ตอนที่ 252 ใครให้คุณช่วยฉัน

 

 

           “ระวังตัวด้วย” เอ่ยปากกำชับ เผยหนานเจวี๋ยออกจากฉู่เจียเสวียน พุ่งเข้าไปหาผู้ชายสองคน ไม่นาน สามคนก็ตะลุมบอนอยู่ด้วยกัน

 

 

           ฉู่เจียเสวียนมองดูตัวสั่นเทาด้วยความกลัว สายตามองตาเผยหนานเจวี๋ยอย่างใกล้ชิด สีหน้าที่เป็นกังวลนั้นเผยให้เห็นอารมณ์ในใจของเธอ

 

 

           แม้ว่าเผยหนานเจวี๋ยไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ชายสองคนนั้น แต่พวกเขาก็ไม่มีใครได้เปรียบ เพียงครู่เดียวสถานการณ์ก็อยู่เหนือความควบคุมเล็กน้อย

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเห็นว่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ใช่ทางออกแน่ ดังนั้นเธอจึงเข้าร่วมการต่อสู้ด้วย

 

 

เผยหนานเจวี๋ยคิดไม่ถึงว่าฉู่เจียเสวียนจะเข้ามาแทรก เมื่อเห็นการกระโดดเตะที่สมบูรณ์แบบของเธอแล้ว ความประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตา

 

 

           เพราะว่าฉู่เจียเสวียนเข้ามาร่วมด้วย เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกเหนื่อยน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด มองดูผู้ชายสองคนถูกจู่โจมจนถอยร่น เมื่อแต่ถึงช่วงเวลาสำคัญ เหมือนผู้ชายจะโมโหแล้วเอาปลายมีดพุ่งตรงไปหา

 

 

ฉู่เจียเสวียน

 

 

           ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ฉู่เจียเสวียนหลบมีดรอบแรกไปได้ แต่ว่ากลับหลบมีดรอบที่สองไม่ทัน

 

 

           จู่ๆ ร่างของฉู่เจียเสวียนถูกดึง ร่างถอยกรูไปข้างหลัง เธอถูกเผยหนานเจวี๋ยกอดไว้ในอ้อมแขน

 

 

เผยหนานเจวี๋ยรับมีดนั้นแทนฉู่เจียเสวียน เพียงชั่วครู่กลิ่นเลือดลอยอบอวลอยู่ในอากาศ

 

 

           พอแทงเผยหนานเจวี๋ยไปแผลหนึ่ง ผู้ชายทั้งสองคนไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ยกมีดขึ้นหมายที่จะแทงฉู่เจียเสวียนทันที โชคดีที่คราวนี้ ข้างหน้ามีรถสองสามคันขับผ่านมา ทั้งสองคนเห็นท่าไม่ดี วิ่งหนีออกไปจาก

 

 

ที่นั่นอย่างรวดเร็ว

 

 

           “คุณบาดเจ็บแล้ว” ฉู่เจียเสวียนคิดไม่ถึงว่าเผยหนานเจวี๋ยจะรับมีดนั้นแทนเธอ บาดแผลที่ลึกเห็นกระดูกทำให้หัวใจของฉู่เจียเสวียนเจ็บปวดทันใด

 

 

           “คุณอยากตายหรือไง? ใครให้คุณช่วยฉัน?” เงยหน้าขึ้น ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปาก น้ำตาเอ่อล้นอยู่ในดวงตา แม้จะพูดจาห่างเหิน แต่เผยหนานเจวี๋ยได้ยินความตื่นตระหนกในคำพูด

 

 

           เธอเป็นห่วงเขางั้นเหรอ จู่ๆ ในใจก็เกิดความยินดี

 

 

           เห็นสีหน้าที่กระวนกระวายของเธอ เห็นน้ำตาในดวงตาของเธอ ส่วนที่อ่อนโยนที่สุดในใจของเผยหนานเจวี๋ยราวกับว่ามีบางอย่างแผ่ซ่านอยู่

 

 

           ในความเป็นจริงเขาไม่สามารถช่วยชีวิตเธอได้ แต่ว่าเขาไม่รู้ว่าอะไรดลใจ เมื่อเห็นว่ามีดเล่มนั้นกำลังพุ่งไปหาฉู่เจียเสวียน หัวใจของเผยหนานเจวี๋ยราวกับว่าหยุดเต้น ยื่นมือดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนตามจิตใต้สำนึก

 

 

           หรือว่าเขาจะตกหลุมรักเธอจริงๆ ไม่ เป็นไปไม่ได้! คนที่เขารักคือฉู่อีอี ตั้งแต่ไหนแต่ไรหัวใจของเขาเต้นเพื่อฉู่อีอีเท่านั้น

 

 

           แต่ว่า เมื่อครู่ทำไมเขาถึงหวาดกลัวว่าเธอจะบาดเจ็บถึงเพียงนั้น ร่างกายสั่นเทา เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกว่าตัวเองเหมือนตัวตลกเป็นครั้งแรก

 

 

           “ผมไม่เป็นไร ไม่ตายหรอก”

 

 

           “ไม่เป็นไรได้ยังไง คุณดูสิว่าแผลคุณลึกขนาดนี้ ขึ้นรถ ฉันจะส่งคุณไปโรงพยาบาล”

 

 

           คำพูดของฉู่เจียเสวียนเจือปนความโมโห ยังจะบอกว่าไม่เป็นไรอีก ถ้าหากบาดแผลลึกกว่านี้อีกนิด แขนข้างนี้ของเขาก็ขาดไปแล้ว

 

 

           เหงื่อซึมออกมาจากหน้าผากเผยหนานเจวี๋ย สีหน้าของเขากลายเป็นขาวซีด

 

 

           ยื่นมือประคองเผยหนานเจวี๋ยขึ้นรถ ความเย็นเฉียบที่ปลายนิ้วทำให้คิ้วของเผยหนานเจวี๋ยยับย่น

 

 

           ภายในรถ เผยหนานเจวี๋ยอดทนต่อความเจ็บปวด พินิจพิเคราะห์ฉู่เจียเสวียนอย่างละเอียด ท่าทางของเธอเมื่อครู่ทำให้เขาประหลาดใจมากจริงๆ เขาคิดไม่ถึงว่าฉู่เจียเสวียนจะฝึกวิชาป้องกันตัว

 

 

           ถ้าหากไม่มีเธอเมื่อครู่ เชื่อว่าเขาจะต้องเสียเปรียบสองคนนั้นแน่

 

 

           สำรวจฉู่เจียเสวียนอย่างถี่ถ้วน แม้เธอจะแสร้งทำเป็นแข็งแกร่ง แต่เขายังค้นพบว่ามือที่กุมพวงมาลัยของเธอสั่นเทา

 

 

           เธอจะต้องตกใจมากสินะ เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ต่อให้มีพละกำลังมากกว่านี้ ก็ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของผู้ชายสองคนได้

 

 

           “เจียเสวียน”

 

 

           “อย่าพูด เก็บแรงเอาไว้ เดี๋ยวก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว” จิตใจฉู่เจียเสวียนสับสนมาก สายตาจ้องไปยังถนนข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่น

 

 

 

 

       ตอนที่ 253 ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้

 

 

           ในใจกลัวว่าเผยหนานเจวี๋ยจะเสียเลือดมากจนหมดสติไป

 

 

           “คุณเป็นห่วงผมเหรอ” มองดูใบหน้าด้านข้างที่สวยงามของเธอ มุมปากบางๆ ของเผยหนานเจวี๋ยยกยิ้ม

 

 

           จู่ๆ เขารู้สึกว่าที่เขาถูกแทงครั้งนี้คุ้มค่าแล้ว ที่แท้ในใจของเธอก็ยังเป็นห่วงเขา เขาไม่รู้ตัวว่าในเวลานี้ดวงตาของเขาเปี่ยมด้วยความอ่อนโยน

 

 

           คำพูดของเผยหนานเจวี๋ยทำให้ฉู่เจียเสวียนเม้มริมฝีปากแดง ไม่ได้พูดอะไร

 

 

           ในโรงพยาบาลเผยหนานเจวี๋ยถูกคุณหมอพาตัวไปทำแผล ในเวลานี้ เขากำลังนั่งอยู่บนเตียงคนไข้

 

 

           เสียเลือดมากเกินไป บาดแผลลึกเกินไป คุณหมอแนะนำเขาให้พักที่โรงพยาบาลสองวันก่อน

 

 

           ในห้องผู้ป่วย ฉู่เจียเสวียนยืนอยู่ด้านข้างมองเผยหนานเจวี๋ยที่ถูกห่อด้วยผ้าก๊อซ แม้เขาจะบาดเจ็บหนักขนาดนั้น แต่ไม่ร้องเลยสักแอะ

 

 

           ในขณะนั้นหัวใจรู้สึกสับสน บอกไม่ได้ว่ารู้สึกอย่างไร

 

 

           บรรยากาศในห้องคนไข้มีความกดดันมาก แววตาส่วนลึกของฉู่เจียเสวียนเปี่ยมด้วยความโมโห

 

 

           “ฉันไม่ซาบซึ้งคุณหรอกนะ” น้ำเสียงไพเราะดุจไข่มุกดังขึ้น ฉู่เจียเสวียนมองดูเขาพูดด้วยความจริงจัง บนใบหน้ามีความเยือกเย็น ที่จริงจิตใจของเธอไม่ได้เฉยเมยเหมือนสีหน้าของเธอ

 

 

           ตอนนั้นเขาไม่ได้คิดมากขนาดนั้น รู้เพียงแค่เมื่อเห็นเธอถูกคนรังแก ในใจของเขาก็เกรี้ยวกราดมาก

 

 

           “เมื่อกี้คุณเป็นห่วงผมใช่หรือเปล่า” ราวกับไม่ได้ยินคำพูดของฉู่เจียเสวียน ดวงตาเย็นชามองดูเธอด้วยประกายคลุมเครือ

 

 

           เมื่อเขาเห็นสีหน้าเป็นกังวลของเธอ หัวใจของเขาเปี่ยมด้วยความปิติ เขาจำไม่ได้แล้วว่าเขาไม่ได้รู้สึก

 

 

ดีใจขนาดนี้มานานแค่ไหนแล้ว

 

 

           อึ้งไปด้วยคำพูดของเผยหนานเจวี๋ย ความเย็นยะเยือกบนใบหน้าแข็งทื่อ หัวใจกลับยิ่งเต้นเร็วกว่าเดิม ดวงตาจ้องเขม็งอยู่ที่แผลของเขา

 

 

           คนคนนี้ถูกแทงจนเพี้ยนหรือไง มันไม่ใช่จุดสำคัญไม่ใช่เหรอ

 

 

           “คุณพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนเถอะ” ฉู่เจียเสวียนไม่ได้ตอบคำถามของเขา หันหลังจากไป

 

 

           เดินออกไปที่ทางเดิน เธอสูดหายใจลึก หลังพิงอยู่ที่กำแพง

 

 

           นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ทำไมเธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นแรงขนาดนี้ ยื่นมือกุมบริเวณหัวใจ สูดหายใจลึกไปมา

 

 

           มองแผ่นหลังของฉู่เจียเสวียนที่หายไปรวดเร็วราวกับหลบหนี ริมฝีปากบางๆ ของเผยหนานเจวี๋ยยกยิ้ม ดวงตาที่เยือกเย็นเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ตัว       

 

 

           ระหว่างที่เหม่อลอย

 

 

           จู่ๆ โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าดังขึ้น หยิบขึ้นมาดู เมื่อเห็นชื่อสายเรียกเข้า ‘ฉู่อีอี’ สามคำนี้ คิ้วของเขาก็ขมวดกัน

 

 

           “ฮัลโหล”

 

 

           “หนานเจวี๋ย คุณอยู่ที่ไหน”

 

 

           เสียงที่อ่อนโยนของฉู่อีอีดังขึ้น เจือปนความร้อนรนเล็กน้อย

 

 

           “ผมอยู่ที่โรงพยาบาล มีอะไรเหรอ”

 

 

           “โรงพยาบาล? คุณเป็นอะไรไป หนานเจวี๋ย”

 

 

           เมื่อได้ยินว่าเผยหนานเจวี๋ยอยู่โรงพยาบาล หัวใจของฉู่อีอีตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก ความวิตกกังวลบนใบหน้าเผยให้เห็นชัดเจน

 

 

           ไม่ต้องการให้ฉู่อีอีเป็นห่วง เผยหนานเจวี๋ยยังคงบอกที่อยู่ปัจจุบันให้เธอ ฉู่อีอีได้ยินแล้วรีบวางสายและบึ่งไปที่โรงพยาบาลทันที

 

 

           นอกห้องผู้ป่วย ฉู่เจียเสวียนโทรศัพท์หาซูซานซาน บอกเธอว่าคืนนี้จะกลับดึก บอกให้เธอเข้านอนก่อน ไม่ต้องรอเธอ หลังจากโทรศัพท์เสร็จแล้ว ฉู่เจียเสวียนหันหลังเข้าห้องผู้ป่วยไป

 

 

           ในห้องผู้ป่วย เผยหนานเจวี๋ยกึ่งพิงอยู่บนเตียง แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บบุคลิกอันสูงส่งและเย็นชายังคงไม่ลดลงเลย พิงอยู่อย่างนั้น ท่าทีโดดเด่นไร้ที่เปรียบ

 

 

           เงยหน้าขึ้นทั้งสองสบตากัน ฉู่เจียเสวียนหายใจเชื่องช้า หยุดเดินโดยไม่รู้ตัว

 

 

           การที่เขารับมีดแทนเธอวันนี้นับเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายจริงๆ ในอดีตนั้นเขาไม่เคยทำสิ่งใดให้เธอเลย

 

 

           “คืนนี้ขอบคุณคุณนะ” ไม่ว่าเนื่องด้วยเหตุผลอะไร เขาก็รีบมีดแทนเธอ ครั้งนี้เธอติดค้างเขา แม้เธอจะไม่ได้ขอให้เขามาขวาง

 

 

           แต่ก็ต้องยอมรับ ถ้าหากวันนี้เขาไม่ได้โผล่มาทันเวลาล่ะก็ เธอไม่กล้าคิดถึงผลที่จะตามมาเลย

 

 

           เป็นไปได้ว่าครั้งนี้เธออาจถูกผู้ชายสองคนนั้นทำให้อัปยศอดสูไปแล้ว