วันถัดมา ลมหนาวพัดหวีดหวิวอยู่ข้างนอก เซียวเหยี่ยนออกจากเมืองหลวงไปตอนสายๆ ข้างนอกหนาวมาก เขาจึงไม่ได้ให้หลิงอวี้จื้อมาส่ง เพียงให้คนส่งจดหมายฉบับหนึ่งไปให้หลิงอวี้จื้อ ในจดหมายมีเพียงประโยคเดียว
‘รอข้ากลับมา’
หลิงอวี้จื้อรับจดหมายมา ลักษณะการเขียนจดหมายสมกับเป็นเซียวเหยี่ยนจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะมีเพียงสี่คำ ข้างนอกหนาวขนาดนี้ เซียวเหยี่ยนไม่อยู่ เธอก็ไม่มีแก่ใจจะออกไปข้างนอก เลี้ยงพืชอวบน้ำอยู่ในห้องดีกว่า
เมื่อคืนนอนดึกมาก ประกอบกับเกิดเรื่องมากมาย ฟ้าจะสางแล้วเธอถึงเพิ่งได้นอน ตอนนี้ง่วงนอนเหลือเกิน เธอหาวไปหนึ่งครั้ง หลิงจื่อเฉิงก็เข้ามา
หลิงจื่อเฉิงเดินก้าวเร็วๆ มาตรงหน้าหลิงอวี้จื้อ นั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ
“อวี้จื้อ เมื่อคืนเหลียนอี๋เหนียงโดนท่านพ่อ…”
หลิงจื่อเฉิงทำท่าปาดคอ
หลิงอวี้จื้อไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อย เมื่อคืนเซียวเหยี่ยนจงใจเตือนหลิงจ้ายเทียน ให้จัดการเหลียนอี๋เหนียงให้ดีๆ
ประเด็นสำคัญที่สุดคือตอนนี้เหลียนอี๋เหนียงไม่ได้มีประโยชน์อะไรต่อหลิงจ้ายเทียน หลิงจ้ายเทียนเป็นคนที่อยู่กับความเป็นจริง คนไร้ประโยชน์ซ้ำยังก่อเรื่องเป็นประจำ เขาย่อมไม่เก็บไว้
ประกอบกับคราวนี้เซียวเหยี่ยนเป็นคนเอ่ยปากเอง เขาจึงฆ่าเหลียนอี๋เหนียงเสีย เพื่อไม่ให้เหลียนอี๋เหนียงก่อเรื่องอะไรไม่น่าดูอีกในภายภาคหน้า
“ท่านพ่อจัดการเรื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงจริงๆ”
หลิงอวี้จื้อยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นอย่างเนือยๆ
หลิงจื่อเฉิงเห็นหลิงอวี้จื้อง่วงงุนอยากนอน จากนั้นดูเหมือนไม่รู้ว่าจะเริ่มเอ่ยปากอย่างไร ลังเลอยู่สักครู่จึงพูดว่า
“อวี้จื้อ เมื่อวานท่านแม่จะแขวนคอจบชีวิต ยังดีที่สาวใช้เห็นเข้าทันเวลา มิเช่นนั้นคงจะ…”
หลิงอวี้จื้อหาวอีกครั้ง ขนาดเปลือกตายังไม่ยกขึ้น
“พี่ชาย ลูกไม้นี้เมื่อวานชิวจวี๋ใช้ไปแล้ว ทำก่อนท่านแม่พอดี ไม่เห็นแปลก”
“อวี้จื้อ ตอนนั้นท่านแม่ทำผิด แต่นางก็เลี้ยงดูเจ้ามาตั้งหลายปี ตอนนี้นางรู้ผิดแล้วจริงๆ ท่านพ่อก็ไม่อยากพบหน้าข้าด้วยซ้ำ ตอนนี้มีเพียงคำพูดของเจ้า ท่านพ่อถึงจะรับฟัง เจ้าช่วยท่านแม่สักหน่อยเถิด!”
นึกไม่ถึงว่าหลิงจื่อเฉิงจะมาขอร้องแทนชวีซื่อ หลิงอวี้จื้อเอนลงบนตั่งช้าๆ
“พี่ชาย พี่บอกหน่อย หลายปีมานี้ท่านแม่สนใจอะไรข้าบ้าง
“เห็นสมองข้ามีปัญหา ก็โยนข้าให้สาวใช้โดยไม่สนใจ ทุกครั้งที่ข้าก่อเรื่องเล็กน้อย ก็ไม่พ้นจะต้องกรอกตาใส่และด่าทอข้า นางเป็นแม่ที่ดีไม่ได้ แล้วเหตุใดข้าจะต้องเป็นลูกที่ดีด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็ไม่ใช่ลูกสาวนางเสียด้วยซ้ำ”
“อวี้จื้อ ท่านแม่อายุมากแล้ว ร่างกายรับการทรมานเช่นนี้ไม่ไหว”
“ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แก่กว่านางสิบปี อย่างนางเรียกว่าอายุมากแล้วหรือ พี่จะให้ท่านอ๋องคิดอย่างไร”
หลิงจื่อเฉิงพูดแพ้หลิงอวี้จื้อโดยสิ้นเชิง ชวีฮุ่ยเป็นแม่แท้ๆ ของเขา เอ็นดูรักใคร่เขามากตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้ชวีซื่อจะเป็นจะตายอยู่ในเรือน เขาย่อมทนดูไม่ได้ ถึงได้มาขอร้องหลิงอวี้จื้อ
เห็นชวีฮุ่ยทำเป็นเรื่องใหญ่เช่นนี้ หลิงอวี้จื้อก็ยิ่งเกลียดชวีฮุ่ยขึ้นไปอีก ไม่ทันไรก็ใช้กลยุทธ์ทำร้ายตนเองเพื่อเรียกคะแนนสงสาร จะให้นางไปช่วยขอร้องหรือ ไม่มีทาง
“อวี้จื้อ ถือว่าข้อขอเจ้า ถือว่าเห็นแก่หน้าข้า เจ้าช่วยท่านแม่หน่อยเถิด!”
หลิงอวี้จื้อเปลี่ยนท่าทาง
“พี่อยากเป็นลูกชายผู้กตัญญูก็ไปขอร้องเองสิ อย่างไรข้าก็ตัดสินใจจะอยู่เป็นลูกสาวอกตัญญูที่นี่ พี่ชาย แค่ออกจากเรือนไม่ได้ นางก็รับไม่ไหวเสียแล้ว แล้วแม่ข้าที่ถูกขังอยู่ในเรือนเหนือมานานขนาดนั้นล่ะ นางอยู่มาได้อย่างไร กาลเวลาผันเปลี่ยน กับท่านแม่ข้าทำดีจนถึงที่สุดแล้ว พี่ไม่ต้องพูดจาไร้สาระอีก มีเวลาก็ไปอยู่เป็นเพื่อนชิงชิงให้มากหน่อยเถิด”
เห็นหลิงอวี้จื้อไม่สะทกสะท้าน หลิงจื่อเฉิงได้แต่ทอดถอนใจเบาๆ
“ขอโทษนะ อวี้จื้อ ข้าขอโทษเจ้าแทนท่านแม่”
“คนที่ควรขอโทษไม่ใช่พี่ ดังนั้นคำขอโทษนี้ข้าไม่รับ”