ตอนที่ 398: ทางออกที่งดงาม

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 398: ทางออกที่งดงาม

การเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพครบ 50 ชันษาของราชาแห่งฉินหวงจบลงอย่างรวดเร็ว ขุนนางและผู้มีอำนาจทุกคนต่างก็กล่าวคำอำลาต่อเจี้ยนเฉิน เขาจึงตรงเข้าไปในห้องของเขาทันที

ตอนนี้เจี้ยนเฉินได้เป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิอาณาจักรฉินหวง สถานะของเขาแตกต่างจากตอนที่เขามาครั้งแรก หลังจากที่ได้รับการแต่งตั้ง ตำหนักใหม่ที่งดงามที่ชื่อว่า ตำหนักสวรรค์ฉิน ก็ได้เป็นของเขา ที่ตำหนักสวรรค์ฉินนี้มีให้เฉพาะคนที่เป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิเท่านั้นที่ได้จะได้เข้ามาอยู่อาศัย ไม่เพียงแต่มันใหญ่โต แต่มันยังมีการตกแต่งภายในที่ดีกว่าตำหนักดอกเมฆของฉินจี๋

เจี้ยนเฉินได้นอนหลับไปกับพยัคฆ์ปีกเทวะ เจี้ยนเฉินตามนางกำนัลไปยังตำหนักสวรรค์ฉิน เมื่อมองไปรอบ ๆ ตำหนักนี้งดงามอย่างมาก เจี้ยนเฉินพูดอะไรไม่ออก ตำหนักสวรรค์ฉินนี้ช่างงดงามเกินคำบรรยาย เจี้ยนเฉินสาบานได้ว่าเขาไม่เคยเห็นที่ไหนเทียบกับที่นี่ได้มาก่อน

ท่านผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ขอนางกำนัลผู้นี้ช่วยท่านอาบน้ำและตอบสนองความต้องการอื่น ๆ ของท่าน ! หญิงสาวที่แสนสวยที่มาพร้อมกับเจี้ยนเฉินพูดด้วยใบหน้าที่คาดหวัง นางกำนัลทุกคนได้รับการคัดเลือกจากราชาอย่างระมัดระวังและมีอายุประมาณ 20 ปีเช่นกัน ไม่เพียงแต่พวกนางจะงดงามมาก พวกนางยังเป็นสาวบริสุทธิ์อีกด้วย

เขายังคงมองไปรอบ ๆ ตำหนักก่อนที่จะโบกมือลวก ๆ และพูดว่า เจ้าออกไปได้ !

ท่านผู้พิทักษ์จักรพรรดิ นางกำนัลผู้นี้ไม่เป็นที่พอใจของท่านงั้นรึ ? นางกำนัลคร่ำครวญอย่างเสียใจกับเจี้ยนเฉิน ใบหน้าของนางยังมีความปรารถณาและและดูลำบากใจ เจี้ยนเฉินไม่เพียงแต่หล่อมากเท่านั้น เขายังมีตำแหน่งที่ทรงเกียรติในฐานะผู้พิทักษ์จักรพรรดิ มันนับเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มารับใช้เขา

เจ้าไปได้ ข้าไม่คุ้นเคยกับการบริการเช่นนี้ หากมีบางอย่างที่ข้าต้องการ ข้าจะบอกเจ้าเอง เจี้ยนเฉินพูดอย่างสงบก่อนที่จะเดินเข้าไปพร้อมกับลูกเสือ

เมื่อเห็นเจี้ยนเฉินลับสายตาไป นางกำนัลที่ถูกคัดเลือกมาอย่างดีก็มีสีหน้าที่ผิดหวังบนใบหน้าของพวกนางและเดินออกไปพร้อมกับความโศกเศร้าที่สามารถเห็นได้ชัดเจนบนใบหน้าของพวกนาง

ที่ด้านนอกวัง ทหาร 500 คนได้ยืนนิ่งราวกับรูปปั้น พร้อมกับความเคร่งขรึมบนใบหน้าของเขามันดูน่าประทับใจอย่างมาก เมื่อเทียบกับตำแหน่งของเขาในฐานะองค์รักษ์ของผู้พิทักษ์จักรพรรดิ สำหรับพวกเขานี่ถือเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเคยได้รับ ไม่มีองครักษ์แบบไหนที่จะมีเกียรติไปกว่าพวกเขาอีกแล้ว ไม่มีองค์รักษ์แบบไหนจะเทียบได้กับพวกเขาแม้กระทั่งกองทัพ

องครักษ์เหล่านี้ทั้งหมดเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษเป็นอย่างน้อยและมีหัวหน้า 5 คนที่เป็นเซียนปฐพีที่นำโดยเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6 ทั้งหมดนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นกองทัพส่วนตัวของเจี้ยนเฉินที่มาอารักขาเขาโดยเฉพาะ แม้กระทั่งองค์ราชาก็ไม่อาจที่จะสั่งการพวกเขาได้

ค่ำคืนผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีเหตุอะไรเกิดขึ้นและในเช้าวันรุ่งหนึ่งในพื้นที่ของตำหนักก็มีการรวมตัวด้านนอก รายงานผู้พิทักษ์จักรพรรดิ องค์ชายสามต้องการขอเข้าพบ !

ทันทีที่เขาก้าวกระโดดมาเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิ สถานะของเจี้ยนเฉินก็สูงกว่าฉินจี๋ทันที ตอนนี้หากฉินจี๋ต้องการที่จะเข้ามาในตำหนักสวรรค์ฉิน เขาต้องได้รับอนุญาตจากเจี้ยนเฉินเสียก่อน

เจี้ยนเฉินรีบเดินออกไปพบฉินจี๋และพาเขาเข้ามาด้วยท่าทางเป็นกันเอง ฉินจี๋ที่ตามเจี้ยนเฉินก็ดูมีความดีใจอย่างมาก

ภายในตำหนักเจี้ยนเฉินได้สั่งให้นางกำนัลออกไปเพื่อที่ทั้งสองจะคุยส่วนตัว หลังจากแสดงความยินดีต่อเจี้ยนเฉินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิแล้ว ฉินจี๋มีความสุขอย่างมากที่เห็นสถานะของเจี้ยนเฉินสูงขึ้น

เจี้ยนเฉินพูดคุยอย่างจริงใจกับฉินจี๋ เจี้ยนเฉินรู้สึกว่าแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ฉับพลันจากความโปรดปราน มิตรภาพของเขากับฉินจี๋ก็ไม่ควรจะได้รับผลกระทบใด ๆ เขาปฏิบัติต่อฉินจี๋เหมือนกับที่เขาเคยทำในอดีต เพราะหากไม่ใช่ฉินจี๋ เจี้ยนเฉินคงไม่ได้รับเกียรติเช่นนี้ตั้งแต่แรก

เจี้ยนเฉิน ตอนนี้เจ้าเป็นผู้พิทักษ์ของเราแล้ว ประตูมิติของเราพร้อมที่จะให้เจ้าใช้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามข้าหวังว่าเจ้าจะอยู่ที่นี่อีกนานกว่านี้ ฉินจี๋ยิ้ม

เจี้ยนเฉินส่ายหน้าอย่างแรง ข้าขอโทษด้วย แต่ข้าต้องรีบไป ตอนนี้ข้าสามารถใช้ประตูมิติได้ตลอดเวลาแล้ว ข้าต้องไปเดี๋ยวนี้ ยิ่งข้าอยู่นาน ข้ายิ่งกังวลมากขึ้น

เจี้ยนเฉิน บอกข้าได้ไหมว่าเจ้ากังวลเรื่องอะไร ? ข้าพอจะช่วยเจ้าได้หรือไม่ ? ฉินจี๋ถามด้วยความกังวล เมื่อท่าทางของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไป เขาก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเจี้ยนเฉินมากยิ่งขึ้น

เจี้ยนเฉินลังเลเล็กน้อย บ้านเกิดของข้ากำลังเข้าสู่สงคราม ข้าต้องรีบไปที่นั่น ไม่อย่างนั่นข้าก็กลัวว่ามันจะเกิดอะไรบางอย่างขึ้น

ท่าทีจริงจังของฉินจี๋ยิ่งมากขึ้น เขาถามเกี่ยวกับสงครามและรายละเอียดของสถานการณ์ หลังจากที่ฟังทุกอย่างเสร็จแล้ว ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนจากขึงขังเป็นแย้มยิ้ม มันเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ ในภูมิภาคเล็ก ๆ เหล่านี้จะมาทำสงครามกับอาณาจักรฉินหวงของเราได้อย่างไร เราสามารถจัดการได้โดยไม่มีคำถาม เจี้ยนเฉิน เจ้าต้องการที่จะระดมผู้เก่งกาจคนในกองทัพของเราได้ เจ้าต้องการใช้งานพวกเขาหรือไม่ ?

นั่นไม่จำเป็น บ้านเกิดของข้าอยู่ไม่ไกลแม้จะอยู่หลังประตูมิติ แต่ด้วยความเร็วของข้ายังต้องใช้เวลากว่า 2-3 เดือน ยิ่งนำกองทัพไปด้วยความเร็วมันจะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความล่าช้าหลังจากที่มีกองทัพ มันก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี เจี้ยนเฉินตอบ

อย่างนั้นก็ให้ที่ปรึกษาจักรพรรดิไปด้วยเป็นอย่างน้อย ด้วยฐานะของเจ้า เจ้าสามารถนำที่ปรึกษาทั้งหมดไปด้วยได้โดยไม่มีคำคัดค้านหรือคำถาม ไม่ต้องห่วงทางอาณาจักฉินหวงของเรา เรามีผู้พิทักษ์จักรพรรดิที่แข็งแกร่งอย่าง 4 คนอยู่ด้วย ข้าไม่เชื่อว่าที่นี่จะปกป้องเอาไว้ได้โดยไม่ต้องมีกังวล

เจี้ยนเฉินลังเลขณะที่ฟัง เขารู้ว่าอาณาจักเกอซุนนั้นมีเซียนสวรรค์มากกว่าโหลและยังมีอาณาจักรใหญ่ทั้ง 4 อีก มันต้องมีอย่างน้อย ๆ ก็ 23 คน ความแตกต่างของความแข็งแกร่งมากเกินไป

เมื่อเห็นใบหน้าที่ลังเลของเจี้ยนเฉิน ฉินจี๋ก็รู้ถึงความคิดของเจี้ยนเฉิน เขาจึงพูดสิ่งที่อยู่ในใจว่า เจี้ยนเฉิน เจ้าไม่ต้องกังวลและอย่าลืมอำนาจของเจ้า เจ้ามีอำนาจที่จะระดมกองกำลังดังกล่าว

หลังจากที่พิจารณาแล้วเจี้ยนเฉินก็ยินยอมเห็นด้วยตามฉินจี๋ในที่สุด โดยให้เจี้ยนเฉินรับปากว่าต้องให้ที่ปรึกษาจักรพรรดิไปกับเขาด้วย

เจี้ยนเฉิน เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัด ด้วยคำสั่งของเจ้า เจ้าไม่ต้องรายงานเรื่องนี้ต่อองค์ราชาโดยส่วนตัว ให้ทหารองครักษ์ไปแจ้งที่ปรึกษาจักรพรรดิให้มารวมตัวกันที่นี่ ฉินจี๋พูดเพราะเขารู้ว่าเจี้ยนเฉินยังไม่รู้ถึงอำนาจใหม่ของเขา

หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็ได้ทำตามที่ฉินจี๋บอกและให้องครักษ์ไปรวบรวมที่ปรึกษาจักรพรรดิ ในเวลาสั้น ๆ ที่ปรึกษาจักรพรรดิสูงอายุกว่า 20 คนได้มาที่ตำหนักฉินสวรรค์ แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะยังเด็ก แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็ได้รับความเคารพจากที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งหมด แม้ว่าตำแหน่งของพวกเขาจะไม่ต่างกัน แต่พวกเขาต้องการเป็นมิตรกับเจี้ยนเฉิน ในใจของพวกเขารู้ว่าไม่เพียงแต่เจี้ยนเฉินจะได้รับการยอมรับจากผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้ง 4 ไม่นานเจี้ยนเฉินก็จะก้าวเข้าไปในขอบเขตเซียนผู้คุมกฎและแม้กระทั่งขอบเขตเซียนราชา เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงต้องการที่จะเป็นมิตรกับเจี้ยนเฉิน เวลานี้ถือว่าเป็นเวลาที่ดีที่สุดของพวกเขา

เมื่อเจี้ยนเฉินได้บอกเหตุผลของเขาและวางแผนที่ให้กับที่ปรึกษาทั้ง 20 คน แต่ละคนก็เห็นด้วยที่จะไปกับเขา เมื่อเห็นว่าพวกเขาต้องการจะไปมากแค่ไหนที่ตอบรับมา เจี้ยนเฉินก็ได้แต่สงสัยถึงช่องว่างระหว่างที่ปรึกษากับผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ในความเป็นจริง เขาเริ่มตั้งคำถามว่าเขาควรจะขอความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาจักรพรรดิเหล่านี้ดีหรือไม่ ?

ทันใดนั้น ผู้อาวุโสคนหนึ่งก็เดินเข้ามาด้านหน้าพร้อมกับป้องมือ ท่านผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ข้าชื่อเซียวเทียนเป็นปู่ของเซียวฮาน ข้าได้ยินว่ามาไอ้หลานโง่ผู้นั้นทำให้ท่านไม่พอใจเมื่อครั้งก่อน ข้าหวังว่าท่านจะให้อภัยต่อหลานที่ไม่เอาไหนของข้า ข้าได้สอนบทเรียนให้เขาแล้วและขังเขาไว้เพื่อเป็นการลงโทษ การเดินทางไปกับท่านในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ข้าต้องการชดเชยให้กับหลานของข้า ข้าหวังว่าท่านจะยกโทษให้กับเขา

เจี้ยนเฉินมองเซียวเทียนเพื่อดูท่าทีของเขา เซียวเทียนสวมเสื้อคลุมสีขาวอย่างปราณีตและผมสีขาวของเขาก็ถูกมัดไว้รอบศีรษะ เขาดูเหมือนกับวิญญูชนและมีกลิ่นอายที่เที่ยงธรรมรอบ ๆ เขา

นี่คือเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 5 ที่ฉินจี๋เคยบอกข้างั้นรึ ? เจี้ยนเฉินคิด เมื่อรู้ว่าเซียวเทียนที่ได้เขาได้พบนั้นแตกต่างจากที่เขาคิด อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้เห็นเขาเพียงครั้งเดียว เจี้ยนเฉินก็พบว่าเขาเป็นคนที่เที่ยงธรรมอย่างมาก

คนประเภทที่เปิดกว้างและตรงไปตรงมาแบบนี้ ช่างแตกต่างจากเซียวฮานหลานของเขาอย่างมาก

เจี้ยนเฉินป้องมือตอบและพูดอย่างยิ้มแย้ม ท่านเซียวเทียนต้องล้อข้าแล้ว เรื่องของหลานท่าน ข้าได้ลืมไปแล้ว ถ้าท่านเซียวเทียนต้องการที่จะไปกับข้า ข้าก็ไม่อาจแย้งได้ อย่างไรก็ตามข้าขอขอบคุณที่ท่านให้การสนับสนุนข้า

เซียวเทียนยิ้มร่าและพูดว่า ท่านสุภาพเกินไปแล้ว การที่ได้ช่วยเหลือผู้พิทักษ์จักรพรรดิ มันเป็นเรื่องดีกับข้าอย่างมาก

จากนั้นหลังจากที่เจี้ยนเฉินได้เลือกบุคคลที่แข็งแกร่งและเชื่อถือที่สุดได้ 4 คนแล้ว เขาก็เตรียมตัวที่จะออกเดินทางจากตำหนักฉินสวรรค์ไปยังอาณาจักรเกอซุน และในที่สุดเขาก็มุ่งหน้าไปยังประตูมิติพร้อมกับฉินจี๋ที่เป็นคนนำทาง

ผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาที่ปรึกษาคือเซียวเทียนและอีก 4 คนที่เหลือมี 2 คนที่อยู่ในขอบเขตเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 4 และ 2 คนที่เหลือเป็นเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 3 แม้ว่าพวกเขาจะไม่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาที่ปรึกษา เจี้ยนเฉินก็มีความเชื่อมั่นในตัวพวกเขา

ประตูมิติตั้งอยู่ใจกลางของพระราชวังและด้วยสถานะของเจี้ยนเฉิน เขาไม่ต้องบอกล่วงหน้าต่อใครก่อนที่จะใช้งาน พร้อมกับที่ปรึกษาทั้ง 5 เขาได้ส่งมอบแกนอสูรระดับ 5 หลายแกนและเริ่มค้นหาปลายทางที่ต้องการจากรายชื่อ จากนั้นพวกเขาก็เดินผ่านประตูมิติเข้าไป