ตอนที่ 467 : ออกนอกโลก
สําหรับคนส่วนใหญ่พวกเขาเล่นเกมเกือบจะครบทุกรูปแล้ว แต่สําหรับบางคนพวกเขายังรู้สึกขาดอะไรไป
ในโลกนี้คนเรามีความสนใจหลายรูปแบบที่แตกต่างกันไปบางคนเลือกที่จะจดจ่ออยู่กับคาถาทางจิตวิญญาณ และบางคนมุ่งเน้นไปที่เทคนิคการต่อสู้ เดอะแมททริกซ์ถือเป็นแรงบันดาลใจให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญและหลายคนเริ่มค้นพบตัวเอง
บางคนที่มีความสนใจในการฝึกฝนการต่อสู้ในสงครามเริ่มโยกย้ายไปเล่นเกมเมียร์สอง ในเกมค่อนข้างแตกต่างจากสงครามชีวิตจริง แต่มันมีกลยุทธ์การแนะนําที่ค่อนข้างแตกต่างจากของจริง แต่สามารถนํามาใช้ได้จริง
เจียงซวนที่นั่งเล่นบนเก้าอี้เขาเล่นจบไปหลายเกมและล่าสุด เซียนกระบี่พิชิตมารสามที่ใช้เวลามาสักพักของเขาก็ใกล้จะจบลงเช่นกัน
“คงจะดีถ้ามีเกมจําลองสงครามเพื่อให้เราฝึกกลยุทธ์ และการตัดสินใจในการบังคับบัญชากองทหารได้”
นาหลันหมิงชื่อได้บรรลุตอนจบของเซียนกระบี่พิชิตมารสามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากใช้เวลาต่อสู้มาเป็นเวลาหลายวัน ผู้เล่นหลายคนเองก็เริ่มสําเร็จไปตามๆกัน
เรื่องราวจบลงหลังจากการต่อสู้อันดุเดือด แน่นอนว่าแต่ละคนพบจุดจบที่ต่างกันไป ซุนเจียน และหลงกุยเสียชีวิตซึ่งจะไม่ขอกล่าวถึงในที่นี้
ตอนนี้การเปิดใช้งานเกมเซียนกระบี่พิชิตมารสามนั้นทะลุเป้าสี่พันครั้งไปแล้ว
เดอะแมททริกซ์เองก็ทํายอดได้ไม่ต่าง หนังเรื่องนี้ดึงดูดผู้ชมจํานวนมากตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว แม้ว่าในตอนแรกหลายคนจะรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่สนใจ แต่พอดูไปกลางเรื่องแล้วกลับค้นพบเรื่องราวชวนประหลาดใจและเกินกว่าโลกแห่งความจริงไปมาก
แม้ว่าเดอะแมททริกซ์จะไม่ได้ช่วยเรื่องการพัฒนาการฝึกฝนแต่นั่นก็ไม่ได้ทําให้ยอดขายลดลงเลย จินตนาการอันแปลกใหม่เกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นกระบวนการของหนังทําให้เรสซิเด้นอีวิลถูกกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง
แน่นอนว่าบางคนสนุกกับเกมและหนังโดยไม่หวังผลกําไร กูถึงหยุนและซงวูที่ชื่นชอบทั้งสอง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับผลประโยชน์เพิ่มแต่ความสนุกเหล่านี้นําสิ่งใหม่มาสู่ชีวิตอันยืนยาวของพวกเขาอีกครั้ง
แม้แต่ปรมาจารย์เองก็พบว่าความแปลกใหม่นี้น่าฟังมาก
ใช่ ยอมรับเลยว่ามันน่าทึ่ง
ชีวิตที่ผ่านมาของพวกเขานั้นเหน็ดเหนื่อยกับการฝึกฝนอันยาวนานนับพันปี ทุกอย่างดูเหมือนเดิมฝึกฝน ฝึกฝน ฝึกฝน ไร้ความสนุกและความบันเทิงในหัวใจจนรู้สึกเบื่อหน่าย
ใช่ มันเกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนแก่อย่างกูถึงหยุนแม้ว่าเขาจะประสบความสําเร็จด้านคาถาจิตวิญญาณและการฝึกฝน แต่ชีวิตของเขาเหลือเวลาอีกไม่มาก การฝึกฝนในช่วงบ้านปลายชีวิตไม่ได้สําคัญมากนัก งานเดียวสําหรับพวกเขาในตอนนี้คือถ่ายทอดความรู้สู่เหล่าสาวกและเก็บเกี่ยวความสุขในช่วงสุดท้ายของชีวิต
แม้แต่คนหนุ่มสาวของหวังซีและซุนหยุนเองก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับการเล่าเรียนซ้ําแล้วซ้ําเล่า พวกเขาเกิดมาในที่ที่จําต้องทําตามกฏทุกข้อโดยไร้ข้อกังขาใดๆ
ในการเปรียบเทียบ สิ่งใหม่ๆ เหล่านี้ทําให้พวกเขารู้สึกมีความสุขมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แม้ว่าแต่ก่อนจะไม่ได้ทําอะไรเลยนอกจากฝึกฝนและต่อสู้ ตอนนี้พวกเขารู้สึกชีวิตมีอะไรให้ทํามากกว่าเดิม
“พี่หวัง … วันนี้ข้าจะไปสู้กับชงหลิว” ซุนหยุนพูดด้วยท่าทางร้อนใจในที่สุดเขาก็สามารถเข้าไปถึงปีศาจผู้ทรงพลัง
“เจ้ามันห่วย!” ถังหยูดูถูก “ข้าผ่านรอบสองมาครึ่งทางแล้ว”
“ห่วย? เจ้าไม่รู้อะไรซะเลย ข้าอยู่ยงคงกระพัน!” ซุนหยุนกลอกตาใส่เขา “ความเร็วของจิงเทียนในการควบคุมคาถานั้นว่องไวกว่าเราหลายเท่ามาก ตอนนี้ข้าพยายามที่จะฝึกฝนแบบเขาบ้าง”
“ข้าจะเอาชนะชงหลิวให้ได้ ข้าจะแสดงให้ท่านเห็น!”
“พนันเลยว่าเจ้าไม่สามารถทํามันได้แม้จะใช้เวลาทั้งวัน” ถังหยวนกล่างเย้ย
“การเอาชนะชงหลิวยากกว่าที่ผ่านมามาก” หวังซีบอกเขา
ใบหน้าของซุนหยุนมีดลง “…”
สามวิหลังจากที่เขาเข้าสู่โลกอมตะ หน้าจอของเขาเปลี่ยนเป็นสีเทา
เขาตาย
“ข้าถูกสายฟ้าฟาดตาย”
ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวและแสงจัทร์ที่สอดส่องมายังโลก ไม่มีใครล่วงรู้วิธีที่จะขึ้นไปบนนั้น
แม้แต่เทคนิคการควบคุมดาบของฟางฉีก็ไม่สามารถบินออกไปจากโลกนี้ได้ แต่ละวันผู้คนเฝ้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยพระจันทร์และดวงดาวที่ส่องแสงลงมา ผู้คนที่นี้ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เขามองเห็นที่เรียกว่าดาวจริงๆนั่นคืออะไร
พวกเขาไม่รู้ว่าท้องฟ้ามีจุดสิ้นสุดหรือไม่โครงสร้างของมันเป็นยังไงแตกต่างอย่างไรกับโลกใบนี้ แน่นอนฟางฉีเองก็ไม่สามารถบินออกจากโลกใบนี้ได้
ไม่มีใครสามารถบินออกไปได้
เป็นเรื่องธรรมดาของผู้คนที่นี่ที่จะไม่รู้จักว่ากาแล็กซี่หน้าตาเป็นยังไง แม้จะมีบางทีพวกเขาเพ้อฝันถึงสวรรค์
มันเป็นดินแดนที่ผู้ฝึกฝนและนักรบปรารถนาจะได้ไปเหยียบสักครั้งในชีวิต ดินแดน แห่งสวรรค์อันขึ้นชื่อว่าไม่มีความแก่ความเจ็บและจะคงอยู่ไร้ความตาย
“เจ้าของร้าน สตาร์คราฟคือเกมอะไร?” หลายคนจองมองที่หน้าจอเขา
เดอะแมททริกซ์ก่อแนวคิดใหม่ๆ ให้พวกเขาซึ่งสตาร์คราฟอาจแนะนําให้พวกเขาไปรู้จักกับโลกที่กว้างกว่า
“เจ้านาย ” เจียงเสี่ยวหยูตัวน้อยมองฟางฉีด้วยแววตาอ้อนวอน “เราขอดูท่านเล่นได้มั้ย?”
“อยากดู ข้าอยากดู!” กวางขาวตัวใหญาวางกีบเท้าบนเคาน์เตอร์มันทําหน้าตาน่ารักใส่เขา
เจียงเสี่ยวหยูลูบหัวของมัน “ข้ากับเจ้ากระดิ่งอยากดู”
“ก็ได้! ข้าจะถ่ายทอดสด”
“เยี่ยม!” สายตาของถังหมูดูมีหวัง “วันนี้ท่านจะถ่ายทอดาดมั้ย?”
เขาจําได้ว่าเขาติดใจการเฝ้าดูวิธีการเล่นของเจ้าของร้านมาก การต่อสู้แต่ละครั้งน่าตื่นเต้นความทรงจํายังจําฝังใจ
“ไปกันเถอะ! เจ้าของร้านกําลังจะถ่ายทอดสด!”
“เขาจะถ่ายทอดสดอะไร?” ซุนหยุนสงสัย “ข้ากําลังจะผ่านความทุกข์ยาก!”
“แม่งไร้สาระจริงๆ ความทุกยากของเจ้าเนี่ย!” ถังหยูสบถ “ไปไปดูการถ่ายทอดสด!”
ยังเช้าอยู่แต่ก็เต็มไปด้วยผู้คนที่พลุกพล่าน ร้านค้าทั้งสามที่ได้รับความนิยมจากคนแทบทุกรุ่น ทุกวัย และลูกค้ายังคงเพิ่มขึ้นทุกๆวัน
พวกเขาหันไปมองจอใหญ่ “เจ้าของร้านกําลังจะถ่ายทอดสดหรอ?”
ผู้คนจากหนานหัวที่กําลังเดินไปที่เคาน์เตอร์ถึงกับชะงักและเลือกที่จะตรงปรี่ไปยังโซฟา
คนรอบข้างดูงุนงง โซฟาตัวนุ่มถูกยึดไปแล้ว ในไม่ช้าแถวของไอคอนตัวอักษรสีน้ําเงินก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
“Bizzard?” นาหลันฮงทูเหลือบมองหน้าจอ “เจ้าของร้านกําลังจะเล่นเดโบหรอ?”
เขาทําหน้างง “แต่เจ้าเด็กคนนั้นเล่นจบแล้วนี่”
หน้าจอปรากฏพื้นที่กว้างใหญ่ในจักรวาลพร้อมดาวเคราะห์สีน้ําเงินเข้มที่มุมล่างซ้าย
มีไอคอนหลายไอคอนบนหน้าจอ [ดาวเทียม = หลายคน, เรือประจัญบาน = ผู้เล่นคนเดียว, หลุมดํา = ออกเกม]
ตัวอักษรขนาดใหญ่ทางด้านขวาเขียนว่าสตาร์คราฟ