“ข้าว่าเจ้าคงไม่มีวันได้รู้คำตอบนั้น เพราะวันนี้เจ้าจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย”

“ที่จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยนั่นคือพวกเจ้าต่างหากเล่า!” มู่เฉียนซีลงมือโดยพลัน พลังธาตุวารีของนางม้วนตัวออกไป

“มังกรวารีพิฆาต!”

รองหัวหน้าหออสูรทมิฬตะลึงงัน จากนั้นจึงกล่าวขึ้น “ราชาแห่งภูตธาตุวารี ดูเหมือนว่าความสามารถในการปรุงยาของเจ้าก็ไม่เท่าไร” อย่างไรเสียนักปรุงยาขั้นสูงสุดที่เป็นระดับตำนานนั้น ไม่มีใครไม่ใช่ผู้มีพลังภูตธาตอัคคี

มู่เฉียนซียิ้ม  กล่าวขึ้น “ในเมื่อพวกเจ้ามีความผิดหวังอยู่บ้าง เช่นนั้นให้ข้าได้ทำให้พวกเจ้าพึงพอใจสักครั้งเถอะ”

เมื่อกระบี่มังกรเพลิงถูกตวัดออกไป มังกรเพลิงยาวก็โลดแล่นอย่างบ้าคลั่ง มู่เฉียนซีแค่นเสียงเย็นชา “มังกรเพลิงพิฆาต!”

“วารี… อัคคี… พลังธาตุวิญญาณคู่”

รองหัวหน้าตกตะลึงปากอ้าตาค้าง ท้ายที่สุดก็ได้ทำเอาตัวเขานั้นลอยปลิวออกไปทั้งร่าง เขานั้นดูถูกคู่ต่อสู้มากเกินไปในครั้งแรกที่สู้กัน

จักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าผู้หนึ่ง กลับถูกราชาแห่งภูตระดับเก้าผู้หนึ่งโจมตีเข้า สำหรับพวกเขาแล้ว มันเป็นความน่าอับอายอย่างใหญ่หลวง

“ลงมือ จัดการให้สาวน้อยนี่ตายไร้หลุมฝัง!”

มู่เฉียนซีก็กล่าวขึ้นอย่างดุดัน “เสี่ยวหง อู๋ตี้ ฆ่าพวกนั้นให้สิ้น!”

“โอ้สวรรค์! สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามสองตัว” มู่เฉียนซีออกคำสั่ง “องค์รักษ์เงา จัดกระบวนทัพ โจมตี!”

เมื่อตอนที่นางจะเปิดหอหมอปีศาจในแค้วนเฉียนเซี่ยนั้น ก็ได้โยกย้ายองค์รักษ์เงาจากแคว้นจื่อเยี่ยมาหกสิบกว่าร่าง

องค์รักษ์เงาทั้งหกสิบกว่าร่างนั้น ล้วนแต่ระดับจักพรรดิ อีกทั้งในมือของพวกเขายังมีอาวุธลับมีพิษร้ายที่ทำขึ้นอย่างประณีต ทันใดนั้นนักฆ่าของทั้งหออสูรทมิฬตกอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัว

เดิมทีพวกเขานั้นเป็นนักฆ่า แต่มาวันนี้กลับเป็นดั่งปลาที่มาติดตาข่าย รอเวลาถูกเชือด

“กับดัก ให้ตายเถอะ! พวกเราถูกกลลวงเข้าแล้ว รีบไปเร็ว” ระดับจักพรรดิหลายสิบคนนั้นไม่น่ากลัว ทว่าพิษร้ายและอาวุธลับนั่น ช่างน่ากลัวอย่างแท้จริง มันทำให้ไม่ทันได้ระวังตัวเลย

ความหยิ่งของหออสูรทมิฬถูกสยบลงไป น่าหลานอวี้และฮวงฝูหงร่วมกันจัดการรองหัวหน้าตวนมู่

เมื่อไร้ซึ่งการช่วยเหลือจากหออสูรทมิฬ เขานั้นก็ทำอะไรไม่ได้

หัวหน้าตวนมู่เองก็หงุดหงิดอย่างที่สุด  “นึกว่าหออสูรทมิฬจะเก่งกาจเป็นอย่างมาก ให้ข้าจ่ายเงินไปจำนวนมากมายเช่นนั้น ปรากฏว่าแม้แต่เด็กน้อยเพียงผู้เดียวก็ยังไม่สามารถจัดการได้ น่ารังเกียจนัก!”

“รีบไป!” หัวหน้าตวนมู่กล่าวกับบุตรสาวของตน

รองหัวหน้าหออสูรทมิฬได้ถูกองค์รักษ์เงาของตระกูลมู่บีบบังคับเสียจนแทบบ้า

— ตุบ!  ตุบ!  ตุบ! —

ลูกน้องที่อยู่ข้างกายนั้นค่อย ๆ ล้มลงทีละคนทีละคน แต่เขากลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย  ดวงตาของเขาฉายแววดุร้ายออกมา ถึงแม้ว่าต้องตาย ก็ต้องให้เจ้าเด็กนั่นเป็นแพะรับบาป  ร่างของเขานั้นพุ่งตรงเข้ามาหามู่เฉียนซีดั่งสายฟ้าแลบ “เจ้าหนู เจ้าจงตายซะ!”

รองหัวหน้าหออสูรทมิฬพุ่งเข้ามาอย่างดุดัน มู่เฉียนซีเองก็ไม่ได้ตระหนกนัก นางรีบตอบโต้กลับ “พลังซวนตี้!”

ดวงตาของหัวหน้าหออสูรทมิฬหรี่เล็กลงอย่างฉับพลัน เป็นกระบวนท่านี้อีกแล้วรึ ?

เมื่อครู่นางก็ได้ใช้กระบวนท่านี้ แค่เพียงอาศัยพลังของนางที่เป็นระดับราชาแห่งภูตฆ่าจักรพรรดิแห่งภูตผู้หนึ่ง “อ่อนแอนัก!” รองหัวหน้าหออสูรทมิฬป้องกันเอาไว้อย่างสบาย เขากล่าวขึ้นอย่างชั่วร้าย

ใช่แล้ว อ่อนแอเกินไป พลังซวนตี้ในตอนนี้เป็นเพียงแค่ขั้นเล็ก ๆ เท่านั้น เมื่อต้องเผชิญกับเขาที่เป็นจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าก็มีความยากลำบากอยู่บ้าง

— ฟึ่บ!  ฟึ่บ!  ฟึ่บ! —

ในตอนนี้เอง เข็มยาของมู่เฉียนซีบินออกไป

— ตูม! —

เสียงดังสนั่นเสียงหนึ่งเกิดขึ้น ตัวของนางนั้นก็ถูกห่อหุ้มไปด้วยหมอกพิษ และได้หายไปต่อหน้าของหัวหน้าหออสูรทมิฬเช่นนี้

รองหัวหน้าหออสูรทมิฬป้องกันพิษอย่างรีบร้อน เขากล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจ “เจ้าเด็กบ้า ชอบใช้วิธีอะไรที่ไม่เป็นที่นิยมยอมรับเช่นนี้รึ ?”

“เช่นนั้นนายท่านของข้าก็ไม่ต้องแล้ว ข้าจะมาเล่นเป็นเพื่อนเจ้าเอง!” เสียงกล่าวหยอกล้อเสียงหนึ่งดังลอยมา เขาพลันมองเห็นแมวยักษ์ตัวหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้า

สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามที่ในเวลานี้ร่างใหญ่เบิ้ม!

“พวกเขา…”

รองหัวหน้าหออสูรทมิฬหันเหลือบมอง ก็พบว่าเหล่านักฆ่าที่ต้านทานเสี่ยวหงและอู๋ตี้เอาไว้นั้น ได้ไปพบยมบาลตั้งนานแล้ว

ไม่ง่ายเลยที่จะหาเวลาโอกาสอันเล็กน้อยที่จะเผชิญกับเจ้าเด็กนั่นได้ แต่กลับไม่ได้ฆ่าเจ้าเด็กนั่นไปในทันที มาตอนนี้มีปัญหาใหญ่เสียแล้ว สีหน้าของรองหัวหน้าหออสูรทมิฬขาวซีด  ต่อจากนี้ไปเขาจะต้องเผชิญการถล่มโจมตีจากอู๋ตี้และเสี่ยวหงเป็นแน่

“เพลิงเผาสวรรค์!”

— พรืด! —

หลังจากถล่มโจมตีไปหลายกระบวนท่า  รองหัวหน้าหออสูรทมิฬก็กระอักเลือดออกมาอย่างรวดเร็ว  เขากล่าวขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยว “หมอปีศาจมู่ซี หากเจ้าแน่จริงก็มาสู้กับข้าตัวต่อตัว!”

อู๋ตี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้านี่ช่างน่าไม่อายดีแท้! ระดับของเจ้าสูงกว่านายท่านของข้าตั้งหนึ่งระดับเต็ม ๆ ยังจะมาบอกว่าต้องการสู้ตัวต่อตัวอีก หน้าไม่อาย! หน้าไม่อาย!” “ใช่แล้ว! ตีมันให้ตาย” เสี่ยวหงกล่าวขึ้นอย่างเกรี้ยวโกรธ

มู่เฉียนซีเองก็กล่าวขึ้นอย่างจนปัญญา “พวกเจ้านี่นะ ช่างโหดร้ายยิ่งนัก รองหัวหน้าหออสูรทมิฬผู้นี้ จับเป็นเสียจะดีกว่า”

เวลานี้รองหัวหน้าหออสูรทมิฬอยากที่จะพลิกตาขาวขึ้นมาแล้วสลบไปจริง ๆ ไว้ชีวิตเอาไว้ เกรงว่ามันน่าจะอนาถเสียกว่าฆ่าทิ้งไปทีเดียว

ที่หอการค้าอันดับหนึ่ง เรื่องมงคลได้กลายเป็นเรื่องวุ่นวายขึ้นมา โชคดีที่ทั้งสองคนรับมือเอาไว้ได้ และเรื่องราวทั้งหมดก็จบสิ้นลง

หัวหน้าหอการค้าน่าหลานมองลูกชายของตนที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาแล้ว  เขากล่าวว่า “จัดการให้สะอาดเรียบร้อย พรุ่งนี้ทั้งหอการค้าจะมีการประชุมใหญ่ ไม่ว่าผู้ใดก็ห้ามขาดประชุมทั้งนั้น” “ขอรับ”

ทุกคนนั้นเข้าใจดีว่าหัวหน้าหอการค้าน่าหลานจะสละตำแหน่งแล้ว  การต่อสู้ในวันนี้ ทุกคนล้วนได้เห็นถึงความกล้าหาญของนายน้อยอย่างหมดจด เขามีความสามารถเพียงพอที่จะควบคุมหอการค้าอันดับหนึ่งแล้ว

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเขานั้นยังได้รู้จักหมอปีศาจมู่ซี เด็กหนุ่มที่เป็นเหมือนดั่งมารร้าย  กลุ่มกำลังทั้งหมดของทวีปเซี่ยโจว คงไม่อยากเป็นศัตรูกับผู้ที่วิปริตเช่นนั้นแน่นอน มู่เฉียนซีกล่าว “เหอะ… เจ้าหมอนี่ ข้าเอาตัวไปแล้ว”

น่าหลานอวี้พยักหน้า “อืม เดิมทีเจ้านั้นเป็นผู้ที่จัดการเขา เจ้าต้องการที่จะพาตัวไป แน่นอนว่าไม่มีปัญหา”

มู่เฉียนซีโยนยาขวดหนึ่งให้แก่น่าหลานอวี้ แล้วกล่าวขึ้นว่า “น้ำยาละลายศพนี้ใช้ได้ดีมาก เหมาะกับสถานการณ์ในตอนนี้อย่างที่สุด จะต้องจัดการให้สะอาดหมดจด”

— ฟึ่บ!  ฟึ่บ! —

เพียงเวลาชั่วพริบตา องค์รักษ์เงาของตระกูลมู่ก็จัดการเก็บกวาดศพของเหล่านักฆ่าแห่งหออสูรทมิฬเสร็จเรียบร้อย ไม่เหลือร่องรอยทิ้งไว้แม้แต่น้อย มุมปากของมู่เฉียนซียกโค้งขึ้น “ทุกท่านก็คิดว่าผลของมันนั้นไม่เลว ถ้าหากอยากที่จะซื้อมัน ข้านั้นสามารถลดราคาให้ได้ถึงเจ็ดส่วน”

ทุกคนต่างงุนงงสับสน เด็กน้อยผู้นี้ยิ้มอย่างไร้เดียงสา แต่ชั่วเวลาเพียงดีดนิ้วมือก็สามารถทำให้คนนั้นดับสลายเป็นเถ้าถ่านไปได้ ช่างน่ากลัวยิ่งนัก

และเมื่อถึงเวลาเช่นนี้ ก็ยังไม่ลืมที่จะเสนอขายสินค้าของหอหมอปีศาจของพวกเขา

เด็กหนุ่มผู้ที่ดูปราณีตเหมือนดั่งตัวละครในฝัน ได้นำพาเหล่าคนชุดดำอันตรธานหายไปต่อหน้าต่อตาของพวกเขา

น่าหลานอวี้เองก็จะต้องจัดการเรื่องที่เหลือจากนี้  ส่วนเชียนอ้าวเซี่ยที่ยืนเป็นวัตถุและคอยมองดูจากด้านข้างนั้น ได้ถูกทอดทิ้งไว้ด้านข้าง เชียนอ้าวเซี่ยนรีบวิ่งตามมู่เฉียนซีไปแล้วกล่าวขึ้น “ซีเอ๋อร์น้อย รอข้าด้วย”

“เจ้ายังเก็บลมหายใจของเจ้าหมอนั่นไว้ จะต้องทำเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างมากแน่ ๆ ข้าสามารถเข้าร่วมด้วยได้หรือไม่ ?” เชียนอ้าวเซี่ยสิ้นเปลืองแรงทั้งหมดที่มีเพื่อตามมู่เฉียนซีให้ทัน

มู่เฉียนซีมองเขาอย่างพินิจพิจารณา “อืม… ข้าจะต้องสอบสวนเขาให้ดีเสียหน่อย แต่ทว่าปากของพวกหออสูรทมิฬนั้นปิดแน่นสนิทมาแต่ไหนแต่ไร กอปรกับสถานะตัวตนของเขา ก็ยิ่งทำให้ยากที่ถามอะไรออกมาได้เข้าไปอีก เช่นนั้นแล้วข้าจึงอยากให้เจ้าช่วยอะไรอย่างหนึ่ง”

เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวอย่างตื่นเต้น “เรื่องการสอบสวนนี้ ข้าค่อนข้างถนัด ซีซีน้อยอยากจะรู้อะไรหรือ ? ข้าจะต้องถามออกมาให้ได้แน่ ๆ”

“เรื่องนั้นไม่จำเป็น องค์รัชทายาทเซี่ยมีรูปโฉมที่งดงาม ขอแค่เพียงเจ้าใช้กลลวงสาวงาม ก็คงจะทำให้เขาหลงไหลเสียจนไร้จิตวิญญาณและยอมพูดทุกอย่าง  เจ้าว่าใช่หรือไม่ล่ะ ?” มู่เฉียนซียิ้มอย่างชั่วร้าย

ใบหน้าของเชียนอ้าวเซี่ยนั้นยิ้มค้างเอาไว้ เขากล่าวขึ้นด้วยท่าทางน่าสงสารว่า “ซีเอ๋อร์น้อย เจ้ากำลังล้อเล่นใช่หรือไม่ ? ฮือ ๆ เหตุใดเจ้าจึงทำได้ลง ?”

.