ตอนที่ 254 แรงกระตุ้นที่อยากจูบเธอ 

 

 

           แววตาของเผยหนานเจวี๋ยจับจ้องฉู่เจียเสวียนอยู่ตลอดเวลา มองดูตาทั้งคู่ของเธอที่ชัดเจนสดใส เขาขมวดคิ้วเข้าด้วยกัน ท่าทางราวกับว่าหมดความอดทนอย่างไรอย่างนั้น 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความเปล่งปลั่งสุกใส เธอสังเกตเห็นสายตาของเขาที่มองเธอ 

 

 

           ราวกับว่าเขาไม่ต้องการได้ยินคำขอบคุณของฉู่เจียเสวียน ละสายตาด้วยความหยิ่งยะโส เบือนหน้าไปอีกทาง “ไม่ต้องขอบคุณหรอก ถ้าเป็นคนอื่นผมก็จะช่วย” 

 

 

           เสียงที่ทุ้มต่ำมืดมนดังขึ้น เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเขาไม่ได้ต้องการพูดแบบนี้ แต่ว่าคำพูดที่หลุดปากก็กลับกลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว เพียงชั่วขณะหนึ่ง บรรยากาศก็เยือกเย็นลงราวกับว่าถูกสาดด้วยน้ำเย็น 

 

 

           รู้ว่าเผยหนานเจวี๋ยไม่ได้รักเธอ ฉู่เจียเสวียนไม่อยากพูดอะไรมากอีกเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขาโมโห ได้แต่ชำเลืองมองเผยหนานเจวี๋ย จากนั้นก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา 

 

 

           “ก็จริง คุณเผยเป็นคนที่จิตใจดีคนนึง งั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดอะไรแล้ว” ปากแดงอ้าเอ่ย คำพูดหลุดออกมาจากปากของฉู่เจียเสวียน ตาทั้งคู่ที่สดใสเผยให้เห็นความเฉยเมย 

 

 

           คำพูดของฉู่เจียเสวียนทำให้เผยหนานเจวี๋ยโมโห พอมือที่เหยียดยาวดึง ฉู่เจียเสวียนร้องอุทาน ร่างของเธอโน้มไปข้างหน้าหาเผยหนานเจวี๋ย ฉู่เจียเสวียนกลัวว่าจะโดนแผลของเผยหนานเจวี๋ยจึงยื่นมือดันกำแพง 

 

 

           ระยะห่างระหว่างทั้งสองอยู่ใกล้พอที่จะเห็นรูขุมขนบนใบหน้าของกันและกัน   

 

 

           คิ้วขมวดกัน ริมฝีปากแดงเอ่ย “คุณจะทำอะไร” 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนไม่เข้าใจว่าจู่ๆ เขาเป็นบ้าอะไร ทำไมถึงดึงเธอพรวดพราดแบบนี้ 

 

 

           มองฉู่เจียเสวียนอย่างใกล้ชิด กลิ่นสดชื่นบนตัวเธอลอยมาแตะจมูก ชวนให้ร่างกายท่อนล่างของเผยหนานเจวี๋ยแน่นตึง เขายังคงมีความรู้สึกกับเธอจริงๆ 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกว่าตัวเองผิดปกติมาก กลืนน้ำลาย มือที่โอบเอวของฉู่เจียเสวียนบีบแน่น 

 

 

           ยื่นลิ้นและปากออกไป ลำคอขยับตัวเล็กน้อย ความอ่อนนุ่มอยู่ในอ้อมแขน จู่ๆ เผยหนานเจวี๋ยก็มีความรู้สึกแรงกล้าที่อยากจะจูบเธอ 

 

 

           ในใจคิดเช่นนี้และเผยหนานเจวี๋ยก็ทำเช่นนี้จริงๆ ริมฝีปากบอบบางประกบลงไปในขณะที่ฉู่เจียเสวียนไม่ทันตั้งตัว เขาได้สัมผัสริมฝีปากที่อ่อนนุ่มแล้ว 

 

 

           เมื่อสัมผัสแล้วเขาก็ไม่ต้องการปล่อย แม้แต่ลิ้นที่ยื่นออกมาก็ต้องการบุกเข้าไปในปากของฉู่เจียเสวียน 

 

 

           ดึงสติกลับมา รับรู้ได้ถึงเจตนาของเผยหนานเจวี๋ย ความโกรธแค้นก่อตัวจากก้นบึ้งของหัวใจ มือออกแรงดิ้นรนต้องการจะผละออกจากอ้อมอกของเผยหนานเจวี๋ย 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยเนื่องจากบาดเจ็บ ร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้วเมื่อถูกเธอผลักก็หงายตัวไปด้านหลังและแผลก็ถูกกระเทือน สีหน้าของเผยหนานเจวี๋ยซีดขาวไปครู่หนึ่ง คิ้วยับย่น 

 

 

           เมื่อเห็นท่าทางที่เจ็บปวดของเผยหนานเจวี๋ย ฉู่เจียเสวียนรู้สึกผิด ต้องการจะเอื้อมมือไปประคองเขา แต่พอนึกถึงการกระทำของเขาเมื่อครู่ เธอก็หยุดความต้องการที่จะประคองเขาไว้ “สมน้ำหน้า สภาพเป็นแบบนี้แล้ว ยังจะคิดเอาเปรียบคนอื่นอีก? เดี๋ยวภรรยาของคุณเห็นจะต้องโทษฉันแน่ๆ” 

 

 

           สีหน้าและแววตาของฉู่เจียเสวียนมีความเย็นชา เมื่อกี้เขาหมายความว่าอะไร นึกว่าช่วยเธอแล้ว เธอจะซาบซึ้งต่อเขาจนอยากจะกอดงั้นเหรอ 

 

 

           “บ้าเอ๊ย” เขาสบถ เผยหนานเจวี๋ยก็ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อครู่ตัวเองถึงได้วู่วามเช่นนั้น เมื่อก่อนเขาเกลียดเธอที่สุดไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมตอนนี้ถึงมีความรู้สึกอยากเข้าใกล้เธอล่ะ 

 

 

           เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าสักวันหนึ่ง เขาจะมีความคิดเช่นนี้ต่อฉู่เจียเสวียนจริงๆ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเขาเกลียดเธอขนาดนั้น ทนไม่ไหวที่จะให้เธอหายไปจากเขา แต่ว่าตอนนี้? 

 

 

           เห็นท่าทางของเผยหนานเจวี๋ย มือที่อยู่ข้างลำตัวของฉู่เจียเสวียนกำแน่น จากนั้นก็ผ่อนคลาย 

 

 

           “คุณเผย ยังไงก็พักผ่อนมากๆ เถอะค่ะ” พูดจบต้องการจะหันหลังจากไป คิดไม่ถึงว่าประตูห้องผู้ป่วยจะเปิดออก และร่างที่เพรียวบางวิ่งเข้ามาจากข้างนอก 

 

 

           กลิ่นดอกลิลลี่ลอยอยู่ในสายลมและกระจายไปทั่วห้องผู้ป่วย 

 

 

 

 

 

      ตอนที่ 255 ฝีมือการแสดงขั้นสูง 

 

 

           เมื่อเห็นคนที่เข้ามา ก้าวเดินที่ต้องการจะจากไปของฉู่เจียเสวียนหยุดลง มองฉู่อีอีสายตาเย็นชา เรื่องของคืนนี้จะเกี่ยวกับเธอหรือเปล่า จู่ๆ ความคิดนี้ก็ผุดขึ้นมาในใจ ไม่นานเธอก็สะบัดหัว 

 

 

           “พี่มาอยู่นี่ได้ยังไง” หยุดเดิน ฉู่อีอีเห็นฉู่เจียเสวียนอยู่ในห้องผู้ป่วย เอ่ยปากถาม 

 

 

           หรือว่าผู้ชายที่ช่วยฉู่เจียเสวียนคือเผยหนานเจวี๋ย? ก่อนที่มาถึงโรงพยบาล ฉู่อีอีก็รู้แล้วว่าฉู่เจียเสวียนถูกผู้ชายคนหนึ่งช่วยไว้ 

 

 

           ในตอนนั้นเธอเกรี้ยวกราดจนด่าผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องสองคนนั้นเป็นการใหญ่ เธอเสียเงินเยอะขนาดนั้น แต่กลับปล่อยให้ฉู่เจียเสวียนหนีไปได้ 

 

 

           ถ้าจะว่ากันตามนี้ เช่นนั้นคนที่ช่วยเธอก็คือเผยหนานเจวี๋ย ไม่อย่างนั้นเธอจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร 

 

 

           เพราะการปรากฏตัวกะทันหันของฉู่อีอี บรรยากาศเปลี่ยนเป็นความกดดันภายในพริบตา 

 

 

           ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ฉู่อีอีด่าฉู่เจียเสวียนอยู่ในใจเป็นร้อยเป็นพันรอบ ต่อให้เป็นในฝันเธอก็คิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่ช่วยฉู่เจียเสวียนจะเป็นเผยหนานเจวี๋ย 

 

 

           ระหว่างครุ่นคิด ฉู่อีอีเดินไปข้างๆ เผยหนานเจวี๋ย เมื่อเห็นว่าเขาถูกพันด้วยผ้าก๊อซแล้ว ความเจ็บปวดก็ปรากฏอยู่ในดวงตาของฉู่อีอี 

 

 

           อดไม่ไหวด่าสองคนนั้นที่โหดร้ายอยู่ในใจ คิดไม่ถึงว่าจะฝากแผลลึกถึงเพียงนี้ ถ้าหากแผลนี้อยู่บนตัวฉู่เจียเสวียนล่ะก็ ถึงเธอไม่ตายอาการก็คงสาหัสสินะ? 

 

 

           มือที่งดงามยื่นเหยียด ฉู่อีอีกุมมือของเผยหนานเจวี๋ยเอาไว้ แต่ว่าเผยหนานเจวี๋ยกลับดึงมือออกเงียบๆ ไม่รู้ว่าทำไม เขาไม่อยากสนิทสนิมกับฉู่อีอีมากเกินไปต่อหน้าฉู่เจียเสวียน ราวกับว่าทำเป็นการทำผิดต่อเธอ 

 

 

           รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของเผยหนานเจวี๋ย ฉู่อีอีตื่นตกใจ หรือว่าเขาจะรู้แล้ว หรือว่าเขาจะรู้ว่าเธอจ้างคนมาจัดการฉู่เจียเสวียน? 

 

 

           หลังจากคิดย้อนกลับไปหลายพันครั้ง ฉู่อีอีตัดสินใจที่จะเริ่มต้นก่อนเพื่อเป็นฝ่ายได้เปรียบ ปากแดงๆ จึงอ้าเอ่ย “หนานเจวี๋ย ทำไมคุณบาดเจ็บล่ะ อีกอย่าง พี่คะทำไมพี่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เมื่อกี้พวกเราเพิ่งเจอกันไม่ใช่เหรอ” 

 

 

           เอ่ยปากทำลายความเงียบ มีเพียงเสียงอ่อนแอของฉู่อีอีเท่านั้นที่ได้ยินอยู่ในห้องผู้ป่วย 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเลิกคิ้ว มองดูสีหน้าเป็นกังวลของฉู่อีอี มองดูความรักลึกซึ้งในดวงตาของเธอ หัวใจของเธอรู้สึกสับสน 

 

 

           “วันนี้คุณไปเจอเขาเหรอ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยถาม คิ้วขมวดกันเล็กน้อย เขาคิดไม่ถึงว่าพวกเธอทั้งสองคนจะเจอหน้ากัน 

 

 

           “ใช่สิ หนานเจวี๋ยคุณบาดเจ็บได้ยังไง” ฉู่อีอีกล่าว น้ำตาเอ่อคลออยู่ในดวงตา 

 

 

           “เมื่อกี้ระหว่างทางกลับบ้าน ไม่ระวังไปเจอโจรเข้า โชคดีที่คุณเผยมาทันเวลา แผลก็ได้มาจากตอนนั้น” ฉู่เจียเสวียนเอ่ย ตอบแทนเผยหนานเจวี๋ย 

 

 

           ดวงตาเผยความคมกริบ มองดูใบหน้าที่งดงามของฉู่อีอีตาไม่กระพริบ แววตานั้นมีความพินิจพิเคราะห์ ราวกับว่าต้องการหาอะไรบนใบหน้าของเธออย่างไรอย่างนั้น 

 

 

           “จริงเหรอ โชคดีที่มีพี่สาวอยู่ ไม่งั้นคนที่รับเคราะห์ก็คงเป็นฉันแล้ว ยังดีที่พี่ไม่เป็นอะไร” ฉู่อีอีเงยหน้าขึ้น สบสายตาสำรวจของฉู่เจียเสวียน เธอจับจ้องฉู่เจียเสวียนอย่างเป็นธรรมชาติ แววตามีความไร้เดียงสา 

 

 

           คนที่รับเคราะห์คือเธอ? ฉู่เจียเสวียนทวนคำพูดของฉู่อีอีอยู่ในใจ ริมฝีปากแดงยกยิ้มเล็กน้อย เธอยังไม่ได้ปล่อยวางแม้แต่วินาทีเดียวจริงๆ ทุกอย่างล้วนมีเธอเป็นส่วนร่วม 

 

 

           ตั้งแต่ฉู่อีอีเข้ามาเผยหนานเจวี๋ยก็ไม่ส่งเสียงสักคำ หลังจากชำเลืองมองฉู่อีอีแล้วก็เอ่ยแผ่วเบา “วางใจเถอะ ผมไม่เป็นไร” 

 

 

           เอ่ยปลอบโยนฉู่อีอีไม่กี่คำ เผยหนานเจวี๋ยก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ฉู่เจียเสวียนยืนอยู่ด้านข้าง มองทั้งสองคนอย่างเย็นชา 

 

 

           “หนานเจวี๋ย คุณไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า บาดเจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า” ฉู่อีอียื่นมือออกไป กุมมือของเผยหนานเจวี๋ยและถามอย่างเป็นห่วง ดวงตาจับจ้องไปที่เขา เห็นคิ้วที่ยับย่นของเขาแล้วฉู่อีอีจงใจเอื้อมมือไปนวดคลายคิ้วของเผยหนานเจวี๋ย