บทที่ 377 ฮู๋ชิงชิงตกอยู่ในอันตราย

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

“ ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!……”

ในเวลาเดียวกันกับที่พวกคนของแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด ปลดปล่อยความอาฆาตออกมา คนเมืองฝูถูพากันตกใจ ต่างชักนักยุทธ์ออกมา แสงสว่างของพลังจิตแท้ถูกปล่อยออกมารอบตัว

แต่คนแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด ไม่ได้ลงมือทันที เหอหวู่เจียงยิ้มมุมปาก มองฮู๋ชิงชิงที่ใส่ผ้าคลุมหน้า แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “พวกนาย 12 คน ทิ้งแหวนเก็บของกับนักยุทธ์ของตัวเองเอาไว้ ครั้งนี้ข้าจะตัดสินใจปล่อยพวกนายไป”

เมื่อได้ยินดังนั้น กู้เผิงชะงักไป ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ขัดแย้งกับคนแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดได้ มอบแหวนเก็บของกับนักยุทธ์ให้พวกเขา ก็พอจะทนได้

เพราะสมบัติล้ำค่าใด ก็ไม่สำคัญเท่ากับชีวิตตัวเอง

แต่กู้เผิงไม่ใช่คนโง่ เขาก็เข้าใจจุดนี้เหมือนกัน นั่นก็คือถ้ามอบแหวนเก็บของกับนักยุทธ์ให้พวกเขา งั้นคนเมืองฝูถู ก็เหมือนเนื้อที่วางอยู่บนเขียง ให้คนอื่นเชือดได้ตามใจชอบ ไม่มีแม้แต่กำลังจะขัดขืน

“ศิษย์พี่กู้ อย่าไปฟังพวกเขา” ฮู๋ชิงชิงพูดเบาๆ

ศิษย์เมืองฝูถูคนอื่น ต่างพากันมองไปยังกู้เผิง

“ยังจะรออะไรอีกล่ะ ข้าให้เวลาพวกนายเพียงอึดใจเท่านั้น ถ้าไม่ส่งของมา พวกข้าจะลงมือทันที!” เหอหวู่เจียงแผดเสียงออกมาอย่างไม่สบอารมณ์

ในขณะที่กำลังพูด เหอหวู่เจียงส่งเสียงคุยกับราชายุทธ์ขั้น 9 อีกสองคนที่อยู่ข้างๆ “อีกเดี๋ยว ไม่ว่าพวกเขาจะส่งของมาให้หรือไม่ ต้องกำจัดพวกเขาให้หมด ส่วนผู้หญิงคนนั้น ใครจะเสวยสุขก่อน ดูว่าใครฆ่าได้เยอะกว่ากัน เป็นไง”

“หึหึ ความคิดนี้ไม่เลว” เพื่อนเหอหวู่เจียงทั้งสองคน ไม่คัดค้านข้อเสนอนี้

“ได้ยินว่าฮู๋ชิงชิงเป็นร่างอสูรฟ้า ชายที่มีอะไรกับเธอเป็นคนแรก จะได้พลังอสูรฟ้าบริสุทธิ์ ผลการฝึกตนพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก อีกทั้งว่ากันว่าร่างอสูรฟ้า ก็เป็นหนึ่งในเตากลั่นยาชั้นเลิศ ทั้งสองฝึกตนอย่างเท่าเทียม ผลการฝึกตนจะก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว”

เมื่อพวกเหอหวู่เจียงคิดได้เช่นนี้ ดวงตาทุกคนเป็นประกาย

หลังผลการฝึกตนถึงแดนราชายุทธ์ การจะบรรลุไปแต่ละแดน ล้วนยากเย็นแสนเข็ญ โดยเฉพาะคนที่ถึงระดับราชายุทธ์ขั้น9 อย่างพวกเขา อยากก้าวข้ามไปสู่แดนจักรพรรดิยุทธ์ ยิ่งเป็นอะไรที่ยากเย็นแสนเข็ญ

แต่หยวนหยินของร่างอสูรฟ้า เป็นโอกาสที่ไม่เลวอย่างไร้ข้อกังขา ไม่แน่อาจใช้โอกาสนี้ เข้าสู่แดนจักรพรรดิยุทธ์ก็เป็นได้!

เมื่อถึงแดนจักรพรรดิยุทธ์ อายุขัยราชายุทธ์ 1200 ปี ก็จะถึง 2000 ปี มีเวลาอีกยาวนาน ที่จะไปแสวงหาแดนโลกยุทธ์ที่สูงกว่านี้

เวลาเพียงไม่กี่อึดใจหมดลงแล้ว

คนเมืองฝูถูไม่ยอมส่งแหวนเก็บของกับนักยุทธ์มาให้ แต่ละคนมีลมปราณพลังจิตแท้อยู่รอบตัว สีหน้าเตรียมพร้อมรับมือ ท่าทางพร้อมรบ

เหอหวู่เจียงสีหน้าอึมครึม “ในเมื่อพูดด้วยดีๆไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ ลงมือ!”

เมื่อเหอหวู่เจียงออกคำสั่ง ศิษย์แดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด บริเวณรอบๆ จำนวนมาก ต่างมีแววตาโหดเหี้ยม พากันพุ่งเข้ามา

“ทุกคนจัดการฆ่า หนีไปได้เท่าไหนก็เท่านั้น!”

กู้เผิงแผดเสียงออกมา ดาบรบปรากฏขึ้นในมือ ฟาดลงมาเป็นดาบสีทองมากมาย

“พรวด!”

เลือดกระเซ็น ศิษย์แดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด ที่อยู่แดนราชายุทธ์ขั้น7 คนหนึ่ง โดนดาบของกู้เผิงฟันแขนจนขาด ตัวกระเด็นออกไป

“ไอ้เด็กนี่ช่างยอดเยี่ยม”

เหอหวู่เจียงหรี่ตาลง หายตัวแวบมาตรงหน้ากู้เผิง ความอาฆาตอันเหี้ยมโหด แผ่ออกจากตัวเขา กลายเป็นเงาขนาดใหญ่สีเลือด ปะทะกับกู้เผิงอย่างแรง

ใช้ความอาฆาตรวมตัวจนกลายเป็นเงาขนาดใหญ่ นี่เป็นทักษะยุทธ์ด้านการเข่นฆ่าประเภทหนึ่ง

ถึงพละกำลังของกู้เผิงจะแข็งแกร่ง แต่ผลการฝึกตนยังด้อยกว่าเหอหวู่เจียงอยู่บ้าง เมื่อเจอการโจมตีนี้ เขาจึงไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย ดาบรบในมือมีแสงสีทองสว่างวาบขึ้นมา ฟันไปยังเงาใหญ่นั้น

ตู้ม!

การเคลื่อนไหวพลังจิตแท้อย่างบ้าคลั่ง ทำให้พื้นที่บริเวณรอบๆ สั่นสะเทือนเพราะเสียงระเบิด

ดาบของกู้เผิงฟันเงาใหญ่จนแตกสลาย เขายกมือบีบฮู้จนแตก และกลายเป็นลำแสงสีทอง

“ยันต์โจมตีขั้น6 งั้นเหรอ”

เหอหวู่เจียงหน้าเปลี่ยนสี คิดไม่ถึงว่ากู้เผิงจะใช้สมบัติทันที

เมื่อเขายืนอย่างมั่นคง หลังจากถอยหลังมา ก็บีบฮู้จนแตกเช่นกัน ลำแสงสีเลือดสว่างวาบ ปกคลุมรอบตัว

แน่นอนว่าสิ่งที่เหอหวู่เจียงใช้ คือยันต์คุ้มกันขั้น6 เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจึงไม่ต้องกลัวพลังของยันต์โจมตีขั้น6 ยื่นมือออกไปคว้า ง้าวสีเลือดเล่มหนึ่งอยู่ในมือ และพุ่งไปข้างหน้าทันที

ระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่อึดใจ กู้เผิงโดนกระแทกจนกระเด็น กระอักเลือดออกมา อกขวาเป็นแผล เลือดไหลออกมา

ราชายุทธ์ขั้น8 กับขั้น9 แม้จะห่างกันเพียงแดนเล็กๆ แต่ความแตกต่างของพละกำลัง กลับยิ่งใหญ่มาก

กู้เผิงรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหอหวู่เจียง ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์ขั้น9 อีกสองคน กำลังจ้องเขม็ง ถ้าโดนล้อมโจมตีขึ้นมา เขาคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย

เมื่อคิดได้เช่นนี้ กู้เผิงกัดฟัน ยื่นมือออกมาบีบฮู้ให้แตกอีกครั้ง ร่างกายกลายเป็นลำแสง พุ่งไปยังขอบฟ้าอย่างรวดเร็ว

“จะหนีงั้นเหรอ”
เหอหวู่เจียงแสยะยิ้ม ใช้ฝ่าเท้ากระทืบพื้น เด้งตัวขึ้นไปข้างบน แต่กู้เผิงบินอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

“ให้ตายเถอะ ยันต์วาตะขั้น6 งั้นเหรอ”

สีหน้าของเหอหวู่เจียงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ถึงเขามียันต์วาตะขั้น6 เหมือนกัน แต่ของล้ำค่าแบบนี้ เอามาใช้ตอนไม่จำเป็น เขาเสียดายไม่อยากจะใช้ อีกอย่าง ถึงเป็นทายาทแดนศักดิ์สิทธิ์ ก็ใช่ว่าจะได้สมบัติชั้นสูงมาง่ายๆ

“หึ ถือว่าแกโชคดี หนีไปได้ก็ช่าง แค่ฮู๋ชิงชิงหนีไปไม่ได้ก็พอ”

เหอหวู่เจียงหันไปมองฮู๋ชิงชิง ที่กำลังโดนล้อมโจมตี สายตามองเรือนร่างบอบบางอย่างไม่หวาดกลัว

“ศิษย์พี่กู้เผิงหนีไปแล้ว!”

คนเมืองฝูถู เห็นกู้เผิงหนีไป แต่ละคนพากันจิตตก

เดิมทีในบรรดาพวกเขา มีกู้เผิงเพียงคนเดียว ที่เป็นราชายุทธ์ขั้น8 คนอื่นเป็นแค่ราชายุทธ์ขั้น7 และมีฮู๋ชิงชิงเป็นราชายุทธ์ขั้น5

แต่ฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด ไม่เพียงแต่จะมีจำนวนคนเยอะ อีกทั้งยังมีราชายุทธ์ขั้น9 สามคน นี่เป็นสถานการณ์ที่ต้องตายเท่านั้น!

“ทุกคนรีบหนีเร็ว!”

ไม่รู้ใครตะโกนออกมาเสียงดัง ศิษย์เมืองฝูถูที่เหลือสองสามคน ต่างพากันเอายันต์ขั้น6 ออกมาจากแหวนเก็บของ ตอนนี้ไม่สนใจว่าสมบัติจะล้ำค่าแค่ไหน ทุกคนพากันบีบให้แตกเพื่อกระตุ้น

“หึ ฉันวางค่ายกลเรียบร้อยแล้ว ใครก็หนีไม่รอด ส่วนไอ้คนที่หนีไป สุดท้ายก็ต้องตกอยู่ในมือเรา ไม่ช้าก็เร็ว”

ขณะนั้น ราชายุทธ์ขั้น9 ของแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดคนหนึ่ง ที่มีรอยบากบนหน้า แสยะยิ้มบนใบหน้า แล้วเอ่ยขึ้น

ขณะพูด เขาใช้มือบีบพลังตราประทับ ม่านแสงพุ่งขึ้นมารอบๆ ปิดกันอาณาเขตในรัศมีร้อยเมตร

“สวบ!สวบ!สวบ!”

ลำแสงพุ่งขึ้นไปบนฟ้า คนเมืองฝูถูใช้ยันต์วาตะ แต่โดนม่านแสงบนฟ้าขวางเอาไว้ ไม่สามารถพุ่งออกไปได้

“ค่ายยากเย็นขั้น5! เขาเป็นปรมาจารย์ค่ายกลขั้น5!”