“หม่อมฉันไม่มีบุญวาสนาเองเพคะ”
หลิงอวี้จื้อแสดงออกอย่างเคารพยิ่ง ที่นี่คือวังฉางเล่อ เซียวเหยี่ยนก็ไม่อยู่ เธอต้องเก็บดาบไว้ในฝักก่อน มิเช่นนั้นคนที่เสียเปรียบก็คือเธอ
“เมื่อก่อนอยู่ต่อหน้าเรา เจ้ามีเรื่องพูดมากมาย ตอนนี้ไยถึงระมัดระวังขนาดนี้ เมื่อก่อนเป็นอย่างไรก็จงเป็นอย่างนั้นเถอะ เราไม่มีเจตนาอื่น อวี้จื้อ เจ้าจะแต่งงานแล้ว เรามีของขวัญอย่างหนึ่งมอบให้เจ้า จื่ออี เจ้ายกของขวัญมาสิ”
“เพคะ ไทเฮา”
จื่ออีตอบรับครั้งหนึ่งก็ลุกขึ้นไปหยิบของขวัญ หลิงอวี้จื้อนั่งบนเก้าอี้อย่างค่อนข้างไม่สบายใจ จากลางสังหรณ์ ของขวัญนั้นย่อมไม่ใช่ของดีอะไรแน่นอน
รอสักครู่ จื่ออีก็อุ้ม**บไม้สีแดงเข้มเข้ามา **บไม้ใบไม่ใหญ่ ข้างในก็คงไม่ใช่ของชิ้นใหญ่อะไร จื่ออีเดินมาตรงหน้าหลิงอวี้จื้อ ยื่น**บไม้ให้หลิงอวี้จื้ออย่างเคารพ
“อวี้จื้อ เปิดดูสิว่าชอบหรือไม่”
หลิงอวี้จื้อได้แต่รับ**บไม้มา เธอเปิด**บไม้อย่างระมัดระวัง
อารมณ์เธอสับสนตลอดทั้งกระบวนการ กลัวว่าพอเปิดออกมาแล้วจะเห็นของอะไรที่ไม่สะอาด เธอยังเสียมารยาทไม่ได้ มู่หรงกวานเย่ว์ไม่มีทางให้ของขวัญเธอโดยไม่มีที่มาที่ไป ต้องมีจุดประสงค์แน่นอน มิเช่นนั้นคงไม่มีทางเรียกเธอเข้าเฝ้าด้วยซ้ำ
รอจนเธอเห็นของข้างใน**บไม้จนชัดเจนก็ตกใจจนไม่รู้จะพูดอย่างไรดี แม่เจ้า มู่หรงกวานเย่ว์โรคจิตเกินไปแล้วไหม!
นึกไม่ถึงว่าจะมอบยาเม็ดสีดำให้เธอหนึ่งเม็ด ใครจะไปรู้ว่ามันคือของบ้าบออะไร เธอไม่กล้ากินแน่นอน ดูจากเจตนาของมู่หรงกวานเย่ว์แล้ว เกรงว่าจะบังคับให้เธอกินลงไปตอนนี้เลย
“เราได้ยินว่าเมื่อคืนเจ้าเจอเรื่องทำให้เสียขวัญ นี่เป็นยาบำรุง ให้เจ้าไปบำรุงร่างกาย อวี้จื้อ ไม่นานเจ้าก็จะแต่งงานแล้ว ต้องดูแลร่างกายให้ดี”
หลิงอวี้จื้อปิด**บไม้ ตอบกลับอย่างเคารพ
“หม่อมฉันสุขภาพดีมากเพคะ ระยะนี้กินยาบำรุงไปมากโขแล้ว ท่านหมอบอกว่าหม่อมฉันไม่ควรบำรุงเพิ่มอีก ยานี้หม่อมฉันจะเอากลับไป ผ่านไปสักระยะหนึ่งค่อยใช้เพคะ”
“อวี้จื้อ เจ้าอายุสิบเจ็ดปีแล้ว แต่หน้าตาราวกับเด็ก บำรุงเอาไว้ถึงจะดี คนอื่นจะได้ไม่ยิ้มเยาะเซียวเหยี่ยน กินเสียเถิด!”
หลิงอวี้จื้อไม่ขยับ มู่หรงกวานเย่ว์หน้าเครียด
“อวี้จื้อ เจ้ากลัวว่ายาบำรุงนี้จะมีปัญหาหรือ”
“หม่อมฉันมิได้หมายความเช่นนั้นเลยเพคะ”
หลิงอวี้จื้อแอบสาปแช่งด่าทอมู่หรงกวานเย่ว์ในใจ กลัวเสียที่ไหน มันมีปัญหาตั้งแต่แรกแล้ว นึกไม่ถึงว่ามู่หรงกวานเย่ว์จะใช้เหตุผลที่ฟังดูดีเช่นนี้มาจัดการเธอ ตอนแรกยังนึกว่ามู่หรงกวานเย่ว์ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม ดูท่าแล้วตนเองไม่ได้เข้าใจมู่หรงกวานเย่ว์เลย
คราวนี้ขี่หลังเสือไปแล้วลงยากนัก ยานี้กินไม่ได้เด็ดขาด แต่มีคนตั้งมากมายจ้องมองอยู่ จะโกงก็ทำไม่ไหว มั่วชิงเองก็อยู่ข้างนอก
“ถ้าเช่นนั้นเหตุใดยังไม่กิน เราต้องเห็นเจ้ากินถึงจะวางใจ นี่เป็นน้ำใจจากเรา เจ้าอย่าทำให้เราผิดหวัง”
ดีกับผีสิ หลิงอวี้จื้อตอกกลับในใจ
เธอเปิด**บไม้ ทำหน้าลำบากใจพูดว่า
“ในเมื่อเป็นน้ำใจงดงามของไทเฮา หม่อมฉันย่อมปฏิเสธมิได้ เพียงแต่ยาเม็ดนี้ใหญ่เกินไปแล้วเพคะ รบกวนป้าจื่ออีรินน้ำให้ข้าสักถ้วย”
จื่ออีให้คนใช้ข้างๆ ไปรินน้ำทันที หลิงอวี้จื้อหยิบเม็ดยาสีดำออกมา
ยาเม็ดนี้ใหญ่จริง ใหญ่พอๆ กับเล็บหัวแม่มือ เพิ่งหยิบออกมาก็ได้กลิ่นสมุนไพรเข้มข้น สิ่งนี้มันคืออะไรกันแน่ เธอมั่นใจว่ายานี้กินแล้วคงไม่ถึงตาย แต่ร่างกายจะมีปัญหาอะไรไหมนั้นไม่แน่ใจ
ตอนแรกเธอคิดจะบีบยาเม็ดนั้นให้แตก แต่พอลองกำในมือดูแล้ว นึกไม่ถึงว่ายาเม็ดนี้แข็งราวกับหิน บีบไม่แตกเลยแม้แต่น้อย คราวนี้กระอักกระอ่วนใจจริงๆ แล้ว