คราวนี้เล่นใหญ่เสียแล้ว

เธอไม่สามารถรอมู่หรงนี่อวิ๋นที่นี่ได้ จะถ่วงเวลานานขนาดนั้นไม่ได้ ตอนนี้ได้แต่พึ่งตนเองแล้ว เธอวางยาลง อุ้ม**บไม้ ลุกขึ้นเดินไปตรงหน้ามู่หรงกวานเย่ว์แล้วคุกเข่าลงไปตามระเบียบ

 

 

“ขอบพระทัยไทเฮาที่พระราชทานยาเพคะ”

 

 

พูดจบก็โขกคำนับกับพื้นหนึ่งครั้งแล้วฉวยโอกาสนี้โยนยาลงพื้น จากนั้นก็จงใจใช้รองเท้าเหยียบไว้ พอลุกขึ้นมา เธอรับน้ำที่คนใช้ยื่นให้ ยื่นมือลงไปใน**บ สีหน้าเปลี่ยนทันที คุกเข่ากับพื้นอย่างตื่นตกใจ

 

 

“ไทเฮาโปรดประทานอภัย ยาเม็ดนั้นหายไปแล้ว หม่อมฉันไม่ดีเอง เรื่องนี้เป็นความสะเพร่าของหม่อมฉันเองเพคะ”

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์ลุกขึ้น เห็น**บไม้ว่างเปล่า ยังไม่โกรธ ลูกไม้นี้หลุดสายตานางไปได้อย่างไร นางยิ้มพูดว่า

 

 

“ไม่เป็นไร เราประทานยาให้ครั้งแรก หลิงซื่อตู๋ย่อมมีความประหม่า ยาบำรุงนี้มิได้มีแค่เม็ดเดียว จื่ออี ให้คนเอามาอีก”

 

 

จื่ออีปรบมือ ไม่นานก็มีแม่นมสูงวัยถือ**บไม้**บหนึ่งเข้ามา จื่ออีเปิด**บไม้ ข้างในนั้นอย่างน้อยมีถึงร้อยเม็ด

 

 

มุมปากหลิงอวี้จื้อยกขึ้น โกรธจนเกือบจะทุ่ม**บไม้ มู่หรงกวานเย่ว์เจ้าเล่ห์นัก เมื่อครู่จงใจแกล้งเธอเล่น นึกไม่ถึงว่ายานี้จะทำมาเป็นโขยง เธอจะโยนทิ้งก็โยนไม่ไหว

 

 

“ไทเฮาช่างเข้าอกเข้าใจผู้อื่นดีจริงเพคะ”

 

 

หลิงอวี้จื้อพูดพลางยิ้มปลอมๆ

 

 

“ในเมื่อยังมีเยอะขนาดนี้ อวี้จื้อ สู้เจ้ากินสักสองเม็ดไปเลยไม่ดีกว่าหรือ”

 

 

กินพ่อเธอสิ ยังจะบอกให้กินเพิ่มสองเม็ดอีก

 

 

แม่นมสูงวัยอุ้ม**บไม้เดินมาตรงหน้าเธอ ใบหน้าหลิงอวี้จื้อมีรอยยิ้ม ราวกับว่าในกล่องนี้บรรจุช็อคโกแลตชิพ

 

 

เธอหยิบขึ้นมาสองเม็ด ยัดทั้งหมดเข้าไปในปากจื่ออีที่ยืนอยู่ข้างๆ

 

 

จื่ออีคายมันออกมาแทบจะโดยสัญชาตญาณ นี่คืออะไร มันจะชัดเจนไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ถึงแม้ไม่ถึงชีวิต แต่ก็กินไม่ได้เด็ดขาด

 

 

“อุ๊ย ป้าจื่ออี นี่ยาบำรุงเชียวนะ เหตุใดถึงคายออกมาล่ะ ตรงนี้มียาบำรุงตั้งเยอะ ทิ้งไว้นานข้าเกรงว่าจะเสีย ตั้งใจหยิบมาสองเม็ดให้เจ้าชิม เจ้าเป็นคนเก่าคนแก่ของไทเฮา ไทเฮาย่อมโปรดปรานเจ้า แบบนี้ไทเฮาก็เสียน้ำพระทัยสิ”

 

 

เห็นหลิงอวี้จื้อใช้ลูกไม้ต่างๆ เพื่อหลบหลีก มู่หรงกวานเย่ว์ก็หมดความอดทน กล่าวว่า

 

 

“ในเมื่อหลิงซื่อตู๋กินไม่ลง เราคงทำได้เพียงให้คนมาช่วยแล้ว แม่นมกุ้ย เจ้าหาคนมาป้อนยาหลิงซื่อตู๋หน่อย”

 

 

“เพคะ”

 

 

แม่นมกุ้ยรับคำ ใช้มือเดียวจับแขนหลิงอวี้จื้อแน่น

 

 

แม้ว่าหญิงชราผู้นี้จะอายุมากแล้ว แต่พละกำลังเยอะอย่างน่าประหลาดใจ ประกอบกับร่างกายที่ดูแข็งแรง พอนางจับหลิงอวี้จื้อแล้ว เธอก็ขยับไปไหนไม่ได้เลย

 

 

หลิงอวี้จื้อร้องว้ากแล้วร้องไห้โฮ

 

 

“ข้าไม่อยากกินยา ข้าไม่กิน ไทเฮาเพคะ ขอร้องเถิดเพคะ อย่าให้ข้ากินยาเลยเพคะ”

 

 

ช่วยไม่ได้ ตอนนี้ได้แต่ดึงความสนใจมั่วชิงที่อยู่นอกประตูให้เข้ามา ยื้อเอาไว้ก่อนค่อยว่ากัน หากต้องรอมู่หรงนี่อวิ๋นจริงๆ เธอก็ไม่รู้ว่าต้องตายไปแล้วกี่หน

 

 

เสียงร้องบาดหูก้องกังวานภายในตำหนักใหญ่ มู่หรงกวานเย่ว์รำคาญจนขมวดคิ้ว ไม่รู้จริงๆ ว่าเซียวเหยี่ยนชอบอะไรนาง ถึงขนาดใช้การร้องไห้เสียงดังดึงดูดความสนใจคนที่อยู่รอบข้าง คราวนี้หากนางไม่กินยานี้ก็อย่าหลงคิดว่าจะได้ออกจากวังฉางเล่อเลย ไม่ว่านางจะแหกปากอย่างไรก็หนียานี้ไปไม่พ้น

 

 

มั่วชิงคอยเฝ้าสังเกตเสียงความเคลื่อนไหวข้างในอยู่ตลอด ได้ยินเสียงร้องไห้ตะโกนแว่วมา นางก็รีบบุกเข้าไป ทหารยามไม่ได้ห้ามนางเอาไว้ จึงรีบตามไป มั่วชิงเตะยาเม็ดในมือของแม่นมกุ้ยปลิว ดึงหลิงอวี้จื้อมาแล้วรัดคอมู่หรงกวานเย่ว์ทันที

 

 

“ถ้าเข้ามาอีก ข้าจะฆ่านาง”

 

 

เห็นมู่หรงกวานเย่ว์ถูกจับเป็นตัวประกัน ทหารยามที่กรูกันเข้ามาก็ไม่กล้าเดินหน้า ได้เพียงแต่ล้อมหลิงอวี้จื้อกับมั่วชิงไว้อย่างหนาแน่น

 

 

หลิงอวี้จื้อตะลึงงัน จี้ไทเฮาต่อหน้าธารกำนัล คราวนี้เล่นใหญ่เสียแล้ว