DC บทที่ 274: บางสิ่งผิดปกติกับเธอ(18)

 

ยามเมื่อซูหยางทิ่มตำร่างของหวังซูเหริน อกโอฬารของเธอก็ส่ายไหวอย่างดุเดือดไปกับทุกการทิ่มแทง

 

“อาาาาา”

 

หวังชูเหรินร้องครวญครางเสียงดังขณะที่เธอกอดคอซูหยางแน่นด้วยแขนเรียวยาวของเธอ รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังบ้าคลั่งไปกับความสุขสมที่รุกรานร่างเร่าร้อนของเธอ

 

“อีก…ข้าต้องการรู้สึกถึงความอบอุ่นของเจ้ามากกว่านี้ ซูหยาง”

 

ซูหยางได้ยินคำอ้อนวอนของหวังชูเหรินจึงกอดร่างของเธอไว้ สัมผัสถึงความรู้สึกอันอ่อนนุ่มและอบอุ่นที่ทาบทับกับอกของเขา

 

มันเป็นความรู้สึกที่แปลกล้ำและเมื่อรวมกับความรู้สึกคับแน่นบีบรัดต่อน้องชายของเขา ทำให้ซูหยางรู้สึกเหมือนกับว่าเขาอยู่ในสวรรค์

 

อย่างไรก็ตามเพราะว่าเขาไม่ต้องการให้หวังชูเหรินสูญเสียความสามารถในการเดินเป็นปกติหลังจากนี้ เขาจึงยับยั้งกลเม็ดของเขาเอาไว้และร่วมฝึกคู่กับเธออย่าง “ปกติ”

 

ดังนั้นหลังจากที่ร่วมฝึกคู่กับหวังชูเหรินเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วซูหยางก็พูดว่า “ข้ากำลังจะปลดปล่อยแล้วนะ”

 

“ท-ทำข้างในเลย…”

 

หวังชูเหรินกล่าว

 

ถึงแม้ว่าเธอไม่ได้มีแผนที่จะตั้งท้องในวันนี้ แต่เธอก็ต้องการรองรับทุกสิ่งที่ซูหยางเสนอให้ และตราบเท่าที่เธอกลืนยาที่ป้องกันการตั้งครรภ์ภายในห้าวันหลังจากที่ได้รับปราณหยางของเขา เธอก็จะไม่ตั้งท้อง

 

ซูหยางพยักหน้าและเริ่มทิ่มตำเร็วขึ้นและแรงขึ้น

 

“อาาา”

 

“อาาาาาา”

 

ไม่นานหลังจากนั้น ซูหยางก็หยุดการอั้นน้องชายไว้และเติมเต็มช่องหลืบของหวังชูเหรินด้วยปราณหยาง

 

“อาาาาาาาาาาาา”

 

หวังชูเหรินก็ถึงจุดสุดยอดเช่นกัน แต่แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การถึงครั้งแรกของเธอวันนี้

 

“ฮาา… ฮาาาา… ฮาาาาา…”

 

หวังชูเหรินใช้เวลานานพอควรในการปรับลมหายใจของเธอหลังจากนั้น

 

ซูหยางถอนแก่นกายออกจากร่องหลืบของหวังชูเหรินและคลุมร่างของเขาไว้ด้วยเสื้อคลุมอีกครั้ง

 

หลังจากที่พักผ่อนไปสองสามนาที หวังชูเหรินก็สวมชุดชั้นในและเสื้อคลุมของเธอเช่นกันเพื่อเตรียมตัวจากไป

 

“ซูหยาง…ข้ากลับมาอีกเพื่อที่จะ…เจ้าก็รู้” เธอถามเขาด้วยรอยยิ้มเอียงอาย

 

“ข้าจักมิออมมือให้ในคราวหน้าถ้าเจ้ามา” เขาตอบด้วยรอยยิ้ม

 

ถ้าเขาไม่ออมมือให้เธอ หวังชูเหรินคงจะไม่สามารถยืนขึ้นได้ในตอนนี้ อย่าว่าแต่จะมีความสามารถในการเดิน

 

“เช่นนั้น ข้าจักมาพบเจ้าอีกครั้ง”

 

หวังชูเหรินออกไปจากที่นั้นและกลับไปยังที่เหล่าศิษย์ร่วมสำนักของเธอได้รอหลังจากนั้นไม่กี่นาที

 

 

 

 

เมื่อผู้อาวุโสสูงสุดหานสังเกตเห็นร่างของหวังชูเหริน เขาพลันทักเธอทันที “ผู้อาวุโสหวัง ในที่สุดเจ้าก็กลับมา ข้าเบื่อที่จะรอแล้ว”

 

“หือออ”

 

ผู้อาวุโสสูงสุดหานพลันหรี่ตามองหวังชูเหริน เขารู้สึกว่ามีอะไรผิดแปลกไปจากเธอตอนนี้ บางอย่างที่ไม่เคยมีตอนก่อนจากไป

 

มันเหมือนกับว่าเธอได้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิมอีกเล็กน้อย แต่ความรู้สึกเช่นนั้นไม่สมเหตุผลสำหรับผู้อาวุโสสูงสุดหาน

 

คนอื่นๆก็สังเกตเห็นได้เช่นกัน แต่พวกเขาไม่มีใครสามารถชี้ชัดได้ว่าทำไมพวกเขาจึงรู้สึกเช่นนี้จากเธอ ไม่มีใครในนั้นยกเว้นโหลวหลานจี

 

เมื่อโหลวหลานจีเห็นหวังชูเหรินครั้งแรกหลังจากที่อีกฝ่ายกลับมา ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อ

 

“ก่อนเธอไปเธอมีกลิ่นอายของสาวบริสุทธิ์ แต่ตอนนี้…มันหายไปแล้ว บ้าแล้ว ข้ายังกระทั่งรู้สึกถึงปราณหยางของซูหยางและได้กลิ่นตัวเขาจากร่างของเธอ” เธอคิดในใจ

 

แม้ว่ากระทั่งผู้ที่มีความเฉียบแหลมดังเช่นผู้อาวุโสสูงสุดหานก็ยังไม่สามารถสังเกตเห็นรายละเอียดเช่นนี้ แต่ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในเรื่องเหล่านี้ เหตุใดโหลวหลานจีจะพลาดไปได้ ตามจริงแล้วเธอสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในบรรยากาศรอบตัวของหวังชูเหรินเพียงแค่เหลือบมองเท่านั้น อย่างไรก็ตามการได้รับรู้เช่นนี้กลับเพียงยิ่งสร้างความตระหนกให้กับเธอยิ่งขึ้น

 

“ซูหยางคนนี้…ถึงกลับกล้าเด็ดแก่นพลังหยินของหวังชูเหริน”

 

ถ้าพูดถึงด้านฐานะ หวังชูเหรินค่อนข้างต่ำกว่าโหลวหลานจีซึ่งเป็นผู้นำนิกายของทั้งสำนักอยู่เล็กน้อย อย่างไรก็ตามในด้านของชื่อเสียงและความสำคัญ หวังชูเหรินจะเหนือกว่าโหลวหลานจีมากเพราะว่าตัวตนของเธออยู่ในฐานะนักปรุงยารวมถึงโอสถดอกบัวเพลิงของเธอด้วย

 

และการที่ซูหยางสามารถหว่านล้อมคนเช่นนั้นให้ร่วมฝึกคู่กับเขาได้ ยอมกระทั่งมอบครั้งแรกให้กับเขา นั่นไม่ใช่แค่ปาฏิหาริย์ ส่วนการที่ซูหยางสามารถประสบความสำเร็จเช่นนั้นได้นั้น โหลวหลานจีได้แต่นึกจินตนาการ

 

“ข้ามิมีธุระอะไรที่นี่แล้ว ดังนั้นข้าจักขอลาไปก่อนตอนนี้”

 

หวังชูเหรินกล่าวทันทีที่เธอมาถึง

 

“ด-เดี๋ยว…”

 

โหลวหลานจีพลันหยุดเธอไว้

 

อย่างไรก็ตามเพราะโหลวหลานจีได้หยุดหวังชูเหรินโดยไม่ทันได้คิด เธอจึงไม่รู้จริงๆว่าจะพูดอะไรต่อไปจึงได้แต่นิ่งเงียบหลังจากนั้น

 

“มีอะไรรึท่านเจ้านิกาย”

 

หวังชูเหรินหันกายกลับมาถามเธอ

 

“อืม…”

 

หวังชูเหรินหรี่ตาด้วยความสงสัย

 

“หรือว่าเธอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”

 

หวังชูเหรินครุ่นคิดในใจ รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา

 

“ถ้ามิมากนักข้าอยากขอถามในเมื่อท่านอยู่ที่นี่แล้ว ข้าพอจะสั่งโอสถดอกบัวเพลิงให้กับนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยได้บ้างหรือไม่”

 

โหลวหลานจีจัดการแต่งเรื่องขึ้นมาหาข้ออ้างที่ไปหยุดอีกฝ่ายไว้

 

กล่าวไปแล้ว การที่มีโอสถดอกบัวเพลิงย่อมให้ประโยชน์แก่พวกเธอย่างมากเช่นกัน

 

ได้ยินคำพูดของเธอหวังชูเหรินรู้สึกโล่งอกขึ้นมา

 

“มากเท่าไหร่ที่ท่านต้องการสั่ง” เธอถามโหลวหลานจี

 

“สักสิบเม็ดโอสถดอกบัวเพลิงจะถือว่ามากเกินไปที่จะขอหรือไม่”

 

“ไม่ นั่นมิมีปัญหาใด”

 

หวังชูเหรินพลันนำเอาถุงมิติของเธอออกมาและหยิบเอาขวดโอสถดอกบัวเพลิงออกมาจากภายในสามขวดและวางมันลงบนโต๊ะด้านข้างเธอ

 

“ทั้งหมดมี 30 เม็ดโอสถดอกบัวเพลิงที่นี่ ให้ท่านฟรี” หวังซูเหรินพูด

 

ไม่เพียงโหลวหลานจีเท่านั้นแต่กระทั่งคนของหวังชูเหรินเองต่างก็พากันตะลึงงันไปกับความใจกว้างของเธอ

 

ปกติแล้วจะไม่ยอมให้ทุกสำนักสั่งได้มากกว่าห้าเม็ดในแต่ละครั้ง แต่เธอกลับยกให้นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย 30 เม็ดโอสถดอกบัวเพลิงในครั้งเดียว และแถมยังฟรีอีกด้วย นั่นดูเหมือนกับว่ามันดีเกินไปที่จะเป็นจริงได้

 

“ข-ขอบคุณ” โหลวหลานจีขอบคุณเธออย่างเร่งรีบในเมื่อไม่คิดว่าจะได้รับผลลัพธ์เช่นนั้น

 

แต่หลังจากที่นึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างหวังชูเหรินและซูหยาง การกระทำของเธอดูไม่เป็นการอุกอาจแม้แต่น้อย

 

ส่วนสำหรับคนจากนิกายดอกบัวเพลิง พวกเขาถือว่าหวังชูเหรินใจกว้างเนื่องมาจากความสงสารในสถานการณ์ของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยและไม่ได้คิดมากมายเกินไปในเรื่องนี้ อย่าว่าแต่เม็ดยานี้เป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาไม่มีฐานะอะไรที่จะไปคัดค้านการตัดสินใจของเธอ

 

หลังจากให้โอสถดอกบัวเพลิงกับโหลวหลานจีแล้ว หวังชูเหรินก็ออกจากนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่จะจากไป หวังชูเหรินก็กล่าวกับโหลวหลานจีว่า “ข้าจักกลับมาในภายหลังกับคำสั่งซื้อโอสถดอกบัวเพลิงของท่าน”

 

“เอ๋”

 

โหลวหลานจีจ้องมองหวังชูเหรินด้วยใบหน้าตื่นตะลึงขณะที่อีกฝ่ายออกไปจากที่แห่งนั้น

 

จากนั้นเธอก็มองดูโอสถดอกบัวเพลิงสามสิบเม็ดบนโต๊ะไม่ห่างไปจากตัวเธอนัก

 

“เช่นนั้นแล้วสิ่งนี้เพื่ออะไร” เธอถามตัวเองในใจ

 

หลังจากที่คิดชั่วขณะ เธอก็ยิ้มขื่นขมและส่ายหน้า

 

“เช่นนี้เป็นว่าเจ้าติดกับดักของเจ้าคนอันตรายนั่นละสิ เฮ้อ”

 

แม้ว่าเธอไม่อาจเข้าใจว่าเหตุใดหวังชูเหรินจึงเลือกคนแบบซูหยางเป็นคู่เคียงคนแรก แต่เธอเข้าใจเป็นอย่างดีว่าทำไมหวังชูเหรินจึงต้องการกลับมาอีกครั้ง

 

สุดท้ายแล้วก็เป็นเพราะว่าลึงค์ของเขานั้นดีเกินกว่าที่จะไม่กลับมาอีกครั้ง

 

หลังจากที่หวังชูเหรินและกลุ่มของเธอจากไปแล้ว โหลวหลานจีก็เก็บรักษาโอสถดอกบัวเพลิงไว้ในที่ปลอดภัยก่อนที่จะกลับไปยังศาลาหยินหยาง

 

ส่วนสำหรับซูหยางนั้น เขาก็ง่วนอยู่กับบรรดาศิษย์หญิงที่รอเขาอยู่ด้านนอก