ชวีเหยาหวั่นไหวกับคำพูดของเธอตามคาด นางยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าหลิงอวี้จื้อ
หลิงอวี้จื้อพูดต่อ
“มีวันหนึ่ง ข้าไปหาแม่ข้า ได้ยินนางกำลังคุยกับแม่นมประจำตัว นางบอกว่าข้าไม่ใช่ลูกสาวของนาง ข้าไม่กล้าถามนาง และไม่กล้าไปสืบเรื่องนี้ หากข้าไม่ใช่ลูกสาวของนาง เช่นนั้นข้าเป็นลูกสาวของใคร
ท่านป้า เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกใครเลย วันนี้ข้าจะต้องตายแล้ว ข้าไม่อยากนำความลับนี้ลงโลงไปด้วย ท่านช่วยข้าสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างได้หรือไม่ ถึงตอนนั้นบอกข้าด้วย”
เรื่องเหล่านี้หลิงอวี้จื้อกุขึ้นมาเอง เธอคิดไม่ออกจริงๆ ว่าเหตุใดชวีซื่อถึงไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรกับเธอ นี่เป็นเหตุผลที่เธอช่วยหาให้ชวีซื่อ อย่างไรเสียเรื่องแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่จะเกิดในบ้านใหญ่เช่นนี้ คราวนี้เธอจงใจพูดปั่นหัวชวีเหยา อยากให้ชวีเหยาคิดเชื่อมโยงเอง
ชวีเหยาโยนหนูในมือลงพื้นไปตามคาด จับไหล่หลิงอวี้จื้อแน่น ถามอย่างเร่งเร้า
“เจ้าพูดอะไร เจ้าบอกว่าเจ้าไม่ใช่ลูกสาวนางหรือ”
“แม่ข้าพูดเช่นนี้ ข้าไม่กล้าถามนาง ข้ากลัวว่าตนเองจะเป็นลูกกำพร้า”
หลิงอวี้จื้อเงยหน้าขึ้นน่าเวทนา นัยน์ตาแดงๆ ท่าทางเช่นนั้นใครเห็นก็คงรู้สึกทนไม่ไหว
ชวีเหยาคลายมือ ทรงตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง ตอนนั้นในจวนมหาเสนาบดีมีแต่นางกับชวีฮุ่ยที่ตั้งครรภ์พร้อมกัน วันคลอดก็ไม่ต่างกันมาก หากหลิงอวี้จื้อไม่ใช่ลูกสาวของชวีฮุ่ย เช่นนั้นนางจะเป็นลูกสาวใคร
หรือว่าชวีฮุ่ยสลับลูกกัน ไม่ ไม่มีทาง ชวีฮุ่ยจะไม่ต้องการลูกชายได้อย่างไร
ชวีเหยายิ่งคิดก็ยิ่งตกใจ พอคิดว่าหลิงอวี้จื้อพูดโน้มน้าวใจเก่ง ก็กลัวว่าเธอจะโกหกตนอีก ไม่กล้าเชื่อคำพูดนี้ง่ายๆ
คราวนี้ประตูใหญ่ในเรือนถูกคนถีบเปิดออก หลิงอวี้จื้อโล่งอก ในที่สุด หน่วยกู้ภัยของเธอก็มา ชวีเหยากลับมามีสติ นางจะต้องสืบเรื่องนี้ให้กระจ่าง รีบหยิบพร้าบนพื้นขึ้นมาจ่อคอหลิงอวี้จื้อ
ชวีซื่อ เซียวเหยี่ยน รวมทั้งหลิงจ้ายเทียน เดินเข้ามาด้วยกัน เห็นชวีเหยาเอาพร้าจ่อคอหลิงอวี้จื้อ แววตาเซียวเหยี่ยนก็แข็งกร้าวทันที
“ปล่อยนาง”
พอเห็นเซียวเหยี่ยน หลิงอวี้จื้อก็รู้สึกใจสงบขึ้นมาทันใด เขามาแล้ว ตนเองจะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน ดีที่เธอใช้ละครชีวิตรันทดถ่วงเวลาได้นานขนาดนี้ มิเช่นนั้นตอนนี้เธอคงตายไปแล้ว
ชวีเหยายิ้มเยือกเย็น พูดว่า
“อย่างไรข้าก็เป็นคนที่จะต้องตายอยู่แล้ว ในเมื่อจะตาย ก็ตายไปด้วยกัน ชวีฮุ่ย วันนี้ลูกสาวเจ้าจะต้องเป็นศพพร้อมกับข้า”
“เหยาเอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นไรแล้วหรือ”
หลิงจ้ายเทียนมองชวีเหยาด้วยแววตาสับสน ตั้งแต่ชวีเหยาเป็นบ้าไป เวลาเจอเขานางก็ทั้งด่าทั้งกัด ลักษณะบ้าๆ บอๆ เช่นนั้นต่างกับท่าทางสง่ามีมารยาทงามในสมัยก่อนโดยสิ้นเชิง หลิงจ้ายเทียนไม่กล้ามองชวีเหยาในลักษณะนี้อีก จึงไม่มาเสียเลย ถือเสียว่าชวีเหยาตายไปแล้ว
“ท่านพี่ ท่านถูกนางหลอกแล้ว นางแสร้งทำมาตั้งแต่แรกแล้ว ท่านต้องช่วยอวี้จื้อนะ”
ชวีซื่อปาดน้ำตา ตอนนี้หลิงอวี้จื้อตกอยู่ในมือของชวีเหยา นางร้อนใจจริงๆ แม่กับลูกชายสองคนต้องพึ่งพาลูกสาวคนนี้
“เหยาเอ๋อร์ มีอะไรคุยกันดีๆ เจ้าปล่อยอวี้จื้อเสีย นางยังเป็นเด็ก”
“นางเป็นเด็กจริงๆ แต่เป็นเด็กของชวีฮุ่ย หลิงจ้ายเทียน ยังจำได้หรือไม่ว่าตอนนั้นที่เจ้าสู่ขอข้าเจ้าพูดอะไร เจ้าบอกว่าจะรักและให้เกียรติข้าตลอดชีวิต ชวีฮุ่ยใส่ความข้า ไม่ว่าข้าจะอธิบายอย่างไรเจ้าก็ไม่เชื่อ ชวีฮุ่ย ข้าอยากให้เจ้าได้ลองสัมผัสความเจ็บปวดจากการเสียลูกบ้าง”
ตาเห็นว่าชวีเหยากำลังจะลงมือ เซียวเหยียนจึงใช้นิ้วดีดเบาๆ หินก้อนเล็กก็พุ่งโดนมือของชวีเหยา
พร้าในมือของชวีเหยาตกลงพื้น เซียวเหยี่ยนคว้าตัวหลิงอวี้จื้อจากมือของชวีเหยาไปด้วยความเร็วสูงสุด เขาโอบหลิงอวี้จื้อไว้ในอ้อมแขนอย่างแนบแน่น