ตอนที่ 397: สถานะ

ไม่อาจปกปิดความยินดีได้ ราชาแห่งฉินหวงมองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะกระแอมและตรัสว่า ตอนนี้ทุกคนก็มาอยู่ที่นี่แล้ว ราชาของเจ้าอยากจะออกพระราชโองการ แต่งตั้งให้เจี้ยนเฉินเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิ มีผู้ใดคัดค้านหรือไม่ ?

เมื่อราชาทรงออกพระราชโองการทั้งท้องพระโรงก็เงียบลง แต่ละคนมองไปยังองค์ราชาอย่างประหลาดใจและไม่อยากจะเชื่อ

ผู้พิทักษ์จักรพรรดิและที่ปรึกษาจักรพรรดินั้นมีระดับที่แตกต่างกัน ผู้พิทักษ์จักรพรรดิมีอำนาจมากกว่าที่ปรึกษาองค์จักพรรดิ ผู้พิทักษจักรพรรดิสามารถระดมกองทัพเองได้และแม้กระทั่งสั่งให้ที่ปรึกษามาช่วยได้ อำนาจที่น่ากลัวที่สุดของผู้พิทักษ์จักรพรรดิอีกอย่างก็คือ ผู้พิทักษ์จักรพรรดิสามารถถอดถอนอำนาจของขุนนางที่ไร้ความสามารถหรือแม้กระทั่งขุมอำนาจที่ไม่ดี นี่เป็นการบ่งบอกว่าพลังของเขานั้นมีอำนาจสูงมากในอาณาจักร

ราชาแห่งฉินหวงได้เห็นศักยภาพของเจี้ยนเฉินแล้ว ดังนั้นเขาจึงแต่งตั้งให้เขาเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิ

พระราชโองการขององค์ราชาไม่เพียงแต่ทำให้ทุกคนตกตะลึง แม้กระทั่งเจี้ยนเฉินที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็ยังต้องแสดงออกถึงความตกใจอย่างมากและมีแต่ความว่างเปล่าเกิดขึ้นในจิตใจ

ครึ่งนาทีต่อมาความเงียบที่เกิดขึ้นก็หายไป เมื่อชายชราผมขาวเดินหน้าเข้ามาพร้อมกับป้องมือและพูดว่า ฝ่าบาท นั่นมิอาจทำได้ เจี้ยนเฉินสมควรได้รับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาจักรพรรดิ แต่ผู้พิทักษ์จักรพรรดินั้นยังไม่เหมาะสม

อัครเสนาบดีผู้สำเร็จราชกาลคิริลพูดอย่างชอบธรรม ตำแหน่งผู้พิทักษ์จักรพรรดินั้นสูงส่งเกินไปที่จะทำให้ตัดสินออกมาอย่างรวดเร็ว มันจะเหมาะกว่าถ้าเจี้ยนเฉินได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาจักรพรรดิในตอนนี้ ชายชราอีกคนพูด

“ฝ่าบาท ตำแหน่งผู้พิทักษ์จักรพรรดินั้นมันมากเกินไป เขายังไม่ได้มีผลงานใด ๆ สิ่งเหล่านี้สมควรพูดคุยหารือกับที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งหมดก่อนเกี่ยวผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ว่าเขาสมควรจะได้รับตำแหน่งหรือไม่ บุคคลที่แตกต่างเรียบง่ายอีกคนพูด ชายคนนี้ปล่อยกลิ่นอายของแม่ทัพที่คุมกองทัพออกมา

“ฝ่าบาท..”

มีกระแสต่อต้านนับไม่ถ้วนที่สามารถได้ยินจากผู้คนที่นี่ แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะเป็นอัจฉริยะที่เขาไม่เคยพบมาก่อน แต่ตำแหน่งผู้พิทักษ์จักรพรรดินั้นยิ่งใหญ่เกินไป ขุนนางหลายคนโดยให้เหตุผลเกี่ยวกับอายุของเจี้ยนเฉินว่ายังไม่สมควรแต่งตั้งเขาในเวลานี้ ในเวลาเดียวกันก็มีคนสนับสนุนราชาเป็นจำนวนมากเช่นกัน

ในเวลานั้นคนกว่า 20 คนก็เข้ามาในวัง ส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุ แต่บางคนก็อยู่ในวัยกลางคนและสามคนที่เป็นผู้หญิงที่อายุราว ๆ 30 ปี

คนเหล่านี้เดินมาที่ด้านหลังพระราชวังอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีคำพูดหรือใครก็ตามที่สังเกตเห็นพวกเขา

เมื่อราชาเห็นกลุ่มคนที่ยืนอยู่ด้านหลังฝูงชน เขาก็แย้มพระสรวลน้อย ๆ ก่อนที่จะตรัสว่า ถูกต้อง ตำแหน่งผู้พิทักษ์จักรพรรดินั้นไม่ใช่สิ่งที่องค์ราชาแต่งตั้งได้ อำนาจนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ปรึกษาและผู้พิทักษ์ทั้ง 4 คน ด้วยเหตุนี้ราชาจึงลุกออกจากบัลลังก์ของเขา ด้วยสิ่งนี้ข้าอยากจะเชิญที่ปรึกษาจักรพรรดิและบุคคลที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือกันว่าเจี้ยนเฉินมีความสามารถนั้นหรือไม่ ?

ข้าเห็นด้วยที่จะแต่งตั้งให้เจี้ยนเฉินเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ชายชราคนหนึ่งพูดอย่างยินดี เขายิ้มก่อนที่จะป้องมือไปทางเจี้ยนเฉิน ข้าขอคารวะต่อผู้พิทักษ์จักรพรรดิ !

ฝ่าบาท มีที่ปรึกษาไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเห็นด้วย มันเป็นการยากที่จะโน้มน้าวฝูงชน หากฝ่าบาททรงพระประสงค์แต่งตั้งให้เจี้ยนเฉินเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิ เราที่ปรึกษาก็น้อมยินดี ชายชราพูด

องค์ราชายิ้มพลางตรัสว่า ผู้บัญชาการชูพูดเรื่องจริง ตอนนี้ที่ปรึกษาจักรพรรดิก็มาแล้ว พวกท่านคิดเห็นว่าอย่างไร ?

เราทุกคนยินดีให้เจี้ยนเฉินเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ! เสียงของชายชราตะโกนออกมาจากด้านหลัง ทำให้ทุกคนหันหลังกลับไป เมื่อฝูงชนเห็นว่าเป็นใคร พวกเขาจึงได้แต่มองดูอย่างตกใจและอ้าปากค้างต่อคนทั้ง 20 คนนี้

คนเหล่านี้มีตำแหน่งที่ทรงอิทธิพลและเป็นที่ปรึกษาจักรพรรดิที่มีสิทธิมีเสียงเป็นของตัวเอง ในเวลานี้ที่ปรึกษาจักรพรรดิทุกคนได้มารวมตัวกันที่นี่แล้ว

กลุ่มที่ปรึกษากว่า 20 คนเริ่มเดินไปเบื้องหน้าตามการหลีกทางให้จากฝูงชน ในเวลาอันสั้น เขาก็มาถึงด้านหน้าเจี้ยนเฉินและป้องมือ เราขอคารวะผู้พิทักษ์จักรพรรดิ !

เมื่อมาถึงตอนนี้ ราชาแห่งฉินหวงก็เริ่มทรงพระสรวลอย่างไม่ลังเล ในทางกลับกันฝูงชนก็ต้องมองด้วยความตกใจพร้อมกับพยายามคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น

หนึ่งในที่ปรึกษาก็พูดออกมาดัง ๆ ว่า ทุกท่าน ไม่จำเป็นต้องกังวล การแต่งตั้งเจี้ยนเฉินให้เป็นผู้พิทักษ์จักวรรดิก็ได้รับความเห็นด้วยจากผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ด้วย พวกเรา 20 คนเพิ่งได้พูดคุยกับท่านทั้ง 4 ก่อนที่เราจะมารวมตัวกันที่นี่ หากใครมีข้อสงสัย พวกท่านสามารถไปหาผู้พิทักษ์เหล่านั้นได้

จากนั้นฝูงชนทั้งหมดก็เริ่มเสียงฮือฮาอีกครั้ง

ที่ปรึกษาจักรพรรดิแห่งฉินหวงล้วนแต่เป็นเซียนสวรรค์ ดังนั้นเมื่อพวกเขาทำความเคารพเจี้ยนเฉิน มันก็เหมือนกับคลื่นที่แผ่กระจายออกมาเป็นวงกว้าง เนื่องจากเจี้ยนเฉินไม่อาจคิดอะไร เขาไม่อาจรู้ได้ว่าเขาควรจะทำอะไรหลังจากที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวง

ฝ่าบาท ข้ายังคงขาดประสบการณ์อยู่ ข้ากลัวว่าจะทำให้ท่านไม่พอใจ เจี้ยนเฉินคำนับราชา

ราชาตอบพลางทรงพระสรวลว่า หลานเจี้ยนเฉิน ข้าแต่งตั้งให้เจ้าเป็นผู้พิทักษ์จักวรรดินี้ เป็นสิ่งที่ผู้พิทักษ์ทั้ง 4 เห็นด้วย สิ่งนี้ราชาเช่นข้าไม่อาจตัดสินใจใด ๆ ได้

ใบหน้าของเขามีความลังเลใจ การกลายเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิให้กับอาณาจักรฉินหวงนั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อย่างไรก็ตามเนื่องจากสถานการณ์มันพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เจี้ยนเฉินจึงไม่มีเวลาที่จะหาเหตุผลและหน่วงเหนี่ยวและไม่อาจยุติหัวข้อเหล่านี้ได้

เมื่อเห็นสีหน้าลังเลใจของเจี้ยนเฉิน ใบหน้าของราชาฉินหวงก็กังวลขึ้นเล็กน้อย ตอนนี้เขาและเจี้ยนเฉินมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกันแล้ว เขาเต็มใจแม้กระทั่งให้เจี้ยนเฉินเป็นผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจมากที่สุดที่เขาจะให้ได้แล้ว

แต่ฉินจี๋สังเกตเห็นสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเจี้ยนเฉิน แม้ว่าตำแหน่งผู้พิทักษ์จักรพรรดินี้จะสูงยิ่ง แต่เขาไม่ต้องการถูกผูกมัดเอาไว้

ในพระราชวังเริ่มเสียงดังมากขึ้นขณะที่มองไปทางเจี้ยนเฉิน เซียวฮานที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็ซีดราวกับกระดาษและสั่นสะท้าน

อำนาจของผู้พิทักษ์จักรพรรดินี้ทรงพลังกว่าปู่ของเขา อาจกล่าวได้ว่าปู่ของเขาต้องเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเจี้ยนเฉิน

ใบหน้าฉินจี๋ตื่นตระหนกมากเนื่องจากเขากลัวว่าเจี้ยนเฉินจะไม่ยอมรับตำแหน่ง สุดท้ายเขาก็ไม่อาจเก็บเอาไว้ได้อีกต่อไปและพูดว่า เจี้ยนเฉิน ผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวงนั้น สามารถให้เจ้าใช้ประตูมิติได้อย่างไม่มีข้อแม้และได้รับทรัพยากรของเรา แม้กระทั่งอำนาจของเจ้าก็ยังเทียบเท่ากับราชา !

เมื่อได้ยินว่าสามารถใช้ประตูมิติได้ หัวใจของเจี้ยนเฉินก็กระตุก ก่อนที่จะพูดว่า ฝ่าบาท ถ้าข้าได้เป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ข้าจะถูกจำกัดการเคลื่อนไหวของข้าหรือไม่ ?

ไม่เลย หลานเจี้ยนเฉิน เจ้าจะไม่ถูกผูกมัดในการเดินทางของเจ้าในฐานะผู้พิทักษ์จักวรรดิของเรา เราเพียงแค่หวังว่าช่วงที่เราต้องการเจ้า เจ้าจะมาช่วยเราและไม่จำเป็นต้องทำงานให้กับพวกเรา ราชาแย้มยิ้ม

จากนั้นเจี้ยนเฉินก็ได้ข้อสรุป นี่เป็นข้อตกลงที่เขาจะได้รับผลประโยชน์โดยไม่มีการเสียสิ่งใด ด้วยความแข็งแกร่งของอาณาจักรฉินหวง โอกาสที่จะตกอยู่ในอันตรายนั้นจึงไม่มี

ด้วยความคิดนี้ เจี้ยนเฉินจึงไม่ลังเลอีกต่อไปและตกลงที่จะเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิ

เราขอคารวะผูเพิทักษ์จักรพรรดิ !

หลังจากที่เจี้ยนเฉินยอมรับ ทุกคนในฝูงชนก็เริ่มคารวะเขา ตำแหน่งผู้พิทักษ์จักรพรรดินั้นมีชื่อเสียงอย่างมากและมีอำนาจยิ่งกว่าราชาและบางครั้งก็เป็นราชาแห่งอาณาจักรด้วย อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของข้อตกลงด้วยการเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ขุนนางสามารถถูกปลดออกจากตำแหน่งได้โดยไม่มีข้อยกเว้น แม้กระทั่งราชาก็ยังไม่อาจทำสิ่งเหล่านี้ได้หรือแม้กระทั่งในตอนเกิดสงครามขนาดใหญ่

สิ่งนี้จะเห็นได้ว่าผู้พิทักษ์จักรพรรดิมีอำนาจที่ทรงพลังขนาดไหน

หลังจากนั้นขุนนางและที่ปรึกษาก็เริ่มเข้ามาแสดงความยินต่อเจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉินจะยังเยาว์จึงทำให้ทุกคนดูถูกเขาในตอนแรกแต่ศักยภาพของเขาเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจ อนาคตของเขาเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อาจคาดเดาได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ก็ยังคงประหลาดใจกับเขา

เจี้ยนเฉินได้กลายมาเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ทำให้ฉินจี๋มีความสุขอย่างมาก รอยยิ้มของเขาสว่างเจิดจ้าแม้กระทั่งกลางคืนก็ยังคงเห็นได้และมันก็ไม่ใช่เป็นการหลอกลวง

แต่เดิมนี่เป็นการฉลองการครบรอบ 50 ปีขององค์ราชา แต่เพราะการปรากฏตัวของเจี้ยนเฉินได้รับความสนใจอย่างแท้จริง แทนที่จะเป็นองค์ราชาที่จะเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง แต่กลับถูกเจี้ยนเฉินขโมยไป อย่างไรก็ตาม องค์ราชาไม่ได้เศร้าโศกแต่อย่างใด เขามีแต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขา

สำหรับองค์ราชาที่ได้รับอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่มาเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิได้ นี่ถือเป็นเกียรติของเขาอย่างแท้จริงสำหรับอาณาจักรฉินหวง ในอนาคตอาจเป็นไปได้ว่าอาณาจักรฉินหวงจะสามารถเทียบเคียงกับสามมหาอำนาจของทวีปเทียนหยวน