บทที่ 189 เมื่อคู่อาฆาตมาเจอกัน ความบาดหมางก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

พอได้ยินเสียงที่มาจากด้านข้างของตัวเอง คิ้วของเชอร์รีนก็เริ่มขยับ แต่ว่ามือก็ยังคงทำงานต่อไป ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา

จนองุ่นถูกล้างเกือบหมดแล้ว เธอถึงได้เงยหน้าขึ้นและเหลือบมองอย่างไม่ตั้งใจ แต่ก็เห็นว่าในมือของทั้งสองคนมีองุ่นจำนวนมากที่เปลือกแตกขาด แม้แต่น้ำองุ่นก็ไหลออกมา

ท่าทางดูรื่นเริงไม่น้อย มือเล็กๆ ขาวๆ ของซารางหยิบเอาองุ่นลูกที่มีน้ำไหลออกมา ยื่นไปตรงหน้าของออกัส กลิ้งไปกลิ้งมา และปากเล็กๆของเธอก็พูดว่า “คุณลุงอย่าขยับ เดี๋ยวหนูจะนวดให้”

ออกัสเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเคร่งขรึมเล็กน้อย พอเห็นดังนั้น ซารางก็รู้สึกกลัว ไม่กล้าทำอะไรไม่ดีต่อ

วินาทีต่อมา ออกัสก็ยื่นแขนที่เรียวยาวของเขาไปหยิบองุ่นจากที่เชอร์รีนได้ล้างเอาไว้แล้ว แล้วก็ปอกเปลือกองุ่นออก พร้อมกับยัดเข้าไปในเสื้อของซาราง

องุ่นยังเปียกน้ำอยู่ เมื่อไหลผ่านเสื้อผ้า ร่างเล็กๆ ของซารางก็บิดเบี้ยว ปากน้อยๆ ของเธอหัวเราะคิกคัก แล้วก็เลียนแบบเขา เยิบองุ่นจากน้ำขึ้นมา แล้วก็ยัดเข้าไปในเสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีดำของเขา

องุ่นบางเม็ดลงไปในเสื้อผ้า ส่วนบางเม็ดก็ไหลลงไปในกางเกงของเขา แล้วก็ไหลผ่านสูตและกางเกงของเขาแล้วตกลงไปที่พื้น

ซารางเต้นอย่างมีความสุข เธอกระโดดโลดเต้น แล้วก็เผลอเหยียบองุ่นที่อยู่ตรงเท้าของตัวเอง จนยุ่งเหยิงไปหมด

ห้องครัวซึ่งสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยเมื่อครู่นี้ กลับกลายเป็นความโกลาหลในทันที ตรงเท้าก็ทั้งยุ่งเหยิงและเลอะเทอะ เชอร์รีนขมวดคิ้วเข้าหากันและพูดว่า “ออกไป!”

เสียงที่ดังขึ้นฉับพลันทำให้ซารางหดตัวเล็กน้อย จะเงียบลงไปทันที แต่ก็ไม่ได้ลืมที่จะปัดความรับผิดชอบ มือน้อยๆ ของเธอยื่นไปดึงกางเกงของออกัสแล้วพูดว่า “คุณลุงขา หม่ามี๊ให้คุณลุงออกไป!”

“เจ้าคนทรยศ!”ออกัสหรี่ตาลง เสแสร้งทำเป็นโกรธ

“หึ!หนูไม่ใช่คนทรยศสักหน่อย คุณลุงนั่นแหละเริ่มก่อน หนูก็เลยทำตามคุณลุง” จมูกอันน่ารักของเธอย่น แล้วก็ตอบอย่างไม่พอใจ

องุ่นที่ถูกเหยียบอยู่ใต้เท้ามันสกปรกขึ้นเรื่อยๆ เชอร์รีนมองซาราง แล้วก็พูดด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำและเคร่งขรึม “ลูกออกไปเลย!”

ซารางรู้สึกเศร้าใจ เธอก้มหน้าลง แล้วก็จับมือของตัวเองเอาไว้ทั้งสองข้าง ท่าทางนั้นมันดูใสซื่อและน่ารักดี

ออกัสยกริมฝีปากขึ้น เขาเอนตัวเข้าไป แล้วก็อุ้มซารางขึ้นมา แล้วก็เอานิ้วลูบหน้าผากเล็กๆ ของเธอเบาๆ “ถูกทิ้งซะแล้วเหรอ หืม? ”

ซารางไม่พูดอะไร ได้แต่ทำปากมุ่ย มองดูท่าทางของเธอแล้วออกัสก็ได้แต่ยิ้ม แล้วสายตาที่ลึกซึ้งของเขาก็กวาดมองไปที่เชอร์รีน หลังจากนั้นก็พูดกับซารางว่า “หม่ามี๊หนูดุเหมือนเสือไหม?”

ซารางเหลือบมองหม่ามี๊อย่างระมัดระวัง แล้วก็บิดตัวมากอดออกัสไว้แน่น หัวเล็กๆ ของเธอพยักหน้าอย่างรุนแรงเหมือนไก่จิกแล้วก็พูดว่า “เหมือนแม่เสือเลยค่ะ คุณลุงไปเร็ว!”

แล้วเธอก็มองไปที่เชอร์รีนด้วยสายตายั่วยุเล็กน้อย ออกัสอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ใบหน้าหล่อเหลานั้นอ่อนโยนและมีความสุข

เชอร์รีนไม่พูดอะไร แล้วก็ไม่ไปโต้เถียงอะไรกับเขา สำหรับสายตาที่ยั่วยวนและลำพองใจนั้น เธอเอาแก้วตักน้ำขึ้นมาจากอ่าง แล้วก็สาดเข้าไปที่เขาทันที

แน่นอนว่าสายตาและร่างกายว่องไวกว่า ออกัสอุ้มซารางหลบไปด้านข้าง แล้วก็เดินออกจากห้องครัวไปด้วยรอยยิ้ม

พอทั้งสองคนเดินออกไปแล้ว เชอร์รีนก็กัดฟัน ก้มตัวลงและทำความสะอาดบนพื้น ไม่ควรปล่อยให้เขาเข้ามาในห้องครัวเลยจริงๆ !

ในห้องรับแขกนั้น ออกัสนั่งพิงโซฟาอยู่ ซารางก็ห้อยโหนอยู่บนตัวเขาเหมือนลิง เมื่อเด็กๆ ของเธอก็กดรีโมท

เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ป้าบัวก็ยิ้มออกมา ความสัมพันธ์ระหว่างคุณออกัสกับคุณหนูน้อยนั้นดีขึ้นมากเลย

พอเดินไปถึงห้องครัว หลังจากที่เธอเห็นเชอร์รีนกำลังทำความสะอาดพื้นอยู่นั้น ก็รีบพูดว่า “คุณเชอร์รีน ให้ป้าทำเองเถอะค่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้า ให้ฉันทำเองเถอะ ไหนๆ มือฉันก็เลอะไปแล้ว ให้เลอะคนเดียวเถอะค่ะ”

ถึงแม้ว่าจะรู้ดีว่าเรื่องบางอย่างก็ไม่ควรถาม แต่ว่า ป้าบัวก็ยังไม่สามารถอดทนต่อความสงสัยในใจได้ ก็เลยถามว่า “ทำไมตอนแรกคุณเชอร์รีนถึงหย่ากับคุณออกัสเหรอคะ?”

เธอรู้สึกว่าทั้งสองคนนี้เหมาะสมกันมาก แล้วอีกอย่างก็ยังมีซารางอีก ดูเป็นครอบครัวที่มีความสุขมาก แล้วทำไมถึงต้องหย่ากันด้วยล่ะ?

พอได้ยินดังนั้น มือของเชอร์รีนก็ชะงักไปทันที แต่ก็กลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว แล้วก็ตอบอย่างสบายๆ ว่า “ก็หย่านั่นแหละค่ะ”

ป้าบัวก็ไม่ได้ถามอะไรอีก เธอก็แค่รู้สึกเสียดายพวกเขาทั้งสองคน

ส่วนทางด้านนี้ในห้องรับแขก ซารางก็ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ ออกัสเอนตัวพิงและอ่านเอกสารอยู่ ร่างเล็กๆ ของเธอก็ขยับขึ้นแนบกับหน้าอกเขา บิดซ้ายทีขวาที แล้วก็ป้อนองุ่นให้เขาด้วย

ตอนที่เดินออกมาจากห้องครัวนั้น เชอร์รีนก็เห็นเหตุการณ์นี้พอดี ทันทีหลังจากนั้น ก็เหมือนกับว่าจะมีปัญหาบางอย่างกับสัญญาบริษัท เขาวางซารางลงบนโซฟาด้วยสีหน้าที่มืดมน แล้วสายตาก็เหลือบมองมาที่เธอ ริมฝีปากของเขาขยับ น้ำเสียงทุ้มต่ำแต่กลับนุ่มนวล “คุณอยู่กับซารางที่นี่ไปก่อนนะ อีกแป๊บหนึ่งผมกลับมา……”

เชอร์รีนรู้สึกใจเต้นเล็กน้อย เหมือนกับมีก้อนหินถูกขว้างลงบนผืนน้ำที่สงบนิ่ง ทำให้เกิดระลอกคลื่นจางๆ ขึ้น สายตาของเธอเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไร

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่พูด เธอก็อยู่คอนโดเป็นเพื่อนซารางอยู่แล้ว

แต่พอเขาพูดออกมา มันก็เหมือนกับสามีที่กำลังจะออกจากบ้านฝากฝังงานบ้านให้กับภรรยา แต่ว่าจากความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนนี้แล้วมันไม่เหมาะสมที่เขาจะพูดออกมาแบบนั้น!

พอเขาออกไปแล้ว เชอร์รีนก็นั่งลงบนโซฟา แล้วก็เห็นว่าซารางกำลังเล่นจิ๊กซอว์อยู่ เป็นรูปของวิค คนตัดไม้

“ใครซื้อให้ลูกเหรอ?”เธอทำได้ความสงสัย

“คุณลุงค่ะ”ซารางเอามือจับหนึ่งหัวของตัวเอง ส่วนอีกมือหนึ่งก็กำลังค้นหาชิ้นส่วนที่เหมาะสมในกระดาน “หม่ามี๊ คุณลุงยังบอกอีกว่าจิ๊กซอว์มันจะสามารถพัฒนา IQ ของเราได้ IQ คืออะไรเหรอคะ?”

เชอร์รีนก้มตัวลงไป แล้วก็เก็บชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ที่หล่นอยู่ที่พื้นลงมาพร้อมกับอธิบายว่า “ IQคือสิ่งที่ทำให้คนเราฉลาดขึ้น”

ทันใดนั้นซารางก็พยักหน้าและกะพริบตา “หม่ามี๊ หรือว่าคุณลุงคิดว่าหนูโง่ ก็เลยซื้อจิ๊กซอว์ให้หนูเหรอคะ?”

ตอนที่เชอร์รีนกำลังจะพูดอะไรนั้น ประตูคอนโดก็ถูกเปิดออก แล้วก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เธอหันหน้าไปมองตามสัญชาตญาณ แต่หลังจากเห็นคนที่เข้ามานั้น คิ้วของเธอก็ขมวดเข้าหากันอย่างรุนแรง

ไม่คิดเลยว่า หลังจากผ่านไปเกือบ 4 ปี ทั้งสองคนจะกลับมาเจอกันอีกในสถานการณ์แบบนี้

ซารางเองก็หันหน้าไปเหมือนกัน แล้วก็เห็นคุณย่าที่เคยมาในครั้งที่แล้ว เธอก็หรี่ตาลงและก็เรียกด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน “คุณย่าคะ”

สุนันท์ไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่เลิกคิ้วที่ละเอียดอ่อนของตัวเองขึ้น พอเห็นเชอร์รีนสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปในทันที น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

“ลูกสาวฉันอยู่ที่นี่ ฉันก็ต้องอยู่ที่นี่สิคะ”เชอร์รีนมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชา ไม่ได้รู้สึกดีต่อเธอเท่าไหร่นักหรอก

“เชอร์รีน นี่เธอยังคงหลงงมงายโงหัวไม่ขึ้นอยู่อีกเหรอ? 4 ปีที่แล้วเธอไม่สามารถขึ้นมานั่งในตำแหน่งคุณนายเล็กของตระกูลสิริไพบูรณ์ได้ เธอคิดว่าการเอาเด็กมาเป็นหมาก แล้วออกัสจะตกหลุมพรางอย่างนั้นเหรอ?”

พอได้ยินคำพูดนี้ เชอร์รีนก็รู้สึกว่าน่าขำ “คุณหญิงตระกูลสิริไพบูรณ์ ฉันขอแนะนำว่าคุณอย่ามั่นใจในความคิดของตัวเองเกินไปหรอกค่ะ สรุปแล้วมันคือการที่ฉันใช้ลูกเป็นหมาก หรือว่ามันเป็นเพราะว่าออกัสจะแย่งลูกไปจากฉันกันแน่ เมื่อคุณพูดอะไรพวกนี้ออกมาโดยที่ไม่รู้อะไรเลย มันน่ารำคาญนะคะ!”

“ไม่เจอกัน4ปี แต่ทางเจ้าเล่ห์ของเธอยังไม่เปลี่ยนไปสักนิด แถมยิ่งนับวันยิ่งๆ ขึ้นกว่าเดิม!”สุนันท์พูดอย่างเย็นชา “เธอคิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์อย่างเธอได้เหรอ?”

“ไม่เชื่อก็แล้วไป งั้นพวกเรามาสร้างข้อตกลงกันดีไหมล่ะค่ะ?”ดวงตาของเชอร์รีนเป็นประกาย และมีแสงสลัววับผ่านดวงตาโตอย่างรวดเร็ว

“เธอคิดจะเล่นลูกไม้อะไรอีก?”

เชอร์รีนหัวเราะเบาๆ แล้วตอบว่า “สถานะของคุณหญิงตระกูลสิริไพบูรณ์ในเมืองsนี่ยิ่งใหญ่ครอบจักรวาล ฉันจะมาเล่นลูกไม้อะไรได้อีกล่ะคะ แต่ว่าเนื้อหาในข้อตกลงที่ฉันจะเสนอมันไม่มีอันตรายอะไรต่อคุณหญิงตระกูลสิริไพบูรณ์เลย อยากลองฟังหน่อยไหมคะ?”

สุนันท์มองเธออย่างระมัดระวัง “พูดมาสิ”

“พวกเรามาทำข้อตกลงกัน ถ้าเกิดว่าคุณหญิงตระกูลสิริไพบูรณ์สามารถทำให้ลูกชายของตัวเองสละสิทธิ์การเลี้ยงดูของซารางได้ ฉันก็จะพาซารางออกจากเมืองsไป แล้วก็จะไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าคนของตระกูลสิริไพบูรณ์อีกแม้แต่คนเดียว ว่าไงคะ?”

เชอร์รีนคิดคำนวณให้ตัวเองได้ประโยชน์สูงสุด เริ่มจากสุนันท์ ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดี

สุนันท์จ้องหน้าเชอร์รีนอยู่นาน แล้วก็หัวเราะเอามาว่า “เธอเป็นใครทำไมฉันถึงต้องเชื่อเธอ? ย้อนกลับมาว่ากันอีกที ฉันจะเชื่อใครก็ได้ แต่ไม่มีทางเชื่อเธอหรอก!”

ที่เธอไม่ตอบตกลง เพราะมีเหตุผลอยู่ 2 ข้อ ข้อแรกคือเธอยังไม่เข้าใจอย่างแน่ชัดว่าเชอร์รีนคิดอะไรอยู่ หรือวางแผนอะไรอยู่

นอกจะข้อนี้ เหตุผลที่สองก็คือ ความรู้สึกที่ออกัสมีกับเด็กคนนี้เธอก็เห็นอยู่กับตา ถ้าเกิดว่าออกัสรู้เรื่องนี้เมื่อไหร่ ผลที่ตามมามันคงแย่ซะจนไม่อยากจะนึกถึงเลย!

“แล้วอีกอย่าง ตระกูลสิริไพบูรณ์เป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงการเลี้ยงเด็ก 1 คนนะ จะเลี้ยง 10 หรือ 20 คนก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร ถ้าเกิดว่าออกัสต้องการสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเด็กคนนี้จริงๆ ตระกูลสิริไพบูรณ์ของพวกเราก็เลี้ยงได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย”

คำพูดของเธอหยุดไปครู่หนึ่ง สุนันท์เล่นกับมือที่เพ้นท์เล็บสีแดงของตัวเอง แล้วก็พูดจาถากถางว่า

“เด็กคนนี้เป็นเลือดเนื้อของตระกูลสิริไพบูรณ์ สามารถเข้ามาอยู่ในตระกูลของเราได้ แต่ว่าเธอไม่ต้องแม้แต่จะคิดเลย! เพราะว่า 4 ปีก่อนหยาดฝนอยู่ที่อเมริกา เธอก็เลยเข้ามาได้ แต่ว่าอีกไม่นานหยาดฝนก็จะกลับมาแล้ว อ้อ ใช่สิ ลืมบอกไปเลย เพื่ออกัสแล้ว หยาดฝนได้ถอนหมั้นกับคู่หมั้นของตัวเอง พอหยาดฝนกลับมาเมื่อไหร่ พวกเขาก็จะหมั้นกัน แล้วก็แต่งงานกัน……”