของเขาได้รับการปรับปรุงให้เป็นวิธีที่น่าดึงดูดแล้ว ซึ่งทำให้คนอื่นสังเกตเห็นเขา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ต้องการก็ตาม

 

ลีลาการเดินของเขาสง่างามมาก ผมสีบลอนด์สกปรกของเขาเปล่งประกายออกมา ความนุ่มนวลของมันโดดเด่น มันถูกมัดไว้ด้านหลังอย่างราบรื่นโดยมีเส้นผมบางส่วนตกลงมาที่ด้านหน้าของเขา

 

ก่อนหน้านี้ผมสีบลอนด์ของกุสตาฟเป็นผมที่แตกแห้งจนเกือบถึงไหล่ของเขา เขาตื่นขึ้นมาในเช้าวันนี้และตัดสินใจที่จะจัดแต่งทรงผมใหม่แทน

 

กุสตาฟเดินผ่านผู้หญิงผมยาวสีดำเรียบ ใบหน้าของเธอสวยมากจนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นตุ๊กตา ผิวของเธอขาวซีดและใบหน้าของเธอเป็นรูปหัวใจที่มีจมูกแหลม รูปลักษณ์ของเธอไม่ได้สมบูรณ์แบบ เธอสูงประมาณ 5’4 ฟุตและดูเหมือนว่าร่างกายของเธอจะเติบโตเต็มที่ในตอนแรก เนื่องจากเนินอกขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าของเธอนั่นเอง

 

“เอ่อ?” เธอหันไปด้านข้างเพื่อจ้องมองกุสตาฟที่เพิ่งเดินผ่านไป

 

เธอมึนงงอยู่ 2-3 วินาทีที่ได้เห็นความสง่างามของเขา แต่เธอก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

 

‘นี่ฉันเป็นอะไรของฉัน? ฉันเคยหัอกเขาแล้วนี่! ‘ เธอเม้มริมฝีปากและหันกลับไปยังจุดที่เธอกำลังมุ่งหน้าไป

 

‘แต่นี่อะไรเขาไม่เห็นฉันเลยเหรอ? เขาไม่ได้สนใจฉันเลยแม้แต่น้อย! ‘ เธอหันไปด้านข้างเพื่อจ้องมองกุสตาฟที่เดินไปข้างหน้าโดยไม่หันไปจ้องใครซักคน

 

‘ฮึ่ม! ฉันไม่อยากที่จะเชื่อว่าไอ้ถังขยะนี่จะถูกมองจากฉันแม้แต่ครั้งเดียวแล้วนี่อะไร! ‘ ขณะที่เธอเดินไปข้างหน้า เธอยังคงจ้องมองไปที่กุสตาฟเพื่อรอให้เขาหันกลับมาและจ้องมองเธอ แต่ก็ได้แต่พบกับความผิดหวังกุสตาฟยังคงเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันมาสนใจแม้แต่น้อย

 

เธอพบว่ามันแปลกและยังคงจ้องมองไปที่ด้านหลังของกุสตาฟต่ออีก 2-3 วินาที ก่อนที่จะได้ยินเสียงตะโกนดังมา

 

“เฮ้ ยูฮิโกะ!” นักเรียนหญิงผมสีเกาลัดร้องเรียกจากข้างหน้า พร้อมกับโบกมือให้

 

“ฉันกำลังไปแล้ว” เธอตอบและหันกลับไปเพื่อเริ่มเดินไปหานักเรียนหญิงคนอื่น ๆ

 

“เธอกำลังมองหาอะไรเหรอ?” นักเรียนหญิงคนอื่นซักถาม หลังจากสังเกตเห็นสภาพแปลก ๆ ของ ยูฮิโกะที่ทำท่าทางหันไปรอบ ๆ เป็นครั้งคราว

 

“ไม่มีอะไรหรอก มาร่า เราไปที่ Dojo กันเถอะ” ยูฮิโกะตอบและเพ่งสายตาไปข้างหน้า

 

“เอาล่ะ ฉันจำไว้ว่าแกยังต้องดวลกับมาสึบะคนนั้นนี่ และแกต้องชนะเขาให้ได้นะ ไม่งั้นแกจะต้องไปเดทกับเขา” มาร่าพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว

 

“ฉันไม่ไปเดทกับคนงี่เง่าแบบนั้นหรอก! โดยเฉพาะคนที่แพ้เกรด F น่ะ” ยูฮิโกะพูดด้วยความรังเกียจ

 

“อืม ฉันยังสงสัยว่าเด็กเกรด F คนนั้นคือใคร … พวกเขาบอกว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาสูงกว่าเลือดผสมทั่วไปและเขาสามารถเอาชนะมาสึบะได้ในไม่กี่วินาที! ปัญหาเดียวคือเขามักจะอยู่ที่ชั้นสุดท้ายเสมอ และไม่ชอบคบค้าสมาคมกับใคร จึงไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่” มาร่า วิเคราะห์ด้วยท่าทางทึ่ง

 

“มันไม่สำคัญหรอก เพราะมันไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าคนเกรด B แพ้คนเกรด F! คุณคิดว่าฉันจะแพ้คนๆนั้นด้วยเหรอ?” ยูฮิโกะดูเหมือนจะกำลังโกรธอย่างรุนแรง ขณะที่เธอถามมาร่า

 

“ไม่มีทางหรอก เขามีความแข็งแกร่งทางร่างกายที่บ้าคลั่งหรือไม่ยังไงก็ตาม การต่อสู้นั่นก็ไม่ได้เกี่ยวกับความแข็งแกร่งเลยแต่อย่างใด ฉันมั่นใจว่าแกจะต้องชนะแน่นอน” มาร่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“ฮึ่ม! มาสึบะนั่นเป็นคนน่าขายหน้าจริงๆ แต่ก็ยังโอ้อวดและมีความกล้าที่จะขอเดทกับฉันอีกนะ … ฉันจะทำให้แน่ใจว่าเขาคิดผิดแล้ว ฉันต้องชนะเขาให้ได้!” ยูฮิโกะพูดด้วยท่าทางรังเกียจ

 

 

กุสตาฟเดินเลยห้องทำงานของครูเอมมี่ไป หลังจากนั้นไม่กี่นาที เพราะเขาเอาแต่คิดเรื่องอื่นในระหว่างทาง เขาคิดหาวิธีใช้สายเลือดในการจัดการปรมาณูในการต่อสู้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจไปที่สภาพแวดล้อมรอบกายของเขามากนัก

 

เขารู้ว่าเขาเดินผ่านยูฮิโกะที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโรงเรียนไป นอกจากนี้ยังเป็นคนเดียวกันที่ขยี้ความรู้สึกของเขาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่เขายุ่งอยู่กับความคิดของเขามาก จนไม่ได้แม้แต่จะสนใจเธอเลยด้วยซ้ำ

 

ยูฮิโกะรู้สึกประหลาดใจ เนื่องจากไม่เคยมีครั้งใดที่กุสตาฟเห็นเธอแล้วเขาจะไม่จ้องมองเธอด้วยความรัก สายตาของเขาจะเต็มไปด้วยการสรรเสริญ จนกว่าเธอจะละสายตาไป เธอพบว่ามันค่อนข้างน่ารำคาญ แต่เธอก็ชอบที่จะได้รับการบูชาจากเขา ดังนั้นเธอจึงยิ้มออกมาโดยไม่สนใจกุสตาฟเลยแม้แต่น้อย

 

เธอคาดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งในวันนี้

 

ครูเอมมี่ และ กุสตาฟ กำลังมุ่งหน้าไปที่ Dojo หลังจากนั้น

 

 

2 ชั่วโมงหลังจากไปถึง Dojo กุสตาฟกำลังจะเสร็จสิ้นการฝึกสำหรับวันนี้ เขาได้ต่อสู้กับ ครูเอมมี่ แล้ว ซึ่งแน่นอนว่ามันจบลงด้วยการพ่ายแพ้ของเขา

 

ครูเอมมี่มักจะไร้ความปราณี เมื่อฝึกฝนในเรื่องความเร็วของกุสตาฟ และกุสตาฟก็ยังคงไม่ได้เข้าใกล้เธอแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะต้องใช้โหมดวิ่งแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่สามารถสัมผัสกับครูเอมมี่ได้ เขาจะโดนการเตะและต่อยที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนรถไฟชนตัวเขาอยู่เสมอ

 

ครูเอมมี่จะพูดหลังจากเอาชนะเขาว่า “ฉันใช้กำลังไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์เลยนะ นี่เธออ่อนแอขนาดนี้เลยเหรอ!”

 

กุสตาฟทึ่งในความแข็งแกร่งของเธอเสมอ ส่วนที่ไร้สาระที่สุดคือกุสตาฟไม่เคยเห็นว่าครูเอมมี่ใช้ความสามารถทางสายเลือดของเธอตอนไหนเลย เมื่อใดก็ตามที่เขาปรามเธอได้ เธอก็จะหลบการโจมตีของเขาเสมอ ราวกับว่าเธอสามารถคาดเดาได้ เธอฝึกฝนกุสตาฟในการต่อสู้ และเธอก็อนุญาตให้เขาใช้ความสามารถของเขาได้ ซึ่งเธอยังไม่เข้าใจมันจนถึงตอนนี้ ว่าเขาพัฒนาจากเดิมขนาดนี้ได้ยังไง

 

กุสตาฟใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงกับครูเอมมี่ และเขาก็ใช้เวลาที่เหลือในการฝึกเดี่ยว

 

ขณะนี้เขากำลังโจมตีเครื่องจักรที่ดูเหมือนหุ่นยนต์ นี่เป็นการต่อสู้ที่คล้ายกันกับหุ่นยนต์ AI ที่เอนดริกเคยต่อสู้ ตอนที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบมาถึงเมื่อ 3 เดือนก่อน

 

เขาใช้ความสามารถในการสลายตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาต้องการฝึกฝนมันให้ดีพอ ที่จะใช้ในการต่อสู้  แต่มันก็เป็นไปไม่ได้เลย

 

นี่คือความสามารถที่เชื่อมโยงกับสายเลือดที่เขาได้รับจากเบน วันที่เขาดึงความสามารถนี้ออกมาเขาพบว่ามันช้ามากและไม่สามารถใช้งานได้จริงในการต่อสู้

 

มันเป็นความสามารถที่ดีมาก แต่มันช้า วันที่เขาฆ่าพอล เขาใช้ความสามารถนี้สลายเซลล์สมองของฮังโจและเบนหลายพันล้านเซลล์

 

ความสามารถสามารถที่จะทำให้ทุกสิ่งที่เข้ามาสัมผัสหายไปได้ กุสตาฟได้ทำการทดสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันช้ามากในการทำให้เกิดการสลายตัวจากระดับอะตอม แต่โชคดีที่กุสตาฟมุ่งเน้นไปที่มันสมองของพวกนั้น เมื่อเขาใช้มัน ซึ่งทำให้มันเร็วมากขึ้นได้

 

เมื่อเขาพยายามสลายสิ่งที่ใหญ่กว่าเขาจะต้องใช้เวลาซักพัก ก่อนที่เขาจะทำให้มันหายไปอย่างสมบูรณ์แบบได้

 

บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!

 

มือของกุสตาฟเปล่งแสงสีน้ำนม ซึ่งมีเพียงเขาเท่านั้นที่มองเห็น ขณะที่ฝ่ามือของเขากระทบกับ AI ที่มีความสูง 2 เมตร

 

และตอนนี้แทบจะมองไม่เห็น แต่เมื่อใดก็ตามที่เขากระแทกส่วนนั้นของAI ส่วนนั้นของAIก็จะลดลงเล็กน้อย มันจะบีบอัดไปเล็กน้อย แต่มันไม่ได้เกิดจากความแข็งแกร่งของเขามันเป็นเพราะความสามารถในการสลายตัวของเบน

 

กุสตาฟนั่งยองๆ ในขณะที่เขาหลบแขนซ้ายที่เหวี่ยงออกของ AI และเหวี่ยงฝ่ามือออกไปทางด้านข้างของมัน

 

บึ้ม!

 

มีการสัมผัสกันอีกครั้ง และคราวนี้ด้านซ้ายของ AI ก็จมลงไปถึง 1 นิ้ว

 

‘มันกำลังดีขึ้น แต่ … ‘ กุสตาฟกำลังอยู่ในความคิดของเขาและกำลังจะโจมตีมันอีกครั้ง แต่ก็ได้ยินเสียงจากภายนอกก่อน

 

เขาหยุดการโจมตีชั่วคราวและเคลื่อนตัวไปข้างหลัง

 

“เปิดใช้งานโหมด Sleep!” กุสตาฟกล่าว

 

“เข้าสู่โหมด Sleep!” ได้ยินเสียงหุ่นยนต์ AI ตอบกลับ และตอนนี้ AI กำลังปิดตัวลง

 

– “ที่นี่?”

 

– “ใช่นี่คือ Dojo“

 

– “แค่เรียกเขาออกไป“

 

– “คุณเรียกเขาทำไม และคุณมาที่นี่ทำไม“

 

กุสตาฟได้ยินเสียงของบางคนที่มาจากข้างนอก

 

เหมือนกับได้ยินเสียงของชายหนุ่มและหญิงสาวกำลังโต้แย้งบางอย่างอยู่

 

‘ดูเหมือนว่าในที่สุดพวกเขาก็จะเติบโตขึ้นบ้างแล้วนะ‘ กุสตาฟหันกลับมาและเริ่มเดินไปที่ประตู

 

‘ถึงเวลาเก็บค่าชดเชยเพิ่มแล้ว‘ ตอนนี้สามารถเห็นรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของกุสตาฟได้ ในขณะที่เขาไปที่ประตูของ Dojo และหลบอยู่

————————————————————–