ตอนที่ 292 เรื่องจริงในตอนนั้น

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ทหารยามในจวนรีบกรูเข้าไปจับตัวชวีเหยา จับนางไว้อย่างแน่นหนา แล้วลากนางไปตรงหน้าหลิงจ้ายเทียน 

 

 

ชวีเหยาหัวเราะลั่น สายตาจับจ้องไปที่ตัวชวีฮุ่ย 

 

 

“พวกเจ้าอย่าดีใจกันเร็วเกินไปนัก ข้ายังมีพิษขุยเหล่ยเซียง ข้าวางยาพิษใส่นางแล้ว ไม่นานนางก็จะกลายเป็นคนปัญญาอ่อนอีกครั้ง 

 

 

ชวีฮุ่ย เจ้าหวังจะอาศัยลูกสาวคนนี้เพื่อชุบตัว ฝันไปเถอะ ข้าไม่มีวันให้โอกาสนี้แก่เจ้าเด็ดขาด” 

 

 

หลิงอวี้จื้อรู้ดีว่าตนเองไม่ได้โดนวางยา เธอรู้ด้วยว่าคำพูดนี้พูดให้ชวีฮุ่ยฟัง ทำให้นางตกใจสักหน่อยก็ดี อย่างไรก็ไม่ใช่แม่ที่มีคุณสมบัติ อยากดูเหมือนกันว่าแม่คนนี้จะทำเพื่อเธอได้ถึงขั้นไหน 

 

 

เห็นสีหน้าเซียวเหยี่ยนเปลี่ยนไปทันที หลิงอวี้จื้อก็กระซิบอยู่ในอ้อมแขนของเซียวเหยี่ยนว่า 

 

 

“อย่าเอ็ดไป ข้าไม่เป็นไร” 

 

 

ได้ยินหลิงอวี้จื้อยืนยันจากปากเองว่าไม่เป็นอะไร เซียวเหยี่ยนก็วางใจ แล้วแก้เชือกที่มัดมือมัดเท้าเธออยู่ 

 

 

สีหน้าของหลิงจ้ายเทียนและชวีซื่อก็เปลี่ยนไปเช่นกัน หากหลิงอวี้จื้อกลายเป็นคนปัญญาอ่อนอีกครั้ง เช่นนั้นก็เป็นพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ไม่ได้แล้ว พวกเขาขัดใจไทเฮาไปแล้ว หากงานแต่งนี้ปลิวไป ผลที่ตามมาไม่ต้องคิดก็รู้ 

 

 

“เหยาเอ๋อร์ เจ้ารีบเอายาถอนพิษออกมา” 

 

 

หลิงจ้ายเทียนพูดอย่างตึงเครียด 

 

 

“ข้าไม่มีทางช่วยลูกสาวของชวีฮุ่ยหรอก” 

 

 

ชวีเหยากัดฟันพูดออกมา เห็นได้ชัดว่าเกลียดชวีฮุ่ยที่สุด 

 

 

หลิงอวี้จื้อร้องไห้ออกมาเบาๆ 

 

 

“ท่านพ่อ ท่านม่ พวกท่านต้องช่วยลูกนะ ข้าไม่อยากกลายเป็นคนปัญญาอ่อนอีกแล้ว” 

 

 

ได้ยินหลิงอวี้จื้อส่งเสียง ชวีเหยาก็ตะลึงไปชั่ววูบ ไม่นานก็มีสติคืนมา นางแค่อยากจะลองใจชวีฮุ่ย นึกไม่ถึงว่าหลิงอวี้จื้อไม่เพียงแต่ไม่เปิดโปงนาง แถมยังร่วมแสดงละครไปกับนางด้วย 

 

 

“เอายาถอนพิษออกมา ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” 

 

 

ในเมื่อหลิงอวี้จื้ออยากแสดงละคร เซียวเหยี่ยนก็เริ่มตามน้ำไปด้วย ขอเพียงเธอไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว 

 

 

ชวีเหยาใจเย็นลง หลับตา 

 

 

“หลายปีมานี้ข้าอยู่ไปก็เหมือนตาย วันนี้หากตายไปก็ถือเป็นการพ้นทุกข์ จะฆ่าก็ฆ่าเถิด! ชวีฮุ่ย นี่เป็นบาปที่เจ้าก่อเอง โทษใครไม่ได้” 

 

 

ชวีฮุ่ยร้อนใจจนเดินวน หลิงอวี้จื้อจะกลายเป็นคนปัญญาอ่อนไปตอนนี้ไม่ได้ หลิงอวี้จื้อกลายเป็นคนปัญญาอ่อนเมื่อใด เมื่อนั้นหลิงจื่อเฉิงก็ไม่มีหวังแล้ว 

 

 

หลิงจ้ายเทียนจะต้องเอาเรื่องนี้มาลงที่นาง หลิงจ้ายเทียนเฝ้ารอการแต่งงานครั้งนี้มากกว่านางเยอะ นางจะต้องช่วยหลิงอวี้จื้อให้ได้ ไม่สามารถปิดบังเรื่องนั้นได้อีก ในเมื่อนางมาถึงวัยนี้แล้ว ไม่จำเป็นจะต้องแย่งชิงตำแหน่งคนโปรดอีกต่อไป นางจะต้องคำนึงถึงอนาคตของลูกชายเอาไว้มากๆ 

 

 

“ชวีเหยา เจ้าจะเกลียดข้าก็ได้ แต่เจ้าไม่สามารถทำเช่นนี้กับอวี้จื้อได้ นางเป็นลูกของเจ้า” 

 

 

เมื่อคำพูดออกจากปาก หลิงจ้ายเทียนก็มองชวีฮุ่ยอย่างตระหนกตกใจทันที เรื่องมันเป็นมาอย่างไรกันแน่ หลิงอวี้จื้อจะเป็นลูกสาวของชวีเหยาได้อย่างไร 

 

 

ชวีเหยาตกใจอย่างยิ่ง เรื่องเป็นเหมือนที่หลิงอวี้จื้อพูดเอาไว้ ก่อนหน้านี้นางก็ไม่กล้าเชื่อคำพูดของหลิงอวี้จื้อทั้งหมด ถึงได้ลองเชิงชวีฮุ่ย 

 

 

แต่นางไม่มั่นใจว่าที่ชวีซื่อพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แววตาตระหนกระคนสงสัย 

 

 

เมื่อเห็นชวีเหยาไม่เชื่อ ชวีฮุ่ยก็มองชวีเหยา พูดต่อว่า 

 

 

“ตอนนั้นข้าและเจ้าตั้งครรภ์พร้อมกัน ครรภ์ของข้าไม่นิ่งตั้งแต่แรกเริ่ม เรื่องนี้ข้าไม่กล้าบอกให้ใครรู้ ทำได้เพียงแอบปกป้องทารกไว้ไม่ให้แท้ง 

 

 

หลังจากนั้นไม่กี่เดือน สภาพของทารกในครรภ์ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ข้าฝืนใช้ยาควบคุมเอาไว้ ตอนนั้นเองข้าก็เริ่มมีความคิดจะเอาลูกข้าไปสลับกับลูกเจ้า 

 

 

ข้าใช้ยายื้อลมหายใจทารก รอเจ้าคลอด 

 

 

วันสารทจีนวันนั้นเจ้าคลอดลูกอย่างกะทันหัน ข้าก็เลือกคลอดวันนั้นเช่นกัน ลูกชายข้าเกิดมาก็ตายแล้ว ข้าติดสินบนนางผดุงครรภ์ ให้นางวางยาเจ้า ทำให้เจ้าสลบไปทันทีหลังคลอดลูก แล้วฉวยโอกาสอุ้มลูกสาวเจ้าไป แล้วอุ้มลูกชายข้าไปให้เจ้า”