ตอนที่ 1826

 

หลังจากการสนทนาอย่างอิ่มเอม จ้าวเมืองมรกตและสองผู้พิทักษ์ก็ได้เดินทางจากไป

 

“ทําไมเจ้าจะต้องตกปากรับคําที่จะเข้าร่วมกับจ้าวเมืองมรกตด้วย?”

 

ทู่หลิงหลงขมวดคิ้วเป็นปมและเอ่ยถามออกไป “ข้าคิดว่าจ้าวเมืองมรกตนั่นมีเล่ห์เหลี่ยมไม่น้อยเลย ดูเหมือนจะไม่ใช่ปีศาจที่ดี การที่มันเชิญชวนเจ้าเข้าร่วมนั่น บางทีอาจจะมีแผนการร้ายช่อนอยู่”

 

“ถูกต้อง ข้าก็สัมผัสได้ถึงเจตนาที่ชั่วร้ายบางอย่าง”

 

ชิงหลวนก็พยักหน้า เธอสามารถสัมผัสได้ถึงจิตใจที่ซ่อนเร้นของผู้อื่นและรู้ว่าจ้าวเมืองมรกตผู้นั้นไม่ได้เปิดเผยและตรงไปตรงมาเหมือนกับที่แสดงออกมาในพื้นผิวภายนอก เหมือนกับว่าจะซ้อนเร้นแผนการบางอย่างไว้

 

“ทุกๆคนย่อมมีความคิดที่ไม่ดีแอบแฝง นี่มันไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด”

 

เชี่ยปิงยิ้มออกมา “ยิ่งไปกว่านั้นการที่เข้าร่วมกับพวกมันก็ไม่ใช่ว่าจะต้องช่วยเหลือพวกมันพวกมันต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากข้าข้าก็ต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากพวกมันทุกๆฝ่ายต่างก็ ใช้ประโยชน์จากกันและกัน”

 

“การถือกําเนิดของแมลงหลุมดํานี้ เหมือนจะมีกลุ่มอิทธิพลมากมายที่ล่วงรู้ถึงเรื่องนี้ หากปราศจากเครือข่ายเส้นสายล่ะก็บางทีอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ําว่าแมลงหลุมดําจะปรากฏตัวขึ้นมาที่ไหน และเมื่อไหร่

 

“ทว่าการที่เข้าร่วมกับพวกมันก็จะทําให้สถานการณ์แตกต่างออกไป พวกเราจะได้รับข้อมูล มามากมายยิ่งไปกว่านั้นเมื่อถึงเวลาที่ทุกๆคนเริ่มลงมือแย่งชิงแมลงหลุมดํา พวกเราก็จะใช้พวกมันเป็นแพะรับบาปได้”

 

เขาบ่งบอกว่าถึงผลประโยชน์มากมายในการเข้าร่วมกับฝ่ายตรงข้าม

 

“ใช้พวกมันเป็นแพะรับบาป? เดิมที่ข้าก็รู้ว่าเจ้าไม่ได้มีเจตนาที่ดีทว่านี่ก็เป็นแผนการที่สมเหตุสมผลที่เดียวตอนนี้ยังไม่มีทางรู้ได้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด”

 

ทู่หลิงหลงก็กําหมัดขึ้นมาคิดว่านี้เป็นแผนการที่สมเหตุสมผลมาก

 

“ในเมื่อเจ้ามั่นใจเช่นนี้มันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี”

 

ชิงหลวนก็ไม่มีความคิดคัดค้านตราบใดที่ได้ครอบครองแมลงหลุมดํามาสิ่งอื่นๆล้วนเป็นปัจจัยรอง

 

ค่ําคืนวันต่อมา ณ คฤหาสน์จ้าวเมือง

 

เชี่ยปิงได้เดินทางมาที่คฤหาสน์หลังนี้ทว่าทู่หลิงหลงและชิงหลวนทั้งสองกําลังเก็บตัวบ่มเพาะ อยู่ภายในคฤหาสน์ของตนเองเพราะว่าถึงอย่างไรค่ําคืนนี้ก็มีเพียงยอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่รวมตัวกันซึ่งพวกเธอยังไม่มีคุณสมบัติที่เพียงพอ

 

ในเวลานี้ ภายในคฤหาสน์จ้าวเมือง มีปีศาจที่รวมตัวกันอยู่มากมาย หากมองดูอย่างคร่าวๆ จะ สามารถมองเห็นปีศาจในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าประมาณ 7-8ตัวนี่คือผู้ช่วยที่จ้าวเมืองมรกตได้เชื้อชวนมาเช่นกัน

 

นอกเหนือจากนี้ ปีศาจในระดับกฏเทวรูปก็มีอยู่ประมาณ70-80ตัวราวกับเป็นกองทัพที่ยิ่ง ใหญ่เรียกได้ว่ายอดฝีมือระดับสูงทั่วทั้งเมืองมรกตได้ปรากฏตัวอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้แล้ว

 

ทว่าเมื่อเชียปิงผ่านประตูเข้ามา สายตาของปีศาจจํานวนนับไม่ถ้วนก็บรรจบลงที่ตัวเขา บรรยากาศหนักอึ้งขึ้นมาอย่างกะทันหัน ห็นได้ชัดว่าเขาได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม

 

เพราะว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เขามีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในเมืองมรกต เข้ามาวันแรกก็ใช้ เงินเหมือนว่าต้องการให้ตนเองล้มละลาย ใช้เงินหนึ่งพันล้านเหรียญปีศาจจนหมดเกลี้ยง ภายในวันเดียวกลายเป็นหัวข้อสนทนาของปีศาจจํานวนนับไม่ถ้วนในเมืองมรกต

 

ทว่าเมื่อวานก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะลงมือสังหารปีศาจชราเฮยเพิ่งไปเช่นกัน อีกทั้งยังเลือกที่จะ แขวนศีรษะของมันไว้ที่หน้าประตูคฤหาสน์ ท้าทายเรือนหมื่นปีศาจอย่างแท้จริง เป็นวิธีการที่โหด เหี้ยมอย่างมาก กลายเป็นข่าวเด่นของเมือง

 

แม้แต่ยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าก็ยังให้ความสนใจเชี่ยปิงเช่นกัน ต้องการที่จะรู้ว่าเจ้าปี ศาจที่ลึกลับนี้ซ่อนฝีมือไว้แค่ไหน

 

“สหาย เข้ามาทันเวลาพอดี ข้าจะแนะนําทุกๆคนให้เจ้ารู้จัก”

 

ในตอนนี้ จ้าวเมืองมรกตเห็นเชี่ยปิงที่เดินเข้ามาทันใดนั้นก็แนะนําทุกๆคนโดยตรง “นี่คือส หายกู่เจิงถงเป็นผู้อาวุโสของตระกูลกระดูกทมิฬมีพลังอํานาจที่แข็งแกร่งอย่างมาก”

 

เห็นเพียงแค่มีโครงกระดูกที่สวมใส่ชุดคลุมสีดํายืนอยู่ตรงหน้าของเชี่ยปิงดวงตาโพลงเป็นรูสีดํา ส่วนลึกเหมือนกับจะมีประกายไฟวิญญาณอยู่ลางๆ อีกทั้งร่างกายของมันก็ยังแผ่ออร่าที่ทําให้ผู้คนรู้สึกใจสั่นได้

 

เชี่ยปิงก็สัมผัสได้ถึงพลังอํานาจที่แข็งแกร่งของโครงกระดูกนี้เหมือนกับว่ากระดูกแต่ละชิ้น จะแกร่งกล้าจนเทียบได้กับสิ่งประดิษฐ์วิญญาณขั้นสูงกระดูกจํานวนนับไม่ถ้วนเชื่อมต่อกัน ผสมผสานกลายเป็นหนึ่งเดียว

 

“นี่คือผู้อาวุโสเตี้ยยวจากตระกูลผีเสื้อ”

 

“นี่คือผู้อาวุโสเหวินเจิ้งจากตระกูลยุงวายุ”

 

จ้าวเมืองมรกตก็ได้แนะนํายอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าที่อยู่รอบๆแนะนําตัวยอดฝีมือใน ระดับลงทัณฑ์สายฟ้าไปทั้งหมดรวมถึงแนะนํายอดฝีมือในระดับกฏเทวรูปเป็นจํานวนมากเช่นกัน

 

เชี่ยปิงก็พยักหน้า แสดงความเข้าใจ

 

“จริงสิ นี่คือ…”

 

จ้าวเมืองมรกตก็ต้องการที่จะแนะนําเชี่ยปิงให้ทุกคนได้รู้จัก

 

“ท่านจ้าวเมือง ไม่จําเป็นต้องแนะนําเขา นี่คือไทโต่วผู้โด่งดังของเมืองมรกตในช่วงเวลานี้ ใครกันที่จะไม่รู้จักเขา” ในเวลานี้ปีศาจตัวหนึ่งได้เอ่ยแทรกขึ้นมา “ทว่าถึงอย่างไรเขาก็เป็นเพียง แค่ผู้บ่มเพาะในระดับแตกฉานเท่านั้น ข้าไม่คิดว่าเจ้าเด็กนี้จะมีคุณสมบัติในการเข้าร่วมกับพวก เรา”

 

“เมื่อถึงเวลาที่ต้องแข่งขันแย่งชิงแมลงหลุมดําเจ้าเด็กนี้อาจจะกลายเป็นตัวภาระและสร้าง ปัญหาจนพวกเราต้องยื่นมือเข้าไปช่วย ส่งผลให้แผนการทั้งหมดของพวกเราล้มเหลวไป”

 

มันไม่สบอารมณ์อย่างมากกับการที่เชี่ยปิงเข้าร่วม แสดงการคัดค้านออกมาโดยตรง

 

เชี่ยปิงก็หรี่ตาลง ผู้ที่เอ่ยออกมานี้ก็คือปีศาจของตระกูลสุนัขซึ่งเป็นปีศาจที่มีคุณสมบัติของธาตุสายฟ้า น่าจะมีชื่อว่าเหล่ยเฉียนมันมองเซี่ยปิงด้วยสีหน้าที่ดูถูกเหยียดหยาม มีสายตาที่ยโสโอ ทั้งอย่างมาก

 

มันก็รู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง มันเป็นราชั้นปีศาจในระดับกฏเทวรูป มีคุณสมบัติของธาตุสายฟ้าโดยกําเนิดมีพลังโจมตีที่น่าสะพรึงกลัว ถือว่าเป็นหนึ่งในปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดในระดับเดียวกัน

 

นอกจากยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าแล้วนั้น มันก็ไม่ได้คิดว่ามีใครอยู่เหนือกว่าตนเองอีก

 

“สหายเหล่ยเฉียน เจ้าไม่ควรพูดเช่นนี้สหายธุ์ได้พิสูจน์พลังอํานาจของตนเองแล้ว แม้แต่ปีศาจชราเฮยเพิ่งผู้นั้นเขาก็สามารถ” จ้าวเมืองมรกตรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที ไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งขึ้น

 

“ท่านจ้าวเมือง เรื่องนี้ข้าก็รู้มาแล้ว”

 

เหล่ยเฉียนกวักมือ “ทว่าใครจะไปรู้กันว่าสุดท้ายแล้วเจ้าเด็กนี้สังหารปีศาจชราเฮยเพิ่งไปอย่างไรบางทีเขาอาจจะใช้สมบัติลับบางอย่างในการกําจัดปีศาจชราเฮยเพิ่ง เรื่องเช่นนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่พบเจอได้ยาก”

 

“แต่ปัญหาก็คือว่าสมบัติลับเช่นนั้นไม่สามารถใช้งานได้บ่อยนักบางทีก็อาจจะใช้ได้เพียงแค่ ครั้งเดียว เมื่อใช้ไปแล้วก็ไม่สามารถใช้ได้อีกดังนั้นมันถึงได้ทรงอํานาจนัก ทว่าหากเป็นเช่นนั้น เจ้าเด็กนี่ก็ไม่เหลืออะไรอีกแล้วไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้าร่วมกับพวกเรา…อ๊าก!”

 

ไม่ทันรอให้มันได้พูดจนจบทันใดนั้นพลังหมัดก็พุ่งทะลวงเข้ามาโดยตรง ควบแน่นกลายเป็นสสารคลื่นความร้อนที่ไร้ที่สิ้นสุดได้แผ่ออกมาดูเหมือนกับเป็นดวงอาทิตย์ที่พุ่งผ่านอวกาศที่มืดมิดก็ว่าได้

 

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นฝีมือของเชียปิงประเคนหมัดออกไปโดยตรง

 

ตีบ!

 

เหล่ยเฉียนไม่สามารถตอบสนองได้ทัน เพราะว่าหมัดนี้รวดเร็วเกินไปรวดเร็วเกินไปจริงๆ วิ นาทีต่อมาทั่วทั้งร่างของมันก็ถูกหมัดนี้กระแทกเข้าไปกระเด็นออกไปโดยตรง ไถลตามพื้นออกไปไกลหลายร้อยเมตรที่พื้นก็กลายเป็นรอยขีดยาวที่น่าสะพรึงกลัว

 

ท้ายที่สุดร่างของมันก็พุ่งชนเข้ากับกําแพงของคฤหาสน์อย่างรุนแรง

 

ทั่วทั้งคฤหาสน์จ้าวเมืองสั่นสะเทือน แม้แต่กําแพงที่มีค่ายกลยับยั้งอยู่ก็ไม่สามารถต้านทานได้รอยแตกร้าวปรากฏขึ้นมามากมาย

 

“ลั่ก!”

 

เหล่ยเฉียนอัดเข้ากับกําแพงอย่างจัง ส่วนลึกของหัวใจได้รับบาดเจ็บ อดไม่ได้ที่จะกระอักเลือดออกมาแม้แต่เส้นขนทั่วทั้งร่างกายก็ถูกแผดเผาโดยเปลวไฟที่ส่องสว่าง แม้กระทั่งที่แผลของมันก็ไหม้เกรียม

 

มันจ้องมองเซี่ยปิงอย่างโมโหและตกตะลึง

 

หากตนเองไม่ได้มีเนื้อหนังที่แข็งแกร่งทนทานล่ะก็ บางทีหมัดเมื่อครู่นี้ก็อาจจะสังหาร มันได้โดยตรงหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ต่อให้จะต้องการกรีดร้องก็ไม่อาจทําได้

 

ปีศาจจํานวนมากก็สะดุ้งตกใจ ไม่คาดคิดว่าเจ้าอู่ไทโต่วนจะโหดเหี้ยมจนถึงขั้นนี้ กล้าที่จะเปิดฉากโจมตีปีศาจตัวหนึ่งภายในคฤหาสน์จ้าวเมืองอีกทั้งยังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาท่านจ้าวเมืองมรกตนี่มันเป็นความอาจหาญประเภทใดกัน?

 

“มีใครอีก?!”

 

เชี่ยปิงยืนไขว้มือไว้ข้างหลังทั้งสองข้างพร้อมกับกวาดสายตามองปีศาจที่อยู่รอบๆ “มีใครอีก หรือไม่ที่ปฏิเสธจะยอมรับ ยังคงสงสัยในพลังอํานาจของข้าก้าวออกมาซะดูสิว่าข้าจะสังหารพวกเจ้าได้หรือไม่”

 

“เจ้าหนู เจ้าจะอวดดีเกินไปแล้ว อย่าได้ใจให้มั่นมากนัก หากเจ้าเหล่ยเฉียนไม่ได้ประมาทไปล่ะก็เป็นไปได้อย่างไรที่เจ้าจะเอาชนะมันได้ง่ายๆแน่จริงก็ออกมาสู้กับข้าอย่างซึ่งๆหน้า!”

 

ผู้ที่เอ่ยออกมานี้ก็คือเสือดาวทองคํา มันเป็นยอดฝีมือในระดับกฏเทวรูปขั้นสูงสุด เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้ถูกข่มขวัญโดยคําพูดของเชี่ยปิงแม้แต่น้อยทันใดนั้นก็รีบก้าวออกไปท้าทายเชี่ยปิงอย่างซึ่งๆหน้าทันที