ตอนที่ 595 เจ้าสอบติดแล้ว
แต่ยังไม่เห็นพวกคนสำนักเต๋อซั่นที่มักจะติดตามพวกฉินมู่ปิงอยู่เสมอ
ซูหลีขมวดคิ้วน้อยๆ ยิ้มบางๆ “บังเอิญขนาดนี้เลย?”
“บังเอิญ?” จี้ฉินมองซูหลีอย่างคาดโทษและเอ่ย “ไหนเจ้าลองพูดให้ข้าฟังหน่อย ช่วงนี้เจ้าทำอะไรอยู่? ทำไมถึงไม่เจอเจ้าเลย!?”
ทันทีที่ซูหลีได้ยินเช่นนี้ ทันใดนั้นก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ นางเหลือบตามองป๋ายเฮ่ออย่างกะทันหัน ใบหน้างดงามกระจ่างสดใส ยิ้มเย้ายวนอย่างบอกไม่ถูก
ถึงจะเป็นคนอย่างป๋ายเฮ่อก็ยังโดนซูหลีจ้องจนใจเต้นระรัวเร็ว ใบหน้าร้อนเห่อ
ปีศาจอย่างซูหลีอยากจะทำอะไรกันแน่?
“พี่จี้ท่านพูดไร้เหตุผล นานขนาดนี้ข้าจะทำอะไรได้บ้าง แน่นอนว่าย่อมอยู่บ้านตั้งใจอ่านหนังสือ เพื่อจะได้สอบผ่าน มิฉะนั้นต้องคุกเข่าร้องขอโทษคนอื่น หากเป็นเช่นนั้นคงจะน่าสงสารมากเลย ใช่ไหมเล่า?”
จี้ฉินได้ยินคำพูดที่ซูหลีหมายถึงก็เสสายตามองป๋ายเฮ่อที่อยู่ด้านข้างเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้
พวกคนสำนักฉยงสือมองท่าทางซูหลี ด้วยใบหน้าหงุดหงิด
ถึงจะหงุดหงิด แต่คราวนี้พวกเขากลับไม่มีใครพูดเยาะเย้ยซูหลี
เพียงแต่เพราะพวกเขาไม่รู้ชัดเจนนักว่าคราวนี้ซูหลีสอบได้หรือไม่!
เมื่อครู่ตอนซูหลีเข้ามาก็ออกจะประหลาดมาก ซึ่งบังเอิญพอดีกับตอนที่ข้ารับใช้บอกว่าป๋ายเฮ่อสอบได้ คนจำนวนมากจึงไม่มีใครสังเกตเห็นอีกฝ่าย
ซูหลีก็เดินเข้ามา
อีกทั้งทันทีที่เข้ามาก็ทำท่าทางเย่อหยิ่งเช่นนี้
คนอื่นยืน แต่ซูหลีนั่งและพาคนจำนวนสิบกว่าคนที่มองแล้วนึกว่าท่อนไม้ คนไม่รู้คงคิดว่าซูหลีจะทำอะไร?
บวกกับการสอบชิวเหวยก่อนนี้ ทำให้บรรดาศิษย์ของสำนักฉยงสือพวกนี้ แต่ละคนก็เหมือนก็ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา มองประจันหน้ากัน แต่ก็ไม่มีใครพูดหรือเยาะเย้ยอะไรในทันที
“เจ้าสอบติด?” ป๋ายเฮ่อมองซูหลีนิ่ง แววตาซับซ้อน
ที่จริงเขาไม่ได้คาดหวังอะไรในใจ หากเป็นเมื่อก่อนละก็เขาคงคิดว่าที่ซูหลีสอบเป็นจิ้นซื่อได้เห็นทีจะเป็นเรื่องตลกแน่!
แต่ดูท่าทางซูหลีในตอนนี้ บวกกับลำดับที่ซูหลีสอบได้ในรอบชิวเหวย เขาจึงลังเลเล็กน้อยแล้ว
อย่างไรเสียคราวก่อนซูหลีสอบได้เจี่ยหยวน ในการสอบข้าราชการเคอจวี่หลายครั้งหลายคราว คนที่สอบได้เจี่ยหยวนแล้วจะสอบไม่ผ่านการสอบชุนเหวยมีน้อยนิดนัก
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสอบได้ลำดับที่ดีเสมอไป แต่เจี่ยหยวนจำนวนมากในเมืองหลวง ก็ยังต้องสอบให้ได้จิ้นซื่อด้วย
นี่ก็เป็นเหตุผลที่ป๋ายเฮ่อทำไมถึงได้มองซูหลีด้วยแววตาสับสน
ทันทีที่ซูหลีได้ยินเช่นนี้ นางพลันยิ้มน้อยๆ พอนางยิ้มออกมา ดวงตาดอกท้อที่เปี่ยมเสน่ห์ ก็ยิ่งเย้ายวนมากขึ้น ดูผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก
อย่าว่าแต่พวกป๋ายเฮ่อเลย กระทั่งฉินมู่ปิงเองก็ยังรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของซูหลี
ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่เดือน ทำไมซูหลีถึงได้ดูเจ้าเล่ห์กว่าเดิม?
ฉินมู่ปิงจ้องซูหลีอย่างลึกซึ้ง ไม่พูดไม่จาอยู่นาน อารมณ์บนใบหน้าซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม
เรื่องที่เขาส่งรถเข็นให้ซูหลี แล้วซูหลีก็ถวายรถเข็นให้กับทางวัง ทำให้เขารู้ดีเป็นอย่างยิ่งว่าทำอะไรซูหลีไม่ได้
หลังจากคราวนั้น ฝ่าบาทก็ทรงสั่งให้ช่างฝีมือในวัง ทำของชิ้นนี้กระจายไปในหมู่ชาวบ้าน
อีกทั้งในราชสำนักยังชื่นชมซูหลีกันไม่ขาดปาก บอกว่าของชิ้นนี้คือสิ่งที่ซูหลีถวายให้
อีกทั้งในตอนที่เขาไม่ได้ตระเตรียมอะไร แต่มอบรถเข็นที่มีอีกคันในมือให้แก่บิดาของตนฉินเฮ่า รถเข็นคันนี้ก็ปรากฏขึ้นในร้านค้าต่างๆ ในเมืองหลวงแล้ว
และเพราะใช้ไม้ทำขึ้น ราคาจึงไม่สูงมากนัก ชาวบ้านจึงใช้ได้
จึงแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว
ตอนที่ 596 ซูฮุ่ยหยวน!
แต่หลังจากเรื่องนี้แล้ว ซูหลีก็เริ่มอ่อนน้อมเก็บงำ จนหลังๆ มาทำให้คนอ่านไม่ออก จนถึงกระทั่งเงาก็ยังไม่เห็น!
ดูไปแล้วทั้งสองเรื่องนี้ไม่มีอะไรสัมพันธ์กันมากนัก แต่ฉินมู่ปิงเองก็เป็นคนฉลาด หลังจากผ่านเรื่องเหล่านี้ไปแล้ว เขาพบว่าซูหลีเป็นคนฉลาดนัก
ของดีๆ เช่นนี้ นางไม่แอบอ้าง ทวงบุญคุณ และถึงขั้นปกปิดตนเองเอาไว้
แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ ชื่อเสียงของนางก็ยังลือกระฉ่อนออกไป ในบรรดาชาวบ้าน พูดถึงซูหลีขึ้นมา ทุกคนต่างรู้สึกว่าคนผู้นี้คือโพธิสัตว์มาโปรด
สามารถช่วยให้คนขาด้วนเดินไม่ได้ ไม่ใช่โพธิสัตว์แล้วจะเป็นอะไร?
ทุกร้านค้าในเมืองหลวงมีรถเข็นกันทั้งนั้น ล้วนชื่นชมซูหลีกันทั้งสิ้น
ระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนซูหลียังไม่ได้รับราชการด้วยซ้ำ ก็เรียกคะแนนจากชาวบ้านไปได้มากแล้ว อีกทั้งเพราะนางเก็บตัวเงียบไม่พบปะผู้คน คนจำนวนมากต่างหลงลืมไปแล้วว่าเมื่อก่อนนางเป็นคนอย่างไรและเคยทำอะไรมาบ้าง
จดจำได้เพียงแต่ความดีของนางเท่านั้น
จนถึงตอนเริ่มการสอบชุนเหวย การพนันของนางและป๋ายเฮ่อก็ถูกขุดคุ้ย คนจำนวนมากต่างดูแคลนนาง นางจึงได้ปรากฏตัวอยู่ในสายตาของผู้คน
ทว่ามีแค่ฉินมู่ปิงเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด ว่าซูหลีผู้นี้เป็นคนที่ชาญฉลาดอย่างที่สุด!
คนฉลาดขนาดนี้หากบอกว่าสอบได้ก็ถือว่าสมควรแล้ว และเป็นเรื่องที่น่าจะเกิดขึ้นได้ ไม่จำเป็นต้องไปคิดอะไรมากอีก
แต่ว่าคนเช่นนี้กลับเป็นอิสตรีนางหนึ่งเท่านั้น…
“เหอะ ข้าก็คิดว่าคุณชายป๋ายเป็นห่วงข้าหนักหนา คิดไม่ถึงว่าจะไม่รู้เรื่องที่ข้าสอบได้หรือไม่ คุณชายป๋ายท่านทำร้ายจิตใจข้าจริงๆ!” ซูหลีเอามือทาบอกเอ่ยด้วยใบหน้าเจ็บปวด
ป๋ายเฮ่อตะลึงงัน…
ซูหลีนี่นับวันยิ่งเหลวไหลไปทุกที
“พวกเจ้าล่ะ? ก็ไม่รู้เหมือนกันหรือ?” ซูหลีเหลือบตามองก่อนจะกลับมามีสภาพเป็นปกติ มองพวกฉินม่อโจวด้วยท่าทีนิ่งเฉย
ฉินม่อโจวประสานสายตากับนาง ใบหน้าชะงักนิ่งเล็กน้อยไม่ได้พูดอะไรออกมา
ซูหลีเหลือบมองใบหน้าเขา ทันใดนั้นเองก็ยกมุมปากเป็นรอยยิ้มและเอ่ย “ดูแล้วไหวอ๋องของพวกเราคงจะรู้เรื่องแล้ว”
ทันใดนั้นเองแววตาของทุกคนต่างก็จับจ้องฉินม่อโจว
แต่ในแววตาฉินม่อโจวนั้นกลับมีเพียงแค่ซูหลี ใบหน้าเขาแปลกประหลาด นานกว่าจะเปิดปาก
“ยินดีด้วย!”
คำพูดแสดงความยินดีนี้ทำให้ทั้งห้องโถงตกอยู่ในความเงียบทันที
มือที่วางไว้ข้างกายป๋ายเฮ่อ เปลี่ยนเป็นกำหมัดในทันที!
คิดไม่ถึงเลยว่าซูหลีจะสอบได้แล้ว!
ทว่านี่ไม่ใช่ส่วนที่ตื่นเต้นที่สุด ที่ตื่นเต้นที่สุดคือหลังจากที่ฉินม่อโจวพูดแล้วเขาก็นิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยสำทับด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ซูฮุ่ยหยวน!”
ฮุ่ยหยวน!
เสียงจอแจดังขึ้นรอบบริเวณ
ฮุ่ยหยวนที่เรียกกันนั้นเป็นเพราะการสอบชุนเหวยเรียกอีกชื่อว่าฮุ่ยซื่อ ส่วนคนที่สอบได้ที่หนึ่งจะเป็นฮุ่ยหยวน ซึ่งหมายความว่ามารเจ้าเสน่ห์อย่างซูหลีสอบได้เจี่ยหยวนในการสอบชิวเหวย การสอบชุนเหวยในขณะนี้ก็เป็นฮุ่ยหยวน หากเข้าไปสอบในวังหลวงคงจะเป็น…
ทันใดนั้นเอง ใบหน้าคนจำนวนมากก็เปลี่ยนสีแล้วเปลี่ยนสีอีก แววตาที่มองซูหลี จากเหยียดหยามไปจนเหลือเชื่อหวาดกลัว จนสุดท้ายสับสนอย่างยิ่ง ท้ายที่สุดก็เริ่มหลบตา
เกรงว่าต่อให้ซูหลีไม่ก้าวหน้า แต่เพียงแค่ตำแหน่งฮุ่ยหยวนนี้ก็ทำให้อนาคตเรืองรองแล้ว
เรื่องต่างๆ ในโลกก็อัศจรรย์เช่นนี้ ก่อนนี้คนผู้นี้ยังทะเลาะวิวาท ลงพนันขันต่อกับพวกเขาอยู่เลย
แต่เพียงแค่ปรับตัวเพียงเล็กน้อยกลับสูงส่งจนพวกเขาไม่อาจเทียบเทียม
บางทีคงไม่อาจเอื้อมไปชั่วชีวิต!
เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะสอบได้ฮุ่ยหยวน!