ตอนที่ 1553

Monster Paradise

หลินฮวงนำกลุ่มเขาสามคนเดินหน้าหลังทิ้งหลานหลิงกับถูทงวไว้ด้านหลัง

 

หลังโดนมอนสเตอร์โจมตีสองรอบ ในที่สุดพวกเขาก็เห็นร่องรอยที่ทิ้งไว้โดยเถาวัลย์จิตวิญญาณปีศาจที่หลานหลิงพูดถึง

 

“ข้าคิดว่ามันควรถูกทิ้งไว้หลายวันแล้ว ไม่มีกลิ่นอายหลงเหลือเลย และไม่มีร่องรอยของพลังเทวะกับพลังกฏเทพแถวนี้ด้วย”จิ่วเจี้ยนพูด

 

“ไม่ว่าร่องรอยจะถูกทิ้งไว้โดยเถาวัลย์จิตวิญญาณความตายหรือไม่ มันก็ควรผ่านไปสักพักแล้ว”หลินฮวงพยักหน้า”มันอาจไม่อยู่แถวนี้อีกแล้ว”

 

“ยังไงเราก็มากันแล้ว มาดูรอบ ๆ กันเถอะ”เวอชุโอโซดูเหมือนจะไม่พอใจที่พวกเขาต้องเสียเวลาฟรี

 

หลินฮวงกับจิ่วเจี้ยนไม่ค้าน ทั้งหมดเดินหน้าต่อ ตามทางที่ร่องลึกยืดออกไป

 

หลังเดินทางสักพัก ในไม่ช้าพวกเขาก็พบบางอย่างผิดปกติ

 

“ไม่มีมอนสเตอร์สักตัวแถวนี้ ไม่แม้แต่ต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาล”หลินฮซงขมวดคิ้วเล็กน้อยและอดกังวลไม่ได้”นี่ปกติไหม?”

 

“มันแปลกมาก”จิ่วเจี้ยนตอบก่อนเวอชุโอโซจะพูด

 

“เราสามารถตรวจสอบได้หรือไม่ว่าสถานการณ์เป็นไง?”หลินฮวงจับจ้องเวอชุโอโซ

 

“เราไม่สามารถยืนยันอะไรได้ในขณะนี้”เวอชุโอโซส่ายหัวและตอบในแง่ลบ

 

คิ้วของหลินฮวงยกขึ้นตอนได้ยินคำตอบนี้ เขาไม่พูดอะไรอีกหลังจากนั้น

 

เห็นได้ชัดว่าเวอชุโอโซมีการคาดเดาบางอย่างแต่ยังยืนยันไม่ได้

 

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มันไรปะโยชน์ที่จะกดดันพวกเขาต่อไป

 

ถ้ามีสิ่งจำเป็นที่พวกเขาต้องรู้ เวอชุโอโซย่อมบอก

ทั้งสามเดินหน้าต่อ แต่ก็มีแค่ความเงียบ ไร้สิ่งมีชีวิตใดปรากฏภายในระยะของจิตเทวะพวกเขา

 

ไม่เพียงจะไม่มีมอนสเตอร์ แต่ยังไม่มีต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาลหรือเถาวัลย์สักตัว

 

หลินฮวงยังสงสัยว่าพวกเขาได้ออกจากพื้นที่ป่าต้นเฟอร์ปีศาจแล้วหรือเปล่า

 

ทั้งสามบินอยู่ในลักษณะนี้เป็นเวลากว่าสิบนาทีก่อนจิตเทวะพวกเขาจะสัมผัสได้ถึงความหนาแน่นของป่าต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาลด้านหน้า

 

พวกเขาระวังตัวทันทีที่เห็นป่าต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาลอีกครั้ง

 

ความผิดปกติใดที่เกิดขึ้นหมายความว่าอาจมีบางอย่างผิดปกติ!

 

ตามคาด ก่อนพวกเขาจะไปได้ไกลกว่านี้ พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงมอนสเตอร์ตัวโตที่ซ่อนในป่าภายในระยะสัมผัสของพวกเขา

 

มันเป็นมอนสเตอร์คล้ายกับงูเหลือมยักษ์ เส้นผ่านศูนย์กลางลำตัวมันกว้างอย่างน้อยสามเมตร

 

แม้พวกเขาจะสัมผัสได้แค่ส่วนหนึ่งของร่างกายมัน พวกเขาก็เดาได้ว่ามอนสเตอร์ตัวนี้คือตัวที่ทิ้งร่องรอยไว้

 

 

ตัดสินจากกลิ่นอายมัน หลินฮวงกับคนอื่นมั่นใจว่ามอนสเตอร์ตัวนี้คือเถาวัลย์จิตวิญญาณความตาย

 

มันเป็นเถาวัลย์จิตวิญญาณที่ใหญ่ผิดปกติ!

 

แทบจะทันทีที่จิตเทวะพวกเขาจับเข้ากับมัน มันก็ตระหนักถึงจิตเทวะพวกเขาเช่นกัน

 

ในเวลาเดียวกัน หลินฮวงกับคนอื่นก็รู้สึกถึงจิตเทวะรุนแรงที่กวาดมา จับเข้ากับพวกเขา

 

สีหน้าพวกเขาพลันเปลี่ยนไป พวกเขาสัมผัสได้ชัดว่าพลังจิตเทวะของสิ่งมีชีวิตตัวนี้เกินกว่ามาตรฐานของเทพสวรรค์

 

ขณะที่จิตเทวะจับเข้ากับพวกมัน พลังกดดันที่น่ากลัวก็กดลงมา

 

ทั้งสามรู้สึกถึงน้ำหนักที่กดทับไหล่ ราวกับมีบางสิ่งที่หนักมากกดทับพวกเขา

 

การสะกดข่มนั้นรุนแรงจนมันรู้สึกยากจะทานทน ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวพวกเขาโดยตรง

 

ต่อหน้าคลื่นการยับยั้งเช่นนี้ กระบี่ยาวควบแน่นในมือจิ่วเจียน ตั้งแต่หัวจรดเท้า กฏสวรรค์เต๋ากระบี่ของเขาระเบิดออกมา ขณะที่พลังกระบี่ของเขาพุ่งทะยาน ต่อต้านการสะกดข่มนี้

 

ในทางกลับกัน ร่างกายของเวอชุโอโซก็เริ่มเลือนราง ทั้งตัวของเขาปรากฏเป็นภาพลวงตาที่ซ้อนทับกันหลายชั้น มันดูน่าขนลุกมาก

 

แทนที่จะต่อต้านแบบจิ่วเจี้ยน เวอชุโอโซเลือกถ่ายแรง เขาใช้ภาพลวงตานับไม่ถ้วนเพื่อแบ่งเบาแรวงกดดัน  พลังที่หลงเหลือถึงตัวเขาจึงแทบไม่มีอยู่

 

ในขณะเดียวกัน หลินฮวงได้ควบแน่นกฏสวรรค์เต๋าดาบภายในตัวเขา สร้างดาบในมือ พลังดาบน่ากลัวแผ่จากตัวเขา ควบแน่นเป็นเงาดาบกว้างสีแดงเลือดเหนือหัว

 

เงาสวมเกราะสีแดงเลือด และดาบก็คล้ายกับเนบิวล่า ดาบที่หลินฮวงกวัดแกว่งถึง 90 %

 

แต่ทว่า เงากลับโดนห่อหุ้มด้วยหมอกแดงจนมองไม่เห็นหน้าชัด

 

จิ่วเจี้ยนกับเวอชุโอโซตกตะลึงตอนเห็นเงาควบแน่นเหนือหัวหลินฮวง

 

โดยธรรมชาติ พวกเขารู้ว่าเงานี้หมายถึงอะไร

 

นี่คือการจำแลงของเจตจำนงเต๋า มีเพียงยอดฝีมือที่สัมผัสถึงเต๋าแล้วถึงแสดงเจตจำนงเต๋าออกมาได้

 

การปรากฏตัวของเงาพิสูจน์ว่าเต๋าดาบของหลินฮวงได้แตะธรณีของเต๋าแล้ว

 

แม้กระทั่งหลินฮวงก็ยังคิดว่ามันแปลกตอนเขาเห็นปรากฏของเงา แน่นอน เขารู้ว่ามันคืออะไร แต่ทว่า เขารู้ว่าการสำแดงเจตจำนงมหาเต๋ามีส่วนเกี่ยวกับระดับเต๋าดาบเขาน้อยมาก

 

เหนือสิ่งอื่นใด กฏสวรรค์เต๋าดาบของเขาเพิ่งก้าวข้ามขีดจำกัดของหัวใจสวรรค์ เขายังห่างไกลจากการไปถึงเต๋าสวรรค์มาก

 

การปรากฏของเจตจำนงมหาเต๋าอาจเกิดจากการปรากฏของผนึกดาบภายในตัวเขา

 

แต่ทว่า เขาไม่มีเวลายึดติดกับเรื่องนี้เพราะเขาต้องเผชิญหน้ากับศัตรู

 

หลังการปรากฏของเจตจำนงเต๋า การสะกดข่มจากเถาวัลย์ก็หายไปโดยสิ้นเชิง นี่ยังเพิ่มความมั่นใจให้หลินฮวง

 

เขาไม่พอใจกับแค่การลบแรงกดดัน จากสิ่งที่เขาเห็น ทั้งสามจะถูกโจมตีไม่ช้าก็เร็วเนื่องจากจิตเทวะของมันได้จับเข้ากับพวกเขาแล้ว

 

เขาฉวยโอกาสลงมือตอนที่แรงกดดันหายไปก่อนศัตรูจะได้เคลื่อนไหว

 

เขาไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

 

ดาบในมือของเขาเปลี่ยนเป็นดาบยาวแคบ

 

ด้วยอาวุธในมือทั้งสองข้างเขา เขาเปลี่ยนเป็นสายฟ้าสีแดงเลือดขณะพุ่งใส่เถาวัลย์จิตวิญญาณความตาย

 

แทบจะทันที ร่างจำแลงขนาดยักษ์เหนือหัวเขาขยับเช่นกัน ทำเหมือนกับที่เขาทำไม่มีผิด

 

ในเวลาเดียวกับที่หลินฮวงขยับ เถาวัลย์จิตวิญญาณความตายก็ขยับตัวเช่นกัน

 

หวายนับไม่ถ้วนพุ่งออกไปเหมือนงู กวาดใส่ทั้งสามเหมือนคลื่น

 

ในเวลาเดียวกับที่เถาวัลย์จิตวิญญาณความตายโจมตี ต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาลในป่าก็ยังยื่นกิ่งก้านพวกมันด้วย

 

เทียบกันแล้ว หลินฮวงดูเหมือนมดโดดเดี่ยวท่ามกลางคลื่นทะเล เขาดูเล็กจ้อย

 

ด้านหลังเขา เวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยนไม่คาดคิดว่าเขาจะบุ่มบ่ามขนาดนี้

 

เขาชักดาบออกเพื่อฆ่าโดยไม่พูดสักคำ

 

แต่ทว่า หลังล่าช้าชั่วขณะ พวกเขาก็ตอบสนองทันที

 

ทั้งสองมองหน้ากันและเข้าใจว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่

 

เมื่อเจอกับศัตรูที่ทรงพลัง มันไม่มีทางหนี มันมีแค่การต่อสู้!

 

คลื่นกระบี่สีทองปกคลุมท้องฟ้าร่วมกับฝ่ามือสีขาวนับไม่ถ้วน โจมตีใส่คลื่นหวาย เปิดเส้นทางให้หลินฮวง…