บทที่ 261 เปลี่ยนที่นั่ง

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

“ประธานเทาเท่” หลินจือทักทายเทาเท่ด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นทางการ จากนั้นก็ไม่พูดอะไรสักคำ

เทาเท่เห็นท่าทีเย็นชาของเธอที่จงใจทำเป็นไม่รู้จักเขา แล้วนึกถึงภาพที่เธอกอดเอวเขาด้วยความรักเมื่อคืน ยกมือขึ้นปลดกระดุมที่คอเสื้อเม็ดหนึ่ง แล้วครุ่นคิดในใจ กลับไปคืนนี้จะทำให้เธอร้องไห้ขอร้องอ้อนวอนเขา

เนื่องจากเทาเท่เป็นนักลงทุนเบื้องหลังใน”The Legend of Concubine Rong ” ดังนั้นหลังจากเทาเท่นั่งลงแล้วพูดคำสุภาพไม่กี่คำ อย่างเช่นหวังว่าการถ่ายทำ”The Legend of Concubine Rong ” ถ่ายทำได้อย่างราบรื่น ประสบความสำเร็จโดยดี จากนั้นทุกคนก็ต่างคนต่างกินอาหารของตัวเอง

แต่ว่า ในฐานะที่เป็นบอสใหญ่เบื้องหลัง เทาเท่ที่นี่ไม่สามารถเงียบได้แน่นอน

นักแสดงและทีมงานที่ร่วมในงานเลี้ยงนี้ มาชนแก้วอวยพรและทักทายเขาทีละคน พยายามดึงดูดความสนใจของเขา และเพิ่มความประทับใจในสายตาของเทาเท่

สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ เทาเท่ไม่สนใจพวกเขาเลยสักคนในสายตาเขามีเพียงคนเดียว แต่คนๆนั้นไม่แม้แต่จะมองเขา และหันกลับไปคุยกับนานิตลอด

คนที่แห่กันมาข้างๆเทาเท่ไม่ได้มีแค่ผู้ชายเท่านั้น แต่เป็นผู้หญิงมากกว่า โดยเฉพาะดาราสาวที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงเหล่านั้น

มีหลายคนที่หลินจือเรียกชื่อไม่ออก แต่พวกเขาพยายามเบียดกันมาอย่างสุดชีวิต และยังบีบร่องอกของตัวเองอย่างสุดชีวิต

หลังจากเทาเท่และโซเมนนั่งลงที่นั่ง ผู้หญิงหลายคนบอกว่าร้อนมากเลย แล้วถอดเสื้อคลุมที่ใส่อยู่ในตัวออก บางคนใส่เสื้อเอวลอย บางคนใส่เสื้อไหมพรมปาดไหล่หลวมๆ และบางคนก็ใส่เสื้อคอวีขนาดใหญ่เพื่อโชว์หน้าอก

หลินจือรู้สึกถึงแม้ตอนนี้จะเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง แม้ว่าบรรยากาศการรับประทานอาหารจะร้อนแรง แต่ก็คงไม่ถึงกับอบอุ่นถึงขั้นนี้มั้ย

หลินจือรู้หมดว่าจุดประสงค์ของพวกเธอ คือการได้ใกล้ชิดกับเทาเท่หรือโซเมน ถ้าเป็นข่าวกับบอสใหญ่อย่างพวกเขาจะดีที่สุด ถ้าได้แต่งเข้าตระกูลร่ำรวยก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่

หลินจืออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจ ดาราสาวเหล่านี้พยายามสุดชีวิตจริงๆ

แน่นอน ที่นี่มีผู้หญิงอยู่เยอะ แต่มีเพียงไม่กี่คนที่คิดไม่ดี คิดจะดึงดูดผู้ชายด้วยความสวยงาม ผู้หญิงส่วนใหญ่ยังคงจริงจัง

เช่นเธอ เช่นนานิ และดารานักแสดงที่รับบทเป็นนางรอง

ทั้งสามคนปกปิดตัวเองแน่นตลอดและไม่ค่อยคุยกับผู้ชายเลย

เทาเท่ออกไปรับโทรศัพท์ระหว่างงาน หลินจือก็หายใจออกด้วยความโล่งอก ไม่งั้นเขานั่งข้างตัวเอง รู้สึกเหมือนวางระเบิดตั้งเวลาไว้ตลอด และไม่รู้ว่าเขาจะหาเรื่องเธอเมื่อไหร่

กำลังจะเสนอให้นานิว่าพวกเธอไปก่อน ก็เห็นนักแสดงหญิงคนหนึ่งถือแก้วไวน์เดินเข้ามาหาเธอ

นักแสดงหญิงใส่เสื้อคอวีทรงต่ำเป็นพิเศษ หน้าอกของเธอทั้งน่าภูมิใจและน่าหลงใหล

หลังจากยืนเคียงข้างเธอ นักแสดงหญิงนั้นยิ้มอย่างมีเสน่ห์และพูดกับเธอว่า “พี่นักเขียนบทค่ะ ขอพี่เปลี่ยนที่นั่งกับฉันได้ไหม”

หลินจือรู้ดีว่าเธอเปลี่ยนที่นั่งเพื่ออะไร ก็เพื่อเข้าใกล้เทาเท่ แต่เธอก็ลุกขึ้นทันทีและตอบตกลงอย่างไม่ลังเล “ไม่มีปัญหา”

เธอไม่อยากนั่งตรงนี้อยู่ดี ที่นั่งของนักแสดงหญิงนั้นอยู่ที่ปลายโต๊ะยาว ห่างจากเทาเท่20,000 ไมล์ เธอได้โดยไม่ต้องขอ

เมื่อเห็นว่าเธอตกลงอย่างมีความสุข นักแสดงหญิงก็ชมเธอด้วยรอยยิ้มทันที: “พี่นักเขียนบท พี่เป็นคนดีมาก”

หลินจือยิ้มเบา ๆ เอนตัวไปคุยกับนานิ แล้วถือแก้วไวน์ไปเลย

นานิอยากห้ามแต่ห้ามไม่ทัน เพราะเธอวิ่งเร็วกว่ากระต่ายอีก

นานิถอนหายใจ เธอสนใจแต่ความโล่งในเวลานี้ และกลับไปคืนนี้เทาเท่จะไม่ปล่อยเธอแน่

แน่นอนว่า หลังเทาเท่คุยโทรศัพท์กลับมากลับเห็นคนที่นั่งข้างๆ เขาเปลี่ยนไป ส่วนหลินจือกลับนั่งห่างจากเขา28,000 ไมล์ สีหน้าของเขาก็เย็นชาทันทีราวกับถูกน้ำแข็งปกคลุม

นักแสดงหญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ อดไม่ได้ที่จะสะดุ้ง และสงสัยอย่างจริงจังว่าเธอใส่น้อยไปหรือเปล่าที่ทำให้เธอรู้สึกหนาวเย็นแบบนี้

ที่ทำให้เทาเท่โกรธมากที่สุดก็คือ หลังจากที่หลินจือไปนั่งที่นั่นกลับยิ่งใกล้ชิดกับเจเทาวน์มากขึ้น เจเทาวน์ก็เปลี่ยนที่นั่งกับคนอื่น และนั่งกับหลินจือโดยอ้างว่าผู้กำกับจะปรึกษาหารือเกี่ยวกับบทกับนักเขียนบท .

เทาเท่รู้สึกว่าอาหารมื้อนี้ไม่มีความหมายอะไรขึ้นมาทันที หันศีรษะอย่างเย็นชาและถามโซเมนที่ยืนอยู่ข้างเขาว่า “ไปไม่ไป”

“อย่าพึ่งสิ เดี๋ยวค่อยไปกันสิ” โซเมนเต็มใจที่จะดูท่าทีเทาเท่เสียอาการต่อหน้าหลินจือ

โซเมนยอมรับว่าเขามีรสนิยมไม่ดี แต่รู้จักเทาเท่มาหลายปีนี้ เบื่อที่จะเห็นเขาวันๆทำตัวสูงส่งไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้าตาเต็มทีแล้ว ดังนั้นจึงอยากเห็นท่าทางเทาเท่ตอนนี้ที่วิ่งไล่ตามหลินจือแบบนี้

โดยเฉพาะตอนหลินจือโกรธหรือตอนหลินจือไม่มีเขาในสายตา โซเมนรู้สึกสะใจมาก

เทาเท่ขี้เกียจสนใจโซเมน เขาจึงลุกขึ้นและจากไป

นักแสดงหญิงที่เพิ่งเปลี่ยนที่นั่งมาข้างเขาจะเป็นบ้า สีหน้าก็อึดอัดขึ้นมาอยู่ครู่หนึ่ง

ใครๆ ก็ดูออกว่าจุดประสงค์ของเธอคืออะไร แต่เทาเท่กลับจากไปโดยไม่มองเธอเลย รังเกียจเธอโดยไม้ปกปิดเลยสักนิด

เทาเท่เดินไปทักทายเจเทาวน์สบายๆ เจเทาวน์ลุกขึ้นและส่งเขาออกไปด้วยรอยยิ้ม

หลินจือไม่เงยหน้ามองเทาเท่เลยสักนิด แต่เธอสามารถสัมผัสได้ถึงดวงตาที่เหมือนมีดของเทาเท่หล่นลงบนใบหน้าของเธอ เธอก็รู้สึกหนาวที่หลังขึ้นมา

เทาเท่ไปแล้ว โซเมนก็ไม่อยากอยู่ที่นี่คนเดียว จึงลุกขึ้นและจากไปโดยไม่ลังเล

โทรศัพท์มือถือของหลินจือได้รับข้อความจากเทาเท่อย่างรวดเร็ว “ออกมา”

หลินจือเม้มริมฝีปาก เขาสั่งใครกัน? เขาคิดว่าเขาเป็นอะไรของเธอ?

เก็บโทรศัพท์มือถือไม่สนใจเขาและทานอาหารต่อ

ผ่านไปครู่หนึ่ง โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง และยังคงส่งมาจากเทาเท่ “เธอจะให้ฉันเข้าไปจับเธอออกมาต่อหน้าทุกคนใช่ไหม”

หลินจือกัดฟันแน่น

พฤติกรรมที่แข็งแกร่งและครอบงำแบบนี้ เขายังอยากให้เธอเปลี่ยนใจงั้นเหรอ?

แต่เธอกลัวเขาจะเป็นบ้าเข้ามาจับเธอจริงๆ เธอจึงทำได้แค่ยอม ลุกขึ้นและบอกลาเจเทาวน์และคนอื่นๆ บอกแค่ว่ามันดึกแล้วเธอควรกลับไปแล้ว

เจเทาวน์มองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง และไม่ได้พูดอะไร

นานิออกไปกับหลินจือ ออกไปก็เห็นรถของเทาเท่จอดอยู่ข้างถนนทันทีที่ออกไป

นานิเตือนหลินจือด้วยความหวังดี “เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธมาก ที่เธอเปลี่ยนที่นั่งกันคนนั้น”

หลินจือหย่อนตาลง “เขาจะมาโกรธอะไร พวกเราคุยกันรู้เรื่องแล้ว แค่ความสัมพันธ์ทางร่างกาย ฉันไม่ต้องการมีความสัมพันธ์อื่นกับเขา”

นานิฟังจบก็หัวเราะอย่างมีความสุข “เดี๋ยวเธอเอาไปบอกเขานะ ปอดเขาจะระเบิดแน่นอน”

“เธอนั่งรถเขาไปเถอะ” นานิรู้ว่าเทาเท่รอหลินจืออยู่แน่นอน

หลินจือมองไปรอบๆ จากนั้นก็ข่มใจนั่งเข้าไปในรถของเทาเท่

เทาเท่รับเธอและขับรถออกไปด้วยใบหน้าที่ไม่พ่อใจ รถหยุดอยู่หน้าบ้านพักของทั้งสอง หลินจือก็ถูกเทาเท่โน้มตัวลงมาจูบอย่างดุเดือด