ตอนที่ 1554

Monster Paradise

หวายกับกิ่งไม้นับไม่ถ้วนพัวพัน ปกคลุมทั้งท้องฟ้า ซัดเหมือนคลื่น

หลินฮวงกับอีกสองเหมือนเรือลำน้อยสามลำที่แล่นผ่านคลื่นทะเลปั่นป่วน ดูราวกับจะจมได้ตลอดเวลา

 

ต่อหน้าศัตรูที่น่าจะเป็นกึ่งจ้าวเทวะ ทั้งสามไม่แสดงความกลัวเลย

 

หวายนับไม่ถ้วนบดขยี้เป็นฝุ่นผงเมื่อโดนคลื่นดาบของหลินฮวงกลืนกิน

 

ในขณะเดียวกัน เวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยน ผู้อยู่ด้านหลังเขาทั้งสองด้านก็ไม่สะกดกลั้นเช่นกัน คลื่นกระบี่กับคลื่นฝ่ามือปกคลุมท้องฟ้าด้วยแสงสว่างสีขาวและทอง

 

ทั้งคู่ใส่พลังเต็มที่เพื่อเปิดโอกาสให้หลินฮวงได้โจมตี

 

ทั้งสามล้อมศัตรูอยู่ด้านหน้า และฉีกคลื่นการโจมตีด้วยพลัง

 

ถ้ามองจากด้านบน มันราวกับเส้นด้ายสีทอง แดงและขาวกำลังสู้กับกระแสน้ำปั่นป่วนโดยไม่หยุดชะงักสักนิดระหว่างทาง

 

อึดใจต่อมา ด้ายก็โผล่พ้นเหนือคลื่น

 

หลินฮซงกับอีกสองเห็นตัวการที่ทำการโจมตีได้ มันคือเถาวัลย์จิตวิญญาณความตาย

 

ภายในป่าต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาลที่ตอนนี้ย่อยยับ เถาวัลย์จิตวิญญาณยักษ์ดูเหมือนจะจ้องทั้งสามเหมือนงู

 

หลินฮวงกับอีกสองยังไม่เห็นทั้งตัวมัน แต่แม้มันจะหลบซ่อนในเงามืด พวกเขาก็ยังสามารถเห็นเกล็ดบนตัวมันที่ดูเหมือนมังกรได้

 

ถ้าไม่ใช่เพราะจิตเทวะมีสัมผัส พวกเขาอาจคิดว่ามันคือมอนสเตอร์เผ่ามังกรไปแล้วถ้าไม่เห็นกับตาตัวเอง

 

แต่ทว่า เวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยนรู้ดีว่าเถาวัลย์จิตวิญญาณความตายตัวนี้มีเกล็ดเช่นนี้บนผิวมันน่าจะเพราะมันกินมอนสเตอร์เผ่ามังกรหรือศพมอนสเตอร์เผ่ามังกรไป

 

เมื่อมันเห็นพวกหลินฮวงเข้าใกล้ พลังกับความถี่การโจมตีของมันก็พุ่งถึงจุดสูงสุดแทบทันที

 

แต่ทว่า หลินฮวงก็ได้ตั้งท่าป้องกันแล้วและกระจกก็ปรากฏเป็นโล่ด้านหน้าทั้งสาม ขวางการโจมตีทั้งหมด

 

หวายกับกิ่งก้านนับไม่ถ้วนสะท้อนกลับตอนพวกมันฟาดใส่กระจก ดีดใส่ร่างใหญ่โตของเถาวัลย์จิตวิญญาณความตาย

 

“เจ้าตัวนี้ไม่ใช่กึ่งจ้าวเทวะ!”หลินฮวงยืนยันได้ทันทีที่เห็นว่ากระจกได้ผล เขาแบ่งปันข่าวกับพวกเวอชุโอโซผ่านคลื่นเสียง

 

เวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยนได้มีข้อสงสัยตอนทั้งสามสามารถฉีกผ่านคลื่นหวายได้แล้ว แต่ทว่า พวกเขายังพิจารณาว่าเนื่องจากพวกเขาเพิ่งโจมตีกัน เถาวัลย์ก็อาจไม่ได้เอาจริง พลังโจมตีมันจึงอ่อนแอ

แต่ทว่า ตอนนี้ทั้งสามแทบจะเดาได้แล้ว

 

ด้วยตรรกะปกติทั้งหมด มันเป็นไปไม่ได้ที่เถาวัลย์จิตวิญญาณนี้จะออมมือ ตอนนี้ พลังของการโจมตีมันต้องเป็นมาตรฐานปกติ อาจแกร่งขึ้นด้วยซ้ำ

แต่ทว่า การโจมตีมันทำลายการป้องกันของกระจกหลินฮวงไม่ได้ มันชัดเจนว่าระดับพลังมันยังไม่ถึงกึ่งจ้าวเทวะ

 

ทั้งสามถอนหายใจโล่งอกหลังยืนยันว่าเถาวัลย์จิตวญญาณความตายไม่ใช่กึ่งจ้าวเทวะ แต่เป็นแค่ยอดฝีมือระดับเก้าขั้นสูงสุด

 

พวกเขามองหน้ากันและมันดูเหมือนว่าพวกเขาจะอ่านความตื่นเต้นในดวงตากันและกันได้

 

ตอนนี้ พวกเขาไม่หลงเหลือความกลัวที่จะสู้กับจ้าวเทวะอีก ความกระตือรือร้นในการล่าของทั้งสามพลันพุ่งทะยาน

 

พวกเขาไม่เคยพบเทพสวรรค์ระดับเก้าขั้นสูงสุดมาก่อน มันเป็นศัตรูที่ทรงพลังสุดที่พวกเขาเคยสู้ ซึ่งทำให้ความตั้งใจต่อสู้พวกเขาพุ่งทะยาน

 

เถาวัลย์จิตวิญญาณความตายยังสัมผัสได้ถึงเจตนาของทั้งสามและเริ่มโกรธ

 

หวายนับไม่ถ้วนสะบัดมาจากทุกทิศทาง กระหน่ำใส่พวกเขาเหมือนพายุฝน

 

หลินฮวงขยับนิ้วเล็กน้อยและกระจกก็เปลี่ยนเป็นทรงกลมทันที ห่อหุ้มตัวเขา เวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยน มันตอบโต้การโจมตีรอบนี้ได้อย่างไร้ที่ติ

 

“พลังเทวะกับพลังกฏเทพเจ้ามากพอป้องกันการโจมตีเช่นนี้ได้ด้วย?”เวอชุโอโซอดถามไม่ได้

 

นอกจากนี้ จิ่วเจี้ยนเองก็มีข้อสงสัยเหมือนกัน เขามองหลินฮวงด้วย

 

“ข้าจะบอกล่วงหน้าถ้าข้าทนไม่ไหว”สีหน้าหลินฮวงไร้ความกังวล”ข้าไม่ใช่คนที่ดื้อรั้นจนกลัวการยอมรับความพ่ายแพ้”

 

ทั้งคู่โล่งใจเพราะสามารถบอกได้จากสีหน้าหลินฮวงว่าเขารับมือได้

 

ในความเป็นจริง การโจมตีของเถาวัลย์จิตวิญญาณความตายก็คงอยู่ไม่นานเช่นกัน

 

มันดูเหมือนจะสัมผัสว่าการโจมตีมันทำลายการป้องกันของหลินฮวงไม่ได้และเลิกพยายามหลังผ่านไปห้านาที

 

เหนือสิ่งอื่นใด การโจมตีด้วยความถี่เช่นนี้จะสร้างภาระให้มากอย่างมาก

 

สำคัญสุด ทักษะป้องกันของหลินฮวงนั้นป่าเถื่อน การโจมตีมากมายถูกสะท้อนกลับ ผลกำไรไม่ได้ชดเชยกับความสูญเสีย แม้การโจมตีที่สะท้อนจะไม่สามารถทำร้ายเถาวัลย์ได้ในระดับกายภาพ แต่พลังเทวะกับพลังลำดับเทพมันก็ลดลงเพื่อป้องกันตัวมันเอง

 

เมื่อสังเกตเห็นว่าการโจมตีของเถาวัลย์จิตวิญญาณความตายอ่อนลง หลินฮซงพลันสลายกระจกที่ห่อหุ้มตัวพวกเขา

 

เขาไม่รู้ว่าเวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยนคิดอะไรอยู่ในใจ แต่สำหรับเขา มันคือสมบัติ

 

เถาวัลย์จิตวิญญาณความตายระดับเทพสวรรค์ขั้นสี่ก่อนหน้ามอบพลังกฏเทพกว่าแสนให้เขา จำนวนกฏภายในเถาวัลย์ระดับเก้าขั้นสูงสุดย่อมประเมินไม่ได้

 

แต่ทว่า สิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือเวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยนจะสู้กับมันด้วย

 

ทันทีที่กระจกสลาย เวอชุโอโซก็เปิดฉากโจมตีเถาวัลย์ก่อนหลินฮวงจะได้ตอบสนอง

 

ฝ่ามือขาวคล้ายหยกฟาดออกไป เปลี่ยนเป็นเงาฝ่ามือนับหมื่นในอากาศ ระเบิดใส่เถาวัลย์จิตวิญญาณความตาย

 

แทบจะทันทีกับที่เวอชุโอโซโจมตี คลื่นกระบี่สีทองนับไม่ถ้วนควบแน่นตรงหน้าจิ่วเจี้ยน พุ่งใส่เถาวัลย์เหมือนพายุ

 

หลินฮวงเองก็สับสนว่าทำไมทั้งสองถึงกระตือรือร้นยิ่งกว่าเขา

 

โดยปกติ เขาย่อมไม่ล่าช้า ถ้าพวกเขาฆ่ามอนสเตอร์ตัวนี้ เขาอาจต้องใช้เวลาหลายวันเพื่อชดเชยสิ่งที่เสียไปนี้

 

เขาโจมตีโดยไม่ลังเลและมันก็เป็นการโจมตีที่ทรงพลังมาก

 

เขาอัดพลังลำดับเทพ 11 สายและกฏสวรรค์เต๋าดาบลงไป

 

แสงสีแดงเลือดส่องสว่างบนดาบ

 

พลังของการโจมตีเหมือนดวงอาทิตย์สีแดงเลือดที่ตกใส่โลก แม้กระทั่งหมอกรอบหลินฮวงก็ยังสลายไป

 

ในขณะเดียวกัน เจตจำนงมหาเต๋าที่ถือดาบเหนือหัวเขาก็ทำเหมือนกันกับเขา

 

ดาบในมือมันเปล่งแสงสีแดงที่ส่องสว่างออกไปไกลสุดลูกตา

 

คลื่นแสงสีแดงสองสาย หนึ่งใหญ่หนึ่งเล็กค่อยๆผสานกัน เมื่อหลินฮวงสะบัดดาบ คลื่นแสงก็เปลลี่ยนเป็นคลื่นดาบไร้เทียมทานที่ระเบิดออกไป

 

เถาวัลย์จิตวิญญาณความตายดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามร้ายแรง มันละทิ้งการรับมือกับการโจมตีของเวอชุโอโซและจิ่วเจี้ยน ส่งหวายทั้งหมดของมันออกไป พยายามป้องกันตัวมันจากหลินฮวง

 

แต่ทว่า หวายทั้งหมดกลับเปลี่ยนเป็นผุยผงเมื่อคลื่นดาบพุ่งผ่าน พวกมันไม่สามารถขวางการโจมตีได้เลย แถมการโจมตีก็ไม่ช้าลงแม้แต่น้อย

 

เมื่อสัมผัสว่าการป้องกันมันล้มเหลว เถาวัลย์จิตวิญญาณความตายก็คิดหนี แต่ทว่า มันไม่สามารถหนีได้ทันเพราะมันตัวใหญ่เกิน

 

แทบจะทันทีกับที่ความคิดหนีเข้าหัว ตัวมันก็โดนคลื่นดาบสีแดงเลือดกระแทก คลื่นดาบเจาะผ่านตัวมันโดยไม่ต้องพยายามอะไร ทิ้งหลุมใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่าเมตรบนตัวมัน

 

เถาวัลย์จิตวิญญาณความตายสัมผัสได้ถึงพลังลำดับเทพน่ากลัวที่วิ่งเข้าแผลมัน ลุกลามไปทุกทิศทาง

 

ในขณะเดียวกัน ตัวมันก็เริ่มสลาย เริ่มจากจุดที่โดนโจมตี…

 

หลินฮวงรู้สึกพอใจอย่างที่ไม่เคยมีขณะสัมผัสได้ถึงพลังกฏเทพเกือบสามล้านที่ไหลเข้าตัวเขาเหมือนคลื่น ความรู้สึกมันดีกว่าตอนแช่น้ำพุร้อนในช่วงฤดูหนาวกว่าหมื่นเท่า

 

ตอนศพของเถาวัลย์จิตวิญญาณความตายสลาย หลินฮวงผู้เพิ่งกลืนพลังกฏเทพทั้งหมดก็พลันรู้สึกถึงจิตเทวะอันยิ่งใหญ่ที่กวาดผ่าน

 

การยับยั้งที่มาจากคลื่นจิตเทวะทรงพลังกว่าเถาวัลย์ที่ตายไปแล้วนี้มาก

 

จิ่วเจี้ยนกับเวอชุโอโซสัมผัสได้เช่นกัน เส้นประสาทที่คลายแล้วรัดตึงใหม่ ภายใต้พลังของการยับยั้งนี้ ทั้งคู่งอเข่าลงเล็กน้อยและลมหายใจก็ติดขัด