ตอนที่ 473 : กวาด
ขั้นสุดท้ายและส่วนที่ยากที่สุดของเกมคือการทําลายเสาหลัก การวางหมากแต่ละตัวต้องใช้กลยุทธ์และเหตุผล การฝึกฝนของนาวิกเพื่อที่จะต่อสู้ทั้งแนวรบและแนวราบต้องมีแบบแผนเพื่อพร้อมที่จะป้องกันทุกเวลา
ในสตาร์คราฟมีกลยุทธ์การเคลื่อนไหวที่คล้ายกับการเล่นหมากรุก
อันที่จริงทุกคนเองสามารถเข้าถึงกลยุทธ์ได้เช่นกัน แต่สิ่งที่ต้องพึงระวังเลยคือการหลงกลของอีกฝ่ายและนอกจากนี้ ตัวผู้เล่นเองก็ต้องหลอกผู้เล่นให้หลงกล อาศัยทั้งจิตวิทยาและโชค
ในแง่ของเกมผู้เล่นพบว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย
เวอร์ชั่นดั้งเดิม เราสามารถค้นหาศัตรูได้จากเครื่องหมายสีแดงบนแผนที่เล็ก แต่ตอนนี้การมองเห็นนั้นยากขึ้น ตัวเกมเน้นการฝึกฝนและใช้งานของเหล่าทหารที่มีหน้าที่ที่ต้องทําแตกต่างกันไป
ฟางฉีส่งหน่วยสืบของเขาไปยังคู่ต่อสู้เพื่อยั่วยุและเบี่ยงเบียนความสนใจทั้งผู้เล่นและผู้ชม ขณะเดียวกันเขาเองก็สร้างปืนใหญ่ในจุดบอดของสายตาเช่นกัน
กูถิงหยุนถอนกําลังออกเมื่อตอนที่ฟางฉีกําลังจะสู้รางปืนใหญ่เสร็จแล้ว
ปืนใหญ่สี่กระบอกถูกสร้างขึ้นไว้ใกล้กับฐานของกูถิงหยุน คล้ายว่ามันเป็นเนื้องอกร้าย ถ้าพวกมันไม่ถูกทําลายกูถิงหยุนก็ไม่สามารถนํายานอวกาศออกมาได้
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะส่งกําลังออกไป พวกมันก็ยังคงทหารโพรทอสระดับต่ําที่สุดอยู่ดี เนื่องจากการโจมตีและการป้องกันของเขายังไม่ได้มีการพัฒนา
ฟางฉีฆ่าเหล่าทหารทั้งหมดและเขาสูญเสียปืนใหญ่ไปเพียงแค่ลําเดียว! ปืนใหญ่ของฟางฉีมันยิงเข้ายานอวกาศพลางสร้างอีกอันขึ้นข้างฐานของกูถิงหยุนต่อ
“….”
ผู้ชมที่ยืนมองจากข้างหลังหลายคนมีใบหน้าที่เป็นสีแดงก่ํา คล้ายว่ากําลังกักเก็บความโกรธ พวกเขารู้สึกแค้นและอยากจะบีบคอเจ้าของร้านให้รู้แล้วรู้รอด
กูถิงหยุนออกจาเกมและถอดหูฟังเสมือนจริงทันที
ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงกระโดดเตะเก้าอี้ฟางฉีล้มไปแล้ว
ฟางฉีถอดหูฟังออกและหันหน้าไปมองกลุ่มคนที่กําลังมองเขาเป็นตาเดียว
พวกเขาไม่พอใจ!
ทําไมเขาถึงฉลาดแกมโกงนัก!
“มันไม่ยุติธรรม!” ซูวโมโวยวาย “มันเป็นการชนะที่ใช้เล่ห์กล สงครามมที่แท้จริงต้องมั่นคง เจ้าใช้อุบายเช่นนี้ตอนเล่นเกมได้อย่างไร!?”
“ใช่ ถ้ามันเป็นทรงครามจริง ต้องมีฐานที่มั่นคงกว่านี้สิ” ซุนหยุนทําหน้าสงสัย
ผู้ชมสังเกตเห็นฟางฉีไม่มีแม้แต่ป้อมป้องกันหรือทหารยาม เขามีเพียงแค่ทหารหน่วยสืบเพียงอย่างเดียวแต่ดันเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ สงครามแบบนี้ใครอยากจะทําด้วย ถ้าตระกูลโบราณทําเช่นนี้ เขาคงจะถูกทําลายไปนานแล้ว!
“ข้าคิดว่าควรมีอีกตา” มู่ชิงตัดบท
“ข้าก็คิดเหมือนกัน อีกตา!” หลายคนสนับสนุนความคิดเธอ
กูถิงหยุนกล่าว “อีกสักรอบมั้ย?”
ตามคําเรียกร้อง พวกเขาเริ่มแข่งขันกันอีกครั้ง
คราวนี้กูถิงหยุนไม่รอช้าที่จะจับตาดูกลอุบายของฟางฉี เขาเลือกแผนที่เขาเคยเล่นคือหนึ่งต่อเจ็ดและยังคงเลือกโพรทอสเช่นเดิม เขาเลือกตั้งฐานทัพของเขาในหุบเขาที่มีช่องทางออกเพียงทางเดียว เชาเลือกที่จะปิดกั้นทางด้วยปืนใหญ่ เพื่อให้ใครเข้ามาภายใต้การดูแลป้องกันหอคอยได้
ในส่วนของฟางฉี เขาพบว่าคู่ต่อสู้ของเขากําลังสร้างปืนใหญ่ เขาเองต้องดึงกลยุทธ์ออกมาใช้อย่างเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็นการยอมรับความพ่ายแพ้
ในการแข่งขันครั้งนี้ดูเหมือนฟางฉีจะใช้ท่าทางและคําสั่งมาตรฐาน เขาแลกเปลี่ยนการโจมตีหลายรอบกับคู่ต่อสู้ แม้ว่าฟางฉีจะมีทักษะดีแต่เขาไม่ต้องการที่จะแข่งขันใดๆ กับปรมาจารย์
ปรมาจารย์กูถิงหยุนแม้เขาจะผ่านประสบการณ์มามากแต่การเล่นในแบบก่อนหน้านี้เองเขาก็ไม่เคยเจอเหมือนกันโชคดีที่เรียนรู้เร็ว การวางแผนในครั้งใหม่จึงไม่ใช่เรื่องยากสําหรับเขา
ด้วยการจัดการที่เริ่มดีขึ้น เขาสามารถควบคุมทหารของเขาพร้อมๆ กับสับกระสุนไปด้วยฉากตรงหน้าดูตื่นเต้นทั้งทักษะและเอฟเฟคที่ปรากฏขึ้น
การดําเนินงานเกือบจะไร้ที่ติ
คราวนี้การสุ่มตัวเลือกให้ฟางฉีนั้นเป็นเผ่าเทอแร้นซึ่งเป็นเผ่าที่กูถิงหยุนไม่เคยทําการต่อสู้มาก่อนหน้านี้ ฟางฉียังคงก้าวต่อไปด้วยความมั่นคง
ยี่สิบนาทีต่อมา ..
“ข้าบอกแล้วว่าเจ้าของไม่ถนัดด้านนี้หรอก”
“ดูนั่นที่ฐานของผู้อาวุโส!”
“ยานอวกาศใหญ่มาก”
“ยานอวกาศมากมาย”
พวกเขาพูดกันพลางหันไปมองฟางฉี
“เจ้าของมียานอวกาศไม่กี่ลําเอง”
“เหมือนว่าท่านกูถิงหยุนจะแค้นใจจริงๆ”
หน้าจอของกูถิงหยุนเต็มไปด้วยยานอวกาศ แสดงให้เห็นถึงความแข่งแกร่งของเศรษฐกิจ ตรงกันข้ามฟางฉีนั้นยังคงเป็นกองทหารแบบผสมคือมีทั้งทหารอากาศและภาคพื้นดิน
“ข้าแน่ใจว่าเจ้าของร้านจะต้องแพ้แน่!” ผู้ชมเอ่ยขึ้นหลังจากเฝ้าดูการผสมผสานกองกําลังของฟางฉี
พวกเขาตื่นเต้นเมื่อเห็นกูถิงหยุนนําทัพยานอวกาศโจมตีศัครู ยานอวกาศค่อยๆ ออกตัวช้าๆ เรียงรายล้อมเหมือนคลื่นบดบังดวงอาทิตย์
ยานอวกาศกลุ่มใหญ่กําลังโจมตีด้านหนึ่งของฐานทัพ ยานสกัดบินออกมาจากยานแม่ มันรุมล้อมคล้ายตัวแมลงที่กําลังก่อกวน ในชั่วพริบตาอาคารหลังใหญ่ของฟางฉีได้พังลงรวมไปถึงกําลังเสริมที่ถูกทําลาย
พวกมันกวาดใจกลางของฐานทัพด้วยพลังมหาศาจ