แดนนิรมิตเทพ บทที่ 600
“นายรอก่อนแล้วกัน คำขอขอนายมากเกินไป ฉันต้องรายงานต่อเบื้องบนก่อน!” เจียงเหอวานท่าทางเย็นชา

ที่จริงแล้วอยากจะปฏิเสธเฉินโม่โดยตรงเลย แต่ก็ไม่อยากให้เป็นไปตามความต้องการของหลี่ตงหยาง สุดท้ายจึงตัดสินใจรายงานเงื่อนไขที่เฉินโม่เสนอมาให้กับคนผู้นั้นก่อน แล้วให้เขาตัดสินใจ

“ฉันจะรอ” เฉินโม่สีหน้านิ่งเฉย

เจียงเหอซานเหลือบมองเฉินโม่เป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็หันหลังจากไป

เพิ่งกลับถึงห้องด้านข้าง ชายหญิงคู่หนึ่งก็ปรากฏตัวออกมาจากที่ซ่อนทันที แล้วยืนอยู่เบื้องหลังเจียงเหอซาน

เจียงเหอซานหันไปมองทั้งสองคน พูดเสียงเข้มว่า “เจ้าหนุ่มคนนั้นมีความสามารถเป็นไงบ้าง?”

ชายวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมจีนสีดำพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “มิอาจคาดเดาได้ครับ!”

เจียงเหอซานขมวดคิ้ว แล้วหันไปมองหญิงสาววัยกลางคน “หากว่าพวกเธอทั้งสองคนสู้พร้อมกัน สามารถจัดการเขาได้มั้ย?”

หญิงสาวคนนั้นก้มหัวลงทันทีด้วยสีหน้าละอายใจ “ถึงแม้พวกเราสองคนงมือพร้อมกัน ก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะชนะค่ะ”

เจียงเหอซานขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม พูดอย่างประหลาดใจว่า “พวกเธอสองคนเป็นปรมาจารย์ทั้งคู่ ขนาดเผชิญหน้ากับหยางติ่งเทียน ยังไม่เคยได้ยินพวกเธอพูดเช่นนี้!”

ชายวัยกลางคนคนนั้นพูดอย่างขมขื่น “แม้หยางติ่งเทียนจะแข็งแกร่ง แต่ความสามารถของเขาพวกเราสามารถเห็นได้ชัด แต่ความสามารถของเจ้าหนุ่มคนนี้ พวกเรามองไม่ชัดเลยครับ เผชิญหน้ากับเขาราวกับเผชิญหน้ากับทะเลกว้างใหญ่ ทำได้เพียงแค่ใช้คำว่ามิอาจคาดเดาได้มาอธิบายเท่านั้นครับ!”

เจียงเหอซานสีหน้าเคร่งขรึม “อย่างนี้ก็หมายความว่าเขาแข็งแกร่งกว่าหยางติ่งเทียน?”

ชายหญิงส่ายหน้าพร้อมกัน “ไม่ทราบครับ/ค่ะ บางครั้งมีความสามารถก็ไม่อาจแบ่งแยกแพ้ชนะได้ ในขณะที่ต่อสู้ ต้องเปรียบเทียบปัจจัยหลายอย่างค่ะ”

“แต่เขามีความสามารถพอที่จะต่อสู้กับหยางติ่งเทียนได้แน่นอนครับ!”

เจียงเหอซานสีหน้าเคร่งเครียด แอบดีใจที่เมื่อกี้ไม่ได้ปฏิเสธเฉินโม่ในทันที”ดูแล้วฉันคงจะประเมินเขาต่ำไป!”

เจียงเหอซานหยิบเอาโทรศัพท์ชนิดพิเศษเครื่องเล็กออกมา ด้านในบันทึกไว้เพียงแค่เบอร์เดียวเท่านั้น นั่นก็คือคนผู้นั้น

“ท่านครับ สถานการณ์เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยครับ” เจียงเหอซานเดินไปขอบหน้าต่าง พูดอย่างเคารพ

ยานจิง จงหนานไห่ ภายในห้องแห่งหนึ่ง

คนผู้นั้นกำลังนั่งดื่มชาอยู่บนเก้าอี้ แล้วจู่ๆเจียงเหอซานก็โทรมา

“เกิดอะไรขึ้น?” คนผู้นั้นถาม

เจียงเหอซานน้ำเสียงเคร่งเครียดเล็กน้อย “เจ้าหนุ่มคนนั้นตกลงจะเข้าร่วมกับเรา แต่ขอไม่ถูกจำกัดจากทางเราครับ….”

เจียงเหอซานบอกข้อเสนอของเฉินโม่ให้กับคนผู้นั้นฟัง

สุดท้ายแล้วพูดซ้ำอีกว่า “ท่านครับ ข้อมูลที่เรารับรู้มาก่อนหน้านี้อาจจะมีข้อผิดพลาดครับ ความสามารถของเจ้าหนุ่มคนนั้นแข็งแกร่งมากกว่าที่เราคาดเดากันไว้มาก มากพอที่จะสามารถเทียบเคียงกับหยางติ่งเทียนได้!”

“ฮืม?” คนผู้นั้นแววตาสั่นไหว มีความตกใจ

เงียบสักพัก คนผู้นั้นก็พูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ตอบตกลงข้อเสนอของเขา”

เจียงเหอซานตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก พยักหน้าตอบรับว่า “ครับ!”

เมื่อวางสาย เจียงเหอซานก็นึกคิด “คุณท่านก็คือคุณท่าน เงื่อนไขแบบนี้ยังตอบตกลง มิใช่จิตใจที่คนทั่วไปสามารถมีได้จริงๆ!”

“พวกเธอรอฉันที่นี่ ฉันไปครู่เดียว” เจียงเหอซานเหลือบมองทั้งสองคน แล้วก้าวเดินออกไป

ภายในห้อง เฉินโม่ดื่มชาเงียบๆ แม้แต่ประตูก็ไม่ปิด ราวกับคาดเดาไว้แล้วว่าเจียงเหอซานจะต้องกลับมาอีก

“นายโชคดีมาก ท่านตอบตกลงข้อเสนอของนาย!” เจียงเหอซานหันไปมอง น้ำเสียงไม่ค่อยเป็นมิตร

“อ้อ ฉันรู้แล้วละ” เฉินโม่นิ่งเฉย ตอบกลับเรียบๆ แล้วดื่มชาต่อไป ราวกับว่าคำตอบนี้เป็นเหมือนดั่งที่เขาคาดการณ์ไว้

เจียงเหอซานหันข้างแล้วพูดว่า “นายไม่มีอะไรจะพูดงั้นหรอ? หรือว่าไม่ขอบคุณคุณท่านเลย?”

เฉินโม่วางแก้วชาลง มองเจียงเหอซานอย่างแปลกประหลาด แล้วยิ้มอย่างลึกลับ พูดว่า “คนที่ควรจะขอบคุณ คือเขา!แต่ว่า ‘คุณท่าน’ คนนี้ของพวกคุณถือว่าไม่เลว!”

เจียงเหอซานโมโหจนแทบจะบ้าคลั่ง ชี้หน้าเฉินโม่แล้วตะคอกว่า “นาย…..”

แต่ว่า สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ