ตอนที่ 327

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 327: ความคิด

 

เย่ชิงเสวียนและเย่หว่านเอ๋อถูกคำพูดของบรรพชนเผ่าภูตทำให้ตกใจ เย่ชิงเสวียนไม่คิดว่าเรื่องที่ตนมอบพรสวรรค์ให้กับอี้เทียนหยุนจะถูกท่านบรรพชนพบเข้า

 

เย่หว่านเอ๋อยิ่งตกใจหนัก พี่สาวของเธอมอบพรสวรรค์ให้กับอี้เทียนหยุน ต้องรู้นะว่าอี้เทียนหยุนนั้นเธอเป็นคนพามา พวกเขาสองคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แล้วทำไมถึงมอบพรสวรรค์ให้กันล่ะ ตกลงนี่มันยังไงกันแน่?

 

แต่อี้เทียนหยุนกลับไม่คิดว่ามันแปลก ถึงยังไงบรรพชนเผ่าภูตก็เป็นถึงนักสลักอาคมระดับจงซือ ความสามารถของเขาแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆ มาก การที่สามารถมองเห็นเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา ยังไงก็ตาม เขาก็ไม่ได้กังวลว่าจะมีปัญหาอะไรจากคำพูดที่บรรพชนเผ่าภูตเอ่ยออกมา

 

“การเคลื่อนย้ายพรสวรรค์ถือเป็นเรื่องต้องห้ามของเผ่าภูต กระทั่งคนในเผ่าเดียวกันก็ยังไม่ได้ อย่าว่าแต่กับคนนอกเลย” บรรพชนเผ่าภูตพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “ความจริงการเคลื่อนย้ายพรสวรรค์นั้นไม่มีปัญหา แต่ปัญหาจะไปตกอยู่กับตัวเจ้าของพรสวรรค์นั้น ซึ่งมันจะส่งผลต่ออนาคตของเจ้าตัวอย่างมากมายมหาศาล แต่แน่นอนว่าหากเจ้าตัวเลือกแล้ว ข้าก็จะไม่พูดอะไร ถึงยังไงทุกคนก็มีเส้นทางของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวว่าข้าจะกล่าวโทษ”

 

เมื่อได้ยินอย่างนี้ เย่ชิงเสวียนก็วางใจ ท่านบรรพชนเป็นคนมีเหตุผลอย่างมาก ท่านไม่ได้บอกว่าการกระทำนี้เป็นเรื่องที่ผิดทั้งหมด

 

เย่หว่านเอ๋อที่ยังตกใจอยู่ก็ได้ถามพี่สาวของตนว่า “ท่านพี่ ท่าน ท่านมอบพรสวรรค์ให้กับพี่ใหญ่อี้อย่างงั้นเหรอ? เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานเท่าไหร่แล้ว?”

 

การจะเคลื่อนย้ายพรสวรรค์ของตนให้กับคนอื่นนั้น จำเป็นต้องไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน เพราะนี่หมายถึงการเดิมพันอนาคตของตน การจะฟื้นคืนนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก หากไม่มีเวลาเป็นสิบปีขึ้นแล้วล่ะก็ ไม่มีทางทุเลาลงแน่ ดังนั้น การเคลื่อนย้ายพรสวรรค์จึงถือเป็นเรื่องที่อันตราย นอกจากจะมีบุญคุณล้นเหลือแล้ว ไม่มีทางที่จะมอบพรสวรรค์ให้กับอีกฝ่าย

 

“นี่….” เย่ชิงเสวียนไม่รู้ว่าจะตอบยังไง

 

“หว่านเอ๋อ เรื่องนี้ไม่สามารถมองอย่างผิวเผินได้ ในเมื่อเสิ้งหนี่เต็มใจทำอย่างนั้นเอง ก็ให้เชื่อมั่นในตัวเธอเถอะ” บรรพชนเผ่าภูตพูดด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ข้าได้ครุ่นคิดมาหลายครั้งแล้ว เผ่าภูตของเราในตอนนี้ขาดซึ่งราชาภูตผู้ที่จะเป็นผู้นำคอยบัญชาการ ส่วนสหายน้อยนี้ก็ถือว่ามีศักยภาพอย่างมาก ทั้งยังได้รับเนตรสวรรค์จากเจ้าไปอีก ถือว่ามีคุณสมบัติเหลือล้น ตอนนี้ยังช่วยเหลือเผ่าภูตของเรา ถือเป็นผู้มีพระคุณล้นพ้น เชื่อว่าหลายคนต้องเต็มใจสนับสนุน….. แต่ว่าปัญหาที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่นี่ เชื่อว่าเจ้าก็คงจะรู้”

 

“บททดสอบราชาภูต!” เย่ชิงเสวียนโพล่งออกมา

 

“ใช่ ที่ยากที่สุดก็คือบททดสอบราชาภูต ถ้าไม่ผ่านบททดสอบนี้ ต่อให้มีพระคุณมากขนาดไหน ก็ไม่มีความหมายอีกต่อไป” บรรพชนเผ่าภูตมองมาที่อี้เทียนหยุนแล้วพูดขึ้น “ไม่ทราบว่าเจ้าอยากจะเป็นราชาภูตของพวกเราหรือไม่?”

 

“ให้คนนอกเผ่าอย่างข้าเป็นราชาภูต นี่เป็นเรื่องที่เหมาะสมจริงๆ เหรอ?” อี้เทียนหยุนถามอย่างสงสัย

 

“เรื่องนี้ก็แปลกจริงๆ นั่นล่ะ ก่อนหน้านี้เผ่าภูตของพวกเราก็ไม่เคยมีคนในเผ่าที่ได้นั่งตำแหน่งราชาภูตมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพาเผ่าภูตขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วย!” บรรพชนเผ่าภูตพูดขณะที่เหม่อมองไปยังที่ที่ไกลแสนไกล ราวกับกำลังรำลึกถึงอะไรบางอย่าง “ดังนั้น หากจะว่ายากก็ไม่ยาก จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย แล้วก็ต้องดูด้วยว่าเจ้าเต็มใจที่จะเป็นราชาของพวกเราหรือเปล่า”

 

“การให้เจ้าเป็นราชาของพวกเราเผ่าภูต นี่ก็เพื่อประโยชน์ของเผ่าภูตเรา เจ้ายังหนุ่มก็มาถึงนักสลักอาคมระดับต้าซือแล้ว ทั้งยังช่วยเผ่าภูตออกจากตำแหน่งที่ยากลำบากอีก ความเป็นผู้นำก็ไม่ต่ำ นับเป็นตัวเลือกที่หาได้ยาก! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าเหมาะกับตำแหน่งนี้มากที่สุด”

 

“ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเผ่าภูตของพวกเราในตอนนี้กำลังขาดแคลนผู้นำ ข้าก็ไม่ดีพอที่จะดำรงตำแหน่งนั้น ตอนนี้แม้ว่าชื่อเสียงจะมากพอ แต่ก็ขาดแคลนไฟ คงต้องมอบหน้าที่ในการจุดไฟนี้ให้เจ้าแล้ว”

 

“ไฟอะไรอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนขมวดคิ้วถาม

 

ถ้าจะบอกว่าเขาไม่อยากเป็นบัญชาการเผ่าภูตทั้งเผ่านั้นเป็นไปไม่ได้ นี่เทียบได้กับการได้นักสลักอาคมกลุ่มใหญ่มาไว้ในมือ ถ้าสามารถรวมเข้านิกายเทียนเฉวียนล่ะก็ มันจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสำนักได้ขั้นใหญ่ในพริบตา! ต้องรู้ว่าตอนนี้หลายคนมีค่าความชอบต่อเขานั้นสูงมาก ถ้าสามารถหลอมรวมกันได้ การจะขึ้นเป็นขุมอำนาจชั้น 3 นั้นไม่ใช่ปัญหาแม้แต่น้อย

 

หลังจากนั้นค่อยให้วังเทียนจี๋รวมเข้ามาอีกครั้งก็ยังไม่สาย การรวมเผ่าภูตเข้ามา จะทำให้ขึ้นสู่ขุมอำนาจชั้น 3 ได้อย่างแน่นอน!

 

“ถ้าข้าเดาไม่ผิด อาณาจักรใต้พิภพจะต้องกำลังส่งกองกำลังมาจัดการกับพวกเราอย่างแน่นอน ข้าสามารถให้การสนับสนุนเจ้าอย่างเต็มที่ ให้เจ้าขับไล่พวกมัน ตราบเท่าที่เจ้าสามารถป้องกันการโจมตีครั้งนี้ได้ ชื่อเสียงของเจ้าก็จะพุ่งขึ้นถึงขีดสุด!” บรรพชนเผ่าภูตพูดอย่างจริงจัง “เมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะเป็นคนพูดเรื่องนี้อีกครั้ง เจ้าจะมีสิทธิ์เข้าทดสอบรับตำแหน่งราชาภูตได้อย่างแน่นอน….. หลังจากนั้น ก็ขึ้นอยู่ที่เจ้าแล้วว่าจะสามารถผ่านบททดสอบราชาภูตไปได้ไหม”

 

“ท่านบรรพชน นี่ท่านเชื่อข้าขนาดนั้นเลยเหรอ?” อี้เทียนหยุนถาม

 

“ใช่ ข้าเชื่อเจ้า เชื่อว่าเจ้าจะสามารถพาเผ่าภูตของเราไปสู่ความรุ่งเรืองได้!” บรรพชนเผ่าภูตถอนหายใจ “เหลยหยุนนั้นเป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดคนหนึ่ง แต่ว่าน่าเสียดายที่นิสัยของเขาชั่วร้ายเกินไป ทั้งยังทำการทรยศหักหลักอีก ถ้าเอ่ยถึงเรื่องพรสวรรค์และก็ชื่อเสียงแล้ว ตอนนี้เจ้าเหนือกว่าเหลยหยุนไปแล้ว ในเผ่าภูตของเรามีน้อยนักที่จะมีคนที่โดดเด่น นอกจากผลักดันเจ้าแล้ว ข้าก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”

 

“แล้วถ้าเหลยหยุนไม่ทรยศล่ะ?” อี้เทียนหยุนถามคำถามที่กระอักกระอ่วน

 

“ข้าก็จะผลักดันเหลยหยุน!” บรรพชนเผ่าภูตตอบอย่างซื่อตรง ไม่คิดหลีกเลี่ยง

 

คำตอบนี้ไม่ต่างไปจากที่อี้เทียนหยุนคิด ก่อนหน้านี้เขาก็คิดแบบนี้เหมือนกัน

 

“ปฏิเสธไม่ได้ว่าพรสวรรค์ของเจ้าโดดเด่นกว่าเหลยหยุน แต่ถึงยังไงก็ไม่ใช่คนในเผ่า ต่อให้อาณาจักรใต้พิภพโจมตีมา พวกเขาก็ยังจะป้องกันไว้อยู่ดี” บรรพชนเผ่าภูตพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “ยุคสมัยเปลี่ยน ตัวเลือกก็เปลี่ยนตาม”

 

ความหมายของเขานั้นชัดเจนมาก ถ้าพวกเขายังสามัคคีกันอยู่ พวกเขาจะไม่ยอมรับคนนอกอย่างแน่นอน เพราะยังไงพวกเขาก็คงไม่เชื่อใจคนนอกทั้งหมดอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเลือกคนนอกเข้ามาเป็นผู้นำของพวกเขา

 

แต่ตอนนี้มันต่างกัน อี้เทียนหยุนได้ช่วยเหลือเผ่าภูตไว้มาก ถ้าคราวนี้สามารถต้านรับการโจมตีของอาณาจักรใต้พิภพไว้ได้อีก ต่อให้บรรพชนเผ่าภูตไม่พูดอะไร คนอื่นๆ ก็ต้องทำให้เขาเป็นราชาภูตอยู่ดี

 

ราชาไม่ใช่ว่าใครจะเป็นก็ได้ แต่ต้องเป็นคนที่ทุกคนยอมรับ แบบนั้นถึงจะเรียกว่าราชาได้!

 

“ได้ ข้ายอมรับ ถ้าข้าสามารถผ่านไอ้ที่เรียกว่าบททดสอบราชาภูตนั่นได้ล่ะก็” อี้เทียนหยุนยิ้ม เขาไม่รู้ว่าบททดสอบราชาภูตนั้นคืออะไร แต่ก็ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

 

“ดีมาก ข้าคาดหวังในตัวเจ้าอยู่นะ…. แค่ก…..” บรรพชนเผ่าภูตไอออกมาอย่างรุนแรง พร้อมสำลักเลือดสีดำออกมา เห็นได้ชัดว่าเริ่มทนพิษไม่ไหวแล้ว

 

“ท่านบรรพชน ข้าจะถอนพิษให้ท่านเดี๋ยวนี้ล่ะ!” อี้เทียนหยุนรีบพูด

 

“ไม่ต้องรีบร้อน ตามสบาย ได้พูดเรื่องนี้ออกไปก็ทำให้ข้าสบายใจขึ้นมาก ต่อให้ไม่สามารถถอนพิษได้ อย่างน้อยก็ยังมีความหวัง” บรรพชนเผ่าภูตส่ายหัว

 

ในใจอี้เทียนหยุนรู้สึกเคารพบรรพชนเผ่าภูตขึ้นอีกหลายส่วน ขนาดนาทีสุดท้ายยังไม่ลืมคิดถึงเผ่าภูต

 

“ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าสามารถกำจัดพิษนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา” อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มสบายๆ ออกมา สำหรับเขาแล้ว เรื่องนี้ไม่ได้มีความยากเลยจริงๆ