ทางอีกด้านหนึ่ง ถังซีนอนอยู่บนเตียง ดูข่าวไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีอะไรทำ ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจึงเงยหน้าขึ้นมอง ขณะเดียวกันก็มีคนเคาะประตูห้อง ถังซีเลิกคิ้ว ครอบครัวเธอมักไม่เคาะประตู แต่จะเข้ามาในห้องโดยตรง ถังซีเอ่ยขึ้น “เข้ามาค่ะ”
ประตูเปิดออก และพ่อบ้านตระกูลเฉียวก็เข็นรถเข็นของเฉียวอวี่ซินเข้ามา ถังซีรีบโบกมือให้และถามว่า “คุณป้าเฉียว คุณป้ามาที่นี่ได้ยังไงคะ”
เฉียวอวี่ซินขอให้พ่อบ้านเข็นนางไปที่หน้าเตียงคนไข้ของถังซี นางยิ้ม จับมือถังซี “ป้าเพิ่งได้ยินจากอาเหลียงว่าหนูเข้าโรงพยาบาล ทำไมหนูถึงทำให้ตัวเองเจ็บอีกแล้ว ถึงหนูจะออกจากโรงพยาบาลก่อนป้า หนูก็เข้ามานอนโรงพยาบาลสองครั้งแล้วนะหลังจากนั้น และในช่วงเวลาใกล้ๆ กันด้วย หนูกำลังมีเคราะห์หรือเปล่า เราไปวัดหลิงอันกันเถอะ ไปสวดมนต์ขอพรจากพระท่าน หลังจากหนูออกจากโรงพยาบาล ดีไหมจ๊ะ”
ถังซีกะพริบตาปริบๆ ดูเหมือนว่าเหตุที่คุณป้าเฉียวมาในวันนี้ ท่านตั้งใจจะมาพูดเรื่องนี้กับเธอ
“คุณป้าคะ จะเป็นเรื่องยุ่งยากเกินไปสำหรับคุณป้านะคะ เดี๋ยวหนูไปเองก็ได้ค่ะ ไม่สะดวกสำหรับคุณป้าเลยค่ะที่จะไปวัด” ถังซียิ้มอย่างจริงใจ เธอไม่เชื่อในศาสนามาตั้งแต่เกิด เธอจะไปวัดเพื่อสวดมนต์ขอพรจากพระได้อย่างไร เธอกลัวว่าพระท่านอาจขุ่นเคืองจากความไม่เลื่อมใสศรัทธาของเธอน่ะสิ
เฉียวอวี่ซินยิ้มและกล่าวว่า “ป้ารู้ว่าหนูเป็นห่วงป้าเสมอ อาเหลียงเลือกคนถูก หนูเป็นผู้หญิงที่ดี ป้าดีใจจริงๆ ที่ป้ารักผู้หญิงที่อาเหลียงรัก เธอสองคนจะแต่งงานกันหลังจากหนูเรียนจบมหาวิทยาลัยใช่ไหมจ๊ะ” จากนั้นนางก็พูดต่อ “ตลอดหลายปีมานี้ที่บ้านป้ามีแค่เราสองคนแม่ลูก แล้วป้าก็อยู่ในโรงพยาบาลมานานหลายปี อาเหลียงจึงต้องอยู่บ้านคนเดียวเสมอ เขาต้องโดดเดี่ยวมาก ถ้าหนูแต่งงานกับเขาป้าก็จะไม่มีอะไรให้กังวลอีกต่อไป”
ถังซีกะพริบตาปริบๆ สงสัยว่าทำไมคุณป้าเฉียวจึงมาที่นี่ ทำไมท่านถึงขอให้เธอไปสวดมนต์ขอพรพระกับท่าน จากนั้นก็เร่งเร้าให้เธอแต่งงานกับเฉียวเหลียง
ถังซีอ้าปากค้าง และกำลังจะพูดเมื่อเฉียวอวี่ซินมองหน้าถังซีด้วยรอยยิ้มและถามว่า “หนูมีความสุขมากจนพูดไม่ออกใช่ไหมจ๊ะ ป้าเข้าใจหนูจ้ะ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาชายหนุ่มหน้าตาดีมีความสามารถอย่างอาเหลียง ป้าถึงได้พูดอยู่เสมอว่าเธอทั้งคู่โชคดี เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกันที่จะหาผู้หญิงที่สวยและจิตใจดีอย่างหนู…”
ถังซีรีบขัดจังหวะเฉียวอวี่ซิน “เอ้อ…คุณป้าเฉียวคะ หนูเพิ่งเข้าเรียนปีที่หนึ่งของโรงเรียนมัธยมปลายเองค่ะ…”
“ไม่เป็นไรจ้ะ ป้ารู้ว่าหนูน่ะเรียนเก่งมาก ป้าได้ยินมาว่าหนูพนันกับพี่ชายว่าจะเรียนจบมัธยมปลายให้ได้ในหนึ่งปี ป้าอยากแสดงความยินดีกับหนูล่วงหน้า แล้วนอกจากนี้หนูก็จะจบหลักสูตรมหาวิทยาลัยให้ได้ในสองปีด้วยใช่ไหมจ๊ะ ป้าคิดว่าไม่มีความจำเป็นสำหรับหนูเลยที่จะเรียนต่อในระดับปริญญา หนูไม่จำเป็นต้องหางานทำ มีตำแหน่งมากมายสำหรับหนูในเซียวกรุป เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับหนูที่จะแต่งงานเร็ว”
ถังซีพูดไม่ออก ได้แต่ฟังเฉียวอวี่ซินพูดด้วยความตื่นเต้น “อ๋อใช่ หนูสามารถมีลูกเยอะๆ ได้เลย ถ้าหนูไม่มีเวลาดูแลพวกเขา ฝากให้ป้าช่วย…”
ถังซีหัวเราะเบาๆ อย่างขวยเขิน “ยังเร็วเกินไปนะคะ ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ คุณป้าเฉียว”
“ไม่เร็วหรอกจ้ะ เฉียวเหลียงอายุยี่สิบเจ็ดแล้ว ไม่เร็วเลย” เฉียวอวี่ซินกล่าว “ถึงแม้หนูจะอายุแค่ยี่สิบสามปี อาเหลียงยี่สิบเจ็ด และจะสามสิบในอีกสามปีข้างหน้า เขาไม่เด็กแล้ว ดังนั้นได้โปรดเถอะ โหรวโหรว ได้โปรดให้ป้าได้เห็นหลานชายเร็วๆ ในอนาคตอันใกล้นี้นะจ๊ะ อย่าปล่อยให้ลูกชายป้ารอนาน ตกลงไหมจ๊ะ”
ถังซีชะงัก จริงด้วย… อายุจริงของเธอคือยี่สิบเจ็ดปี จริงๆ แล้วเธอไม่ใช่หญิงสาวอายุยี่สิบสาม เธออายุเท่าเฉียวเหลียง และอายุน้อยกว่าเซียวเหยาเพียงสามปี อายุน้อยกว่าเซียวส่าหนึ่งปีเท่านั้น และอายุเท่ากับเซียวจิ่ง
ปรากฏว่าทั้งคู่อายุเท่านี้แล้ว ปรากฏว่าพวกเขาเสียเวลาไปห้าปี
“ตกลงค่ะ คุณป้าเฉียว หนูสัญญากับคุณป้าว่าหลังจากหนูเรียนจบ และทำทุกสิ่งทุกอย่างที่หนูควรทำสำเร็จลุล่วงแล้ว หนูจะแต่งงานกับเฉียวเหลียง เป็นภรรยาเขา และอยู่กับเขาตลอดไปค่ะ”
เมื่อเฉียวอวี่ซินได้ยินคำสัญญาของถังซี นัยน์ตานางก็เป็นประกายสดใส นางจับมือถังซีทั้งสองข้างและกล่าวอย่างตื่นเต้น “จริงเหรอ หนูสัญญากับป้าแล้วใช่ไหมว่าหนูจะแต่งงานเฉียวเหลียง”
ถังซีพยักหน้ารับเป็นการยืนยัน “ใช่ค่ะ หนูจะแต่งงานกับเขา”
เธอจะแต่งงานกับเฉียวเหลียงเท่านั้นในชีวิตนี้ จะไม่แต่งงานกับคนอื่น เมื่อได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งเธอจึงรู้ว่า ท้ายที่สุดเขาคือคนที่เธอจะไม่ยอมปล่อยมือ
ในเวลานั้นนั่นเอง คุณครูเหอกับครูที่ปรึกษาหลี่เฮาอวี่ ก็ได้มายืนอยู่ที่หน้าประตูด้วยท่าทางตกตะลึง
ทั้งสองค่อนข้างแน่ใจว่าพวกเขาได้ยินไม่ผิด เมื่อกี้ทั้งสองได้ยินการสนทนาระหว่างสุภาพสตรีผู้นี้กับเซียวโหรว และเซียวโหรวจะแต่งงานกับเฉียวเหลียงในอนาคต เฉียวเหลียงคนนี้คงจะเป็นคนเดียวกับที่พวกเขารู้จัก เขาคือประธานเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป และปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทองของเมือง A!
ดังนั้นตอนนี้เซียวโหรวไม่ได้เป็นเพียงคุณหนูของตระกูลเซียว แต่ยังเป็นว่าที่ภรรยาในอนาคตของเจ้าของเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุปอีกด้วย
ครูที่ปรึกษาหลี่เฮาอวี่มองไปที่ถังซีซึ่งนอนอยู่บนเตียง แล้วก้มหน้าลงเงียบๆ ‘ใช่ เด็กสาวหน้าตาสวย ผู้มีคะแนนสอบดีเยี่ยมอย่างเซียวโหรว น่าจะมีผู้ชายหลายคนตามจีบ และควรแต่งงานกับผู้ชายที่ประสบความสำเร็จอย่างเฉียวเหลียง’
ถังซีรู้สึกว่ามีใครบางคนยืนอยู่ที่หน้าประตู เธอเงยหน้าขึ้นและรู้สึกเขินอายมาก จากท่าทางที่คุณครูเหอกับครูที่ปรึกษาหลี่เฮาอวี่มองมา เธอรู้ว่าพวกเขาต้องได้ยินการสนทนาของเธอกับคุณป้าเฉียว… ถังซียิ้มให้คุณครูเหอ “คุณครูเหอ ครูที่ปรึกษา ทำไมถึงมาที่นี่ละคะ”
เหอมู่อันเดินเข้ามาพร้อมกับหลี่เฮาอวี่ เขามองดูถังซีซึ่งนอนอยู่บนเตียงแล้วถอนหายใจ หลังจากทักทายเฉียวอวี่ซิน เขาก็หันกลับไปหาถังซีและกล่าวว่า “คุณแม่ของเธอโทรหาครู บอกว่าเธอต้องเข้าโรงพยาบาลอีกแล้ว ครูที่ปรึกษากับครูก็เลยมาเยี่ยมเธอในนามของชั้นเรียน อีกอย่างหนึ่ง ครูอยากมาถามว่าเธอต้องการให้มีครูมาทบทวนบทเรียนทั้งหมดที่เธอไม่ได้เข้าเรียนให้หรือเปล่า ถ้าเธอต้องการ โรงเรียนจะจัดคุณครูมาที่นี่ทุกบ่าย และทบทวนให้เธอในสิ่งที่เธอไม่ได้เข้าเรียน”
ถังซีรู้สึกได้รับอภิสิทธิ์มาก เธอมองหน้าเหอมู่อัน “คุณครูเหอคะ หนูขอบคุณมากค่ะ แต่หนูไม่ต้องการหรอกค่ะ”
“นี่คือคำสั่งของอาจารย์ใหญ่ เธอไม่ต้องอายหรอก ถ้าเธอคิดว่าต้องการ ครูจะจัดการให้เธอหลังจากกลับไป”
เฉียวอวี่ซินมองถังซีด้วยรอยยิ้ม และกำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่างเมื่อถังซีกล่าวว่า “คุณครูเหอคะ หนูไม่ต้องการจริงๆ ค่ะ ถ้าเป็นไปได้หนูหวังว่าคุณครูจะให้หนูได้เข้าสอบวัดผลสำหรับนักเรียนชั้นสูงสุด เมื่อหนูกลับไปที่โรงเรียน หนูอยากจบการศึกษาโดยเร็วที่สุด คุณครูก็รู้นี่คะ หนูไม่ได้อายุเท่ากับเพื่อนร่วมชั้น ถ้าหนูไม่สามารถข้ามชั้นได้ หนูจะแก่เกินไปเมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัย”
แม้ว่าในสมัยโบราณจะมีผู้คนอายุสี่สิบห้าสิบปีเข้าสอบบัณฑิตในวังหลวง แต่ในสังคมปัจจุบันบัณฑิตที่จบมหาวิทยาลัยด้วยอายุยี่สิบห้าปีก็นับว่าหายาก ดังนั้นเป้าหมายของเธอคือ จบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมปลายภายในหนึ่งปี จบจากมหาวิทยาลัยภายในหนึ่งปี จากนั้นค่อยๆ ศึกษาเพิ่มเติมในแขนงวิชาต่างๆ เธอก็จะได้รับทุกปริญญาเท่ากับที่ถังซีได้รับ โอ… ใช่แล้ว รวมทั้งปริญญาการออกแบบด้วย เธอต้องได้รับปริญญานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสถาบันการออกแบบแห่งปารีส