ตอนที่ 1833

 

“นี่มันเป็นไปไม่ได้ ยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาล? นี่คือสมบัติระดับสุดยอดของเผ่าพันธุ์มังกรที่กระจัดกระจายอยู่ในซอกมุมต่างๆของจักรวาล ปกติแล้วการได้ครอบครองมาเพียงใบเดียวก็ถือว่าเป็นโชคลาภอันยิ่งใหญ่ ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะได้มามากเพียงนี้ อันที่จริงเจ้าได้มันมาจากที่ใดกัน?!”

 

เฟิงกวงหลี่ก็เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์และความรู้ รับรู้ได้อย่างกะทันหันว่านี่คือยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลที่โด่งดัง ส่วนลึกของยันต์นั้นแอบแฝงไปด้วยออร่าความศักดิ์สิทธิ์ ความโบราณ ความยิ่งใหญ่และความไร้เทียมทาน

 

พลังฉีมังกรสวรรค์เช่นนี้ก็น่าอัศจรรย์อย่างมาก ดูเหมือนกับเป็นตัวตนที่อยู่ในจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร เพียงแค่เศษเสี้ยวออร่าที่แผ่ออกมา ก็เพียงพอที่จะทําให้จิตวิญญาณของมันสั่นไหวแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะขยับเขยื้อน

 

ยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาล?!

 

จ้าวเมืองมรกตและราชันปีศาจตัวอื่นๆที่เพิ่งผ่านพ้นมาจากสถานการณ์วิกฤติก็จ้องมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง มองเชียปิงด้วยสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อ พวกมันก็นึกขึ้นถึงบางอย่างได้อย่างกะทันหัน นึกได้ถึงการตายของปีศาจชราเฮยเฟิง

 

เป็นอย่างนี้นี่เอง ที่แท้บนตัวก็มีสมบัติระดับสุดยอดอย่างยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลอยู่ ไม่ประหลาดใจว่าทําไมถึงสังหารปีศาจชราเฮยเพิ่งได้ หากเป็นยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลที่เลื่องลือล่ะก็มันก็มีพลังอํานาจเพียงพอที่จะทําเช่นนั้นจริงๆ

 

ทว่าเมื่อพวกมันคิดได้ว่าการกระทําเช่นนี้ของเซียปิงที่เป็นการช่วยเหลือพวกมันนั้น คาดการณ์ได้ว่าเป็นการแสดงให้พวกมันได้เห็นถึงอํานาจบารมีเช่นกัน สีหน้าของพวกมันก็มีดมนอย่างมาก

 

ต้องพูดว่าพวกมันก็ตกใจอย่างแท้จริง เจ้าปีศาจหนุ่มนี่มีไพ่ตายที่น่าสะพรึงกลัว

 

“ได้มาจากที่ใด? นี่มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า เจ้าปีศาจบ้านนอก”

 

เซียปิงก็ไม่ต้องการเสียเวลาพูดคุยไร้สาระกับเฟิงกวงหลี่ เขาประสานมือเข้าทั้งสองข้าง ควบคุมยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาล โจมตีตรงไปที่เฟิงกวงหลี่

 

ต้องกล่าวว่าหลังจากที่ได้ครอบครองยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาล18ใบมาจากปีศาจชราเฮยเฟิงนั้น พลังอํานาจของยันต์เหล่านี้ก็ผสมผสานกัน มีพลังอํานาจที่เพิ่มขึ้นมาหลายเท่า ทรงอํานาจกว่าก่อนหน้านี้อย่างประเมินค่าไม่ได้

 

ทุกท่วงท่าทุกการเคลื่อนไหวของยันต์เหล่านี้ต่างก็แอบแฝงไปด้วยพลังอํานาจที่ยิ่งใหญ่ เมื่อถูกกระตุ้นออกมาอย่างสมบูรณ์ มันราวกับว่ามังกรสวรรค์บรรพกาลที่แท้จริงได้จุติลงมาทําให้ผู้คนสั่นสะท้าน

 

“ปีศาจบ้านนอก? อู๋ไทโต่ว เจ้ากล้าดูถูกเหยียดหยามข้าจนถึงขั้นนี้รี?! ต่อให้บนตัวของเจ้าจะมียันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลแล้วอย่างไรกัน ระดับพลังของเจ้ายังไม่เพียงพอ พลังเวทมนตร์ของเจ้าก็ยังไม่เพียงพอ เป็นไปได้อย่างไรที่จะกระตุ้นพลังอํานาจที่แท้จริงของมันได้ ดูสิว่าข้าจะสังหารเจ้าได้หรือไม่”

 

เฟิงกวงหลี่ตะโกนออกมาอย่างโมโห จากนั้นก็บอกให้ราชันปีศาจจํานวนหลายร้อยตัวเริ่มลงมือ ควบแน่นค่ายกลขึ้นมา หลั่งไหลพลังเวทมนตร์เข้าไป

 

ทันใดนั้นพลังเวทมนตร์ของมันก็แผดเผาอย่างบ้าคลั่ง เหมือนกับว่าในช่วงเวลานี้ กระแสพลังฉีที่ไร้ที่สิ้นสุดของโลกได้รวมเข้าที่ร่างกายของมัน ทําให้สถานที่แห่งนี้ก่อตัวกลายเป็นหลุมวนกระแสพลังฉีขนาดใหญ่

 

พื้นที่ในระยะหลายหมื่นกิโลเมตรเปลี่ยนกลายเป็นพายุที่น่าสะพรึงกลัวโดยที่มีร่างกายของมันเป็นจุดศูนย์กลาง จุดที่มันยืนอยู่คือใจกลางของพายุ ช่องทางห้วงมิติต่างก็ปรากฏขึ้นมามากมาย หลั่งไหลพลังงานห้วงมิติเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

 

ค่ายกลธาตุลมแต่ละประเภทปรากฏขึ้น มอบพลังอํานาจให้กับเฟิงกวงหลี่ ร่างกาย ของมันก็ปกคลุมไปด้วยลมดาราหลายชั้น ก่อตัวกลายเป็นบาเรียที่แกร่งกล้า

 

ภายใต้การปกคลุมของบาเรียเหล่านี้ ร่างกายของเฟิงกวงหลี่เหมือนกับมีบาเรียห้วงมิติที่น่าสะพรึงกลัวหลายชั้นป้องกันอยู่ ไม่อาจทําลายได้ ทรงอํานาจยิ่งกว่าป้อมปราการไหนๆ

 

ทว่ามังกรสวรรค์บรรพกาล46ตัวที่เคลื่อนไหวออกมา ตะปบกรงเล็บมังกรสวรรค์ออกไปพลังอํานาจของมังกรสวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัวรวมเข้ากับที่ศูนย์กลาง จากนั้นกรงเล็บก็พุ่งเข้าหาเฟิงกวงหลี่อย่างรวดเร็ว

 

ตึบ!

 

บาเรียทั้งหมดของเฟิงกวงหลี่ระเบิดออกมาทันที ถูกทะลวงไปอย่างง่ายดาย ไม่สามารถต้านทานการโจมตีของยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลได้แม้แต่น้อย นี่คือกรงเล็บของมังกรสวรรค์ ฉีกผ่านห้วงอวกาศ ไร้เทียมทาน ไม่ว่าสิ่งใดก็ไม่คู่ควรกับกรงเล็บนี้

 

“อ้ากก!!”

 

ทันใดนั้นเฟิงกวงหลี่ก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช รู้สึกได้ถึงเส้นประสาทที่บีบรัดแน่นพลังอํานาจของมังกรสวรรค์ลุกลามเข้ามาในร่างกายและทําลายล้างอย่างบ้าคลั่ง

 

กล้ามเนื้อแต่ละมัด กระดูกแต่ละชิ้น แม้กระทั่งเซลล์แต่ละเซลล์ดูเหมือนว่าจะถูกฉีกกัดโดยมังกรสวรรค์ แม้แต่จิตวิญญาณก็ถูกกดขี่โดยพลังอํานาจมังกร ราวกับใกล้ที่จะสูญสลายไปเต็มที่

 

หากยังดําเนินต่อไปเช่นนี้ มันจะต้องถูกสังหารโดยกรงเล็บนี้อย่างแน่นอน

 

ทว่าราชันปีศาจจํานวนมากที่คอยสนับสนุนมันอยู่นั้น ไม่สามารถต้านทานพลังอํานาจของกรงเล็บนี้ ฐานค่ายกลพังทลาย กลุ่มพลังฉีระเบิดออกมาทันทีเกิดเสียงดังสนั่นขึ้นมา

 

ราชันปีศาจจํานวนมากของเมืองพายุหมุนต่างก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช ไม่สามารถต้านทานพลังสะท้อนของค่ายกลที่พังทลายได้ ร่างกายระเบิดออกมาโดยตรง ชิ้นส่วนกระจุยกระ จายไปทั่วพื้นที่ เปลี่ยนกลายเป็นก้อนเนื้อบด

 

“ท่าไม่ดีแล้ว จะต้องหลบหนี แผดเผาสายเลือด สลายอายุขัย ออกมา สายลมแห่งการอําพราง…..”

 

ทันใดนั้น ปีศาจวายุเฟิงกวงหลี่ก็รู้สึกได้ถึงวิกฤติ มันรีบกัดลิ้นของตนเอง พ่นเลือดออกมาสายเลือดของมันก็เริ่มที่จะแผดเผาอย่างบ้าคลั่ง อายุขัยกําลังหายไปอย่างรวดเร็ว

 

เลือดบนร่างกายก็หายไปด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ เส้นลมปราณแต่ละเส้นฉีกขาด เดิมที่เส้นผมสีดํายาวของมันทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นสีขาว ร่างกายแก่ชราลง ออร่าสลายหายไปอย่างรวดเร็ว ดูราวกับเปลี่ยนกลายเป็นปีศาจแก่ชราก็ว่าได้

 

ในช่วงเวลาวิกฤตินี้ เพื่อต้านทานพลังอํานาจของยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาล ไม่คาดคิดว่าเฟิงกวงหลีจะแผดเผาสายเลือดของตนเอง ยอมแลกอายุขัยของตนเอง แสดงทักษะลับของตระกูลปีศาจวายุของมันซึ่งเป็นทักษะหลบหนีและอําพรางตัว

 

อย่างน้อยการทําเช่นนี้ มันจะต้องยอมแลกกับอายุขัยสามพันปีและได้รับอาการบาดเจ็บที่ยากจะฟื้นฟู ส่งผลให้แกนพลังล่าถอย การที่จะพัฒนาก้าวหน้าก็กลายเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญ

 

ความสูญเสียเช่นนี้ ไม่สามารถที่จะจินตนาการได้

 

ทว่าเฟิงกวงหลี่ก็จําใจต้องทําเช่นนี้ เพราะหากมันไม่หลบหนีไปในตอนนี้ มันก็จะต้องตายไปโดยยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลตรงหน้า

 

ถึงอย่างไรแล้วการที่เอาชีวิตรอดออกไปได้ในอนาคตก็ยังมีโอกาสอีกเสมอ อาจจะหาทางรักษาความเสียหายเหล่านี้ได้ ทว่าหากตอนนี้ไม่หลบหนีออกไป จากนั้นมันก็จะต้องตายอย่างแน่นอน

 

ดังนั้นการทําเช่นนี้จึงเพิ่มโอกาสรอดของมันได้ มันตัดสินใจยอมแลกทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตเองตนเองไว้ ความจริงมันก็เป็นราชันปีศาจที่เด็ดขาดและแน่วแน่ตัวหนึ่ง

 

วิซ!

 

ทันใดนั้นร่างของเฟิงกวงหลี่ก็มีหลุมวนปรากฏขึ้นนับไม่ถ้วน ดูดกลืนพลังอํานาจของห้วงมิติเข้ามา ผิวหนังของร่างกายมีอักขระห้วงมิติมากมายปรากฏขึ้น เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ ทั่วทั้งร่างของมันก็เปลี่ยนกลายเป็นกระแสพลังฉีห้วงมิติที่โปร่งใส

 

วินาทีต่อมา มันก็หลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว แยกห่างออกไปจากสมรภูมิรบที่อันตรายแห่ง

 

“ไล่ตามไปเร็ว เจ้าเฟิงกวงหลี่ต้องการที่จะหลบหนี!”

 

จ้าวเมืองมรกตและราชันปีศาจตัวอื่นๆก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป เมื่อเห็นท่าทางของเฟิงกวงหลี่ที่ต้องการหลบหนี พวกมันก็คิดที่จะไล่ตามไปทันที สังหารเจ้าเฟิงกวงหลี่ให้สิ้นซาก

 

เพราะถึงอย่างไรเจ้าเฟิงกวงหลี่ก็เป็นถึงนายน้อยของเมืองพายุหมุน หากศัตรูที่ทรงพลังเช่นนี้หลบหนีออกไปได้ในอนาคตจะต้องกลับมาล้างแค้นพวกมันอย่างแน่นอน ในตอนนั้นเมืองมรกตอาจจะเผชิญกับหายนะได้

 

ดังนั้นพวกมันจึงต้องการฆ่าเฟิงกวงหลี่เพื่อจบเรื่องทั้งหมด ถอนรากถอนโคนให้หมดสิ้นกําจัดภัยพิบัติในอนาคต ไม่ให้ทางเมืองพายุหมุนได้รู้ว่าใครเป็นฆาตกร

 

ทว่าความเร็วของเจ้าเฟิงกวงหลี่ก็รวดเร็วเกินไปจริงๆ เปลี่ยนกลายเป็นกระแสพลังฉีห้วงมิติหลบหนีเข้าสู่ส่วนลึกของความว่างเปล่า ไม่ใช่สิ่งที่จ้าวเมืองมรกตและราชันปีศาจเหล่านี้จะไล่ตามไปได้

 

ในความเป็นจริง เชี่ยป่งสามารถไล่ตามไปได้ ทว่าเขาไม่เลือกที่จะทําเช่นนั้น ปล่อยให้เฟิงกวงหลี่หลบหนีออกไป เพราะเขาต้องการให้เฟิงกวงหลี่มีชีวิตอยู่ มีเพียงแค่การที่เฟิงกวงหลี่มีชีวิตอยู่เท่านั้น จ้าวเมืองมรกตและราชันปีศาจตัวอื่นๆจึงจะลงเรือลําเดียวกับเขาและไม่กล้าทรยศหักหลัง

 

ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่ได้เป็นกังวลถึงการล้างแค้นของเฟิงกวงหลี่ เพราะถึงอย่างไรก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะอาศัยอยู่ในโลกปีศาจไปตลอดกาล รอให้ได้ครอบครองแมลงหลุมดําเขาก็จะจากออกไปมีที่ไหนที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับพลังอํานาจและอิทธิพลของเมืองพายุหมุน

 

ดังนั้นสําหรับเชี่ยปิง การที่ปล่อยให้เฟิงกวงหลี่หลบหนีออกไปจึงเป็นผลดีที่แทบจะไม่มีผลเสียอยู่เลย

 

“เจ้าอู๋ไทโต่ว รอข้าก่อนเถอะ ข้าจะจดจําความแค้นครั้งนี้ไว้” เห็นได้ชัดว่าเฟิงกวงหลี่ไม่เต็มใจอย่างมาก ต่อให้จะหลบหนี มันก็ไม่ลืมที่จะทิ้งท้ายถ้อยคําที่โหดเหี้ยมเหล่านี้ไว้

 

เมื่อสิ้นเสียงของมัน ภาพเงาของเฟิงกวงหลี่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว