แดนนิรมิตเทพ บทที่ 599
เฉินโม่มองเจียงเหอซาน พูดอย่างนึกคิดว่า “คุณมาที่นี่ คงไม่ได้มาเพื่อเตือนฉันเรื่องนี้เท่านั้นหรอกใช่มั้ย?”

เจียงเหอซานชะงัก สายตาที่มองเฉินโม่มีความเอือมระอา เขารู้สึกว่าปฏิกิริยาของเจ้าหนุ่มตรงหน้าเกินความคาดหมายของเขา

เมื่อพูดคุยกับเขา ถึงขั้นสามารถทำให้เจียงเหอซานที่มีประสบการณ์โชกโชนรู้สึกมีแรงกดดันได้

“ดูแล้วคงจะปิดบังอะไรนายไม่ได้เลย บอกนายตามตรงแล้วกัน ตอนนี้นายมีแค่สองหนทาง ทางแรกมาเป็นบุคคลของทางรัฐบาล สร้างผลงานชดเชยความผิด ทางที่สอง ต่อต้านจนถึงที่สุด ต่อต้านกับทางรัฐบาลเพียงน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง!”

“นายเลือกอะไร?”

เฉินโม่มองเจียงเหอซาน แววตาลึกซึ้ง พูดตามจริง เมื่อเผชิญหน้ากับการชักชวนอย่างชัดเจนของเจียงเหอซาน เฉินโม่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“คุณทำแบบนี้ หกตระกูลมหาอำนาจแห่งยานจิงไม่คัดค้านงั้นหรอ? พวกเขาเกลียดฉันเข้ากระดูกดำเชียวนะ!”

เจียงเหอซานแสยะยิ้ม “หัวเซี่ย เป็นหัวเซี่ยของคนหัวเซี่ย ไม่ใช่หัวเซี่ยของหกตระกูลมหาอำนาจ คุณท่านในตอนนี้ฉลาดหลักแหลม จะต้องเลือกวิธีการจัดการที่เป็นผลดีต่อประเทศมากที่สุดแน่นอน”

“เพียงแค่นายตอบตกลงเข้าร่วมกับรัฐบาล หลังจากนี้ต้องรับข้อจำกัดจากทางรัฐบาล หากหกตระกูลมหาอำนาจทำการโจมตีนาย จะมีคนช่วยนายจัดการแน่นอน!”

เฉินโม่นึกคิดสักพัก การเข้าร่วมกับทางรัฐบาล เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเขาในตอนนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ เฉินโม่ไม่ชอบถูกคนอื่นจำกัดไว้

“ฉันเข้าร่วมกับพวกคุณได้ แต่ฉันต้องเป็นอิสระ ฉันจะไม่รับภารกิจที่พวกคุณสั่งมา แต่แน่นอนหากว่าฉันยินยอม อย่างนั้นก็ถือเป็นการจัดการอีกวิธี”

“ไม่ได้ ประเทศมีกฎหมาย บ้านมีกฎระเบียบ ในเมื่อนายเข้าร่วมกับรัฐบาลก็ต้องเชื่อฟังคำสั่ง ไม่อย่างนั้นพวกเราจะควบคุมคนอื่นได้อย่างไร!” เจียงเหอซานปฏิเสธคำขอของเฉินโม่อย่างเด็ดเดี่ยว

เฉินโม่พูดอย่างเสียดายว่า “อย่างนั้นก็ไม่มีทางเลือกละ ฉันไม่ชอบถูกจำกัดจากผู้อื่น”

เจียงเหอซานสีหน้าเย็นชา “นายมั่นใจ? หากว่านายปฏิเสธข้อเสนอของฉัน คนที่มาครั้งหน้าอาจจะเป็นคุณปู่ของนายและกองกำลังทหารที่เขานำทัพมา!”

เมื่อได้ยินคำนี้ เฉินโม่กลับหัวเราะออกมา ในแววตาแสดงออกให้เห็นถึงความหยิ่งผยอง นั่นเป็นศักดิ์ศรีที่มาจากผู้บำเพ็ญแดนดั่งเทพ ไม่อนุญาตให้มีปัญหาด้วย

“พวกคุณสามารถลองได้! ฉันสามารถทำให้ตระกูลหลี่เปลี่ยนผู้นำตระกูลคนใหม่ได้ และก็สามารถทำให้เปลี่ยนข้าราชการระดับสูงได้เช่นกัน!”

พลังอันทรงพลังอย่างหนึ่ง แผ่ซ่านออกมาจากตัวเฉินโม่ แม้จะเป็นเจียงเหอซานที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชน และออกคำสั่งทหารมานับล้าน ก็อดที่จะใจกระตุกไม่ได้

แรงกดดันนั้น ราวกับว่าออกมาจากจิตวิญญาณ เป็นความหวาดกลัวอย่างที่ชีวิตชั้นต่ำเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตชั้นสูงส่ง

เจียงเหอซานรู้สึกตะลึง แต่ใบหน้าของเขายังนิ่งเฉย ตะคอกเสียงเบาว่า “บังอาจ นายอยากจะกลายเป็นนักโทษในประวัติศาสตร์งั้นหรอ?”

เฉินโม่ยิ้มเยาะพูดว่า “ประวัติศาสตร์? นั่นคือประวัติศาสตร์ของพวกคุณ ไม่ใช่ของฉัน!”

เฉินโม่เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ราวกับว่าสายตาทะลุเพดานมองออกไปยังนอกจักรวาล

น้ำเสียงของเขาล่องลอยว่างเปล่า มีความรู้สึกดั่งจินตนาการ “ประวัติศาสตร์ของฉัน สามารถบันทึกไว้ได้แค่ในจักรวาลอันกว้างใหญ่นู้นเท่านั้น!”

“คุยโวโอ้อวด!” เจียงเหอซานต่อว่า เดิมทีเขาคิดว่าเฉินโม่เป็นอัจฉริยะที่สามารถฝึกฝนได้ แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าเฉินโม่เป็นเพียงคนหยิ่งยโสที่ไม่เห็นใครในสายตา!

แม้จะเป็นผู้อยู่ระดับสูงสุดในโลกฝึกบู๊ หรือหยางติ่งเทียนที่มีฉายานามว่าเทพสงครามยานจิง ยังไม่กล้าพูดอวดดีไปยันจักรวาล

ผู้ที่ยิ่งอยู่สูง ก็ยิ่งรับรู้ความลับมากยิ่งขึ้น และก็ยิ่งมีความเคารพต่อจักรวาลมากยิ่งขึ้นเช่นกัน

เฉินโม่ยิ้มเล็กน้อย “หากไม่เชื่อ พวกคุณลองดูก็ได้!”

เจียงเหอซานโมโหแล้วจริงๆ เดิมทีมีความคาดหวังต่อเฉินโม่สูงมาก ยังคาดหวังว่าเขาจะเป็นหยางติ่งเทียนคนที่สองของประเทศหัวเซี่ย

แต่ตอนนี้ เจียงเหอซานคาดหวังต่อเฉินโม่มากเท่าไหร่ ตอนนี้ก็ผิดมากเท่านั้น