ตอนที่ 1567 มาเล่นกันหน่อย (7)
เฉียวฉู่ไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆบนใบหน้า แต่ในใจเขากำลังเบ่งบานด้วยความสุข คำพูดที่เขาใช้มาจากรูปแบบที่จวินอู๋เสียเคยใช้ปลุกปั่นผู้คน ผลของมันน่าประหลาดใจจริงๆ!
“ไม่ว่าจะทำอะไร เราต้องไม่ทำให้ชื่อเสียงของวิหารปีศาจเพลิงเสื่อมเสีย วิหารมารโลหิตผยองมานานเกินไปแล้ว ต้องมีใครสักคนโค่นพวกเขาลง เราต้องทำให้พวกมันรู้ว่าอาณาจักรกลางไม่ได้เป็นของพวกวิหารมารโลหิตเท่านั้น!” เฉียวฉู่กล่าวอย่างเย้ยหยัน
พวกผู้เยาว์ที่อยู่รอบตัวเขาส่งเสียงร้องประสานกันอย่างเห็นด้วยเต็มที่
ตั้งแต่นั้นมา พวกผู้เยาว์ของวิหารปีศาจเพลิงก็เริ่มกลั่นแกล้งและขัดขวางทุกอย่างที่วิหารมารโลหิตทำ!
สำนักธาราเมฆไม่มีกฎห้ามศิษย์ต่อสู้กัน ทางสำนักทำตามกฎแห่งป่ามาตลอด ตราบใดที่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ พวกเขาก็มีอิสระที่จะทำตามที่ต้องการ
และกฎที่เป็นเอกลักษณ์มากของสำนักได้ทำให้เกิด “สงคราม” ขึ้นในหมู่ศิษย์ใหม่ของสำนักธาราเมฆ
ไม่รู้ว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญรึเปล่า แต่จู่ๆศิษย์จากห้าวิหารของสำนักธาราเมฆก็ตั้งตัวเป็นศัตรูกับวิหารมารโลหิต และทั้งห้าวิหารนั้นก็แข็งแกร่งมากด้วย แม้แต่วิหารปีศาจเพลิงที่มีความแข็งแกร่งระดับเดียวกับวิหารมารโลหิตก็ยังโจมตีพวกเขา
ในตอนนั้น ศิษย์ของวิหารมารโลหิตก็พบว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายอย่างยิ่ง
ศิษย์จากวิหารอื่นๆจะยั่วยุหรือท้าทายพวกผู้เยาว์จากวิหารมารโลหิตเกือบทุกวัน
ถ้าแค่วิหารเดียว วิหารมารโลหิตก็คงพอจะรับมือได้ ต่อให้เป็นวิหารปีศาจเพลิง พวกเขาก็ยังสามารถทัดเทียมกับคู่ต่อสู้ได้
แต่สถานการณ์ในตอนนี้……
วิหารปีศาจเพลิง, วิหารมังกร, วิหารจิตหวนคืน, วิหารเสวียนเทียน, วิหารจื่อเหลย เหล่าผู้เยาว์จากห้าวิหารนี้พากันเป็นศัตรูกับวิหารมารโลหิตในเวลาเดียวกัน สร้างสถานการณ์ที่ไม่สมดุลกันขึ้นมา
ไม่ว่าผู้เยาว์จากวิหารมารโลหิตจะแข็งแกร่งเพียงใด พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานการยั่วยุจากวิหารต่างๆอย่างต่อเนื่องได้ ยิ่งกว่านั้น ความแข็งแกร่งของวิหารทั้งห้าก็สูงกว่าค่าเฉลี่ย เป็นเหล่าวิหารที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสิบสองวิหาร ทำให้พวกผู้เยาว์จากวิหารมารโลหิตตกอยู่ในจุดที่คับขันมาก
ทุกๆวัน ไม่ว่าผู้เยาว์จากวิหารมารโลหิตจะอยู่สาขาไหน ทันทีที่พวกเขาเสร็จสิ้นการฝึกพลัง พวกเขาก็จะถูกคนจากวิหารอื่นรุมล้อมและล้อเลียนยั่วยุทุกรูปแบบเพื่อใช้เป็นเหตุผลในการโจมตีพวกเขา สิ่งที่ทำให้ยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีกก็คือ คนพวกนั้นเพิกเฉยต่อความเป็นธรรมอย่างสิ้นเชิง มักจะรุมโจมตีศิษย์จากวิหารมารโลหิตอยู่เสมอ ทุบตีพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะได้พูดซะอีก!
วิหารมารโลหิตมีคนอยู่จำนวนมาก โดยปกติพวกเขาจะไปไหนมาไหนกันเป็นคู่ แต่ก็ยังไม่พอที่จะตอบโต้การกดขี่ที่พวกเขาได้รับจากอีกห้าวิหาร บ่อยครั้งที่กลุ่มของพวกเขาเพิ่งเดินออกจากสาขาของตัวเอง ก็โดนรุมทำร้ายจากอีกห้าวิหารทันที ทำให้พวกผู้เยาว์จากวิหารมารโลหิตไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เลย
ไม่ว่าวิหารมารโลหิตจะแข็งแกร่งขนาดไหน พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานการโดนรุมแบบห้าต่อหนึ่งนี้ได้
ใช้เวลาไม่นาน เกือบทุกคนจากวิหารมารโลหิตต่างก็มีร่องรอยบาดเจ็บอยู่บนร่างกาย แม้แต่หลินเฮ่าอวี่ก็ไม่ละเว้น วันหนึ่ง หลังจากการฝึกจบลง จู่ๆเขาก็โดนเฉียวฉู่ตรึงลงกับพื้นตรงหน้าประตูสาขา แล้วทุบตีจนหัวของเขาบวมปูดเหมือนหมู!
เฉียวฉู่แข็งแกร่งมากเกินไป เป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ซึ่งได้ทะลวงเข้าสู่พลังวิญญาณสีม่วงที่แท้จริงแล้ว จากที่คนอื่นๆเห็น มีเพียงหรงรั่วจากวิหารจิตหวนคืนกับฮัวเหยาจากวิหารจื่อเหลยเท่านั้นที่จะสู้กับเขาได้ แม้ว่าหลินเฮ่าอวี่จะค่อนข้างแข็งแกร่งพอตัว แต่เมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งที่ผิดปกติของเฉียวฉู่ หลินเฮ่าอวี่ก็ยังห่างชั้นอยู่มาก เหตุการณ์ที่เขาถูกเฉียวฉู่จับกดกับพื้นแล้วทุบตีอย่างรุนแรงที่หน้าประตูสาขา ถูกพบเห็นโดยผู้คนที่ผ่านไปมาจำนวนมาก
เฉียวฉู่ไม่ได้แสดงความเมตตาใดๆต่อหลินเฮ่าอวี่ ตอนที่จวินอู๋เสียถูกรุมกลั่นแกล้งยังคงแจ่มชัดอยู่ในใจของเฉียวฉู่ เขารู้มาตลอดว่าทั้งหมดมีหลินเฮ่าอวี่อยู่เบื้องหลัง โอกาสหายากเช่นนี้ทำให้เฉียวฉู่มีเหตุผลที่จะทุบตีคนอย่างเขา เฉียวฉู่จึงคว้าโอกาสนั้นไว้ทันทีและปลดปล่อยความโกรธที่กักเก็บไว้ทั้งหมดลงในคราวนี้!