ตอนที่ 212 อาจารย์ที่ใช้ไม่ได้

 

 

“ไม่” เฉินยางม้วนแขนเสื้อลง คิดว่าจะโกหกก็ต้องจริงครึ่งโกหกครึ่ง จึงพูดว่า “พวกเราต้องเรียนย่อ ยืน คุกเข่า กราบ ในห้องพื้นที่น้อย ทำท่าทางไม่สะดวก เวลาฝึกก็ต้องมีหกล้มกันบ้าง แม้หงอวี้กูกูจะเข้มงวด แต่ก็ไม่ได้จงใจหาเรื่อง ลำบากคือลำบาก แต่ก็ใช่ว่าจะทนไม่ได้”

 

 

ตอนนี้นางกำลังหงุดหงิดกับตัวเองอยู่ ไทเฮาคิดว่านางจะต้องทนไม่ไหว และรอไล่นางไปเป็นแน่ แต่นางไม่ นางจะต้องทนต่อไปให้ไทเฮาดู แม่สามีนี้ไม่ถูกชะตากับนาง เช่นนั้นแล้วนางก็ต้องอยู่ในสายตาของนาง ใครแพ้ใครชนะก็ยังไม่แน่นอน เรื่องแค่นี้จะเป็นอะไรไป! ท่านพ่อของนางเลี้ยงนางจนโตไม่ใช่เพื่อจะให้คนอื่นมารังแก จะมองว่านางมาจากชนบทแล้วก็จะดูถูกนางไม่ได้ ใครไม่ใช่ลูกที่พ่อแม่เลี้ยงมาบ้าง นางเองก็มีลูกชาย ใจพ่อแม่เป็นเหมือนกัน นางจะทำใจเ**้ยมโหดได้อย่างไร!

 

 

เฝิงเยี่ยไป๋ก็ยังไม่วางใจ จึงดึงนางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด “กลางคืนยังต้องกลับไปหรือไม่”

 

 

“พรุ่งนี้เช้ายังต้องฝึกยืนระเบียบอยู่ กลางคืนต้องกลับไป” นางอธิบายด้วยท่าทางจริงจัง แต่แอบกำมือแน่น มือของเฝิงเยี่ยไป๋วางอยู่บนโต๊ะ นางก็ถูกเขากอดไว้อยู่อีก หลังแตะกับแขนของเขาพอดี นางไม่ได้บอกเขา บนตัวนางมีแผลที่ถูกหงอวี้เอาไม้ลงโทษฟาด แตะไม่ได้ พอแตะแล้วก็เจ็บเจียนตาย

 

 

“กลางคืนไม่กลับไปแล้ว พรุ่งนี้เช้าข้าเข้าวังเป็นเพื่อนเจ้า” เฝิงเยี่ยไป๋เป็นคนที่มีสายตาแหลมคมยิ่งนัก สังเกตสีหน้าของนางผิดแปลกไป จึงขมวดคิ้วถามว่า “เป็นอะไรหรือ”

 

 

นางทนไม่ไหวกระตุกมุมปากสองครั้ง แล้วสูดหายใจลึกๆ และตอบสนองอย่างรวดเร็ว เอาแขนเสื้อเช็ดเหงื่อที่หน้าผากถอนหายใจพูดว่า “อากาศร้อนนัก แค่นั่งก็เหงื่อออก”

 

 

เว่ยหมิ่นก็รีบพูดกลบเกลื่อน “พวกเราไปอวี้เฉวียนซานจวง [1] เถิด ที่นั่นเย็นสบาย ไปแล้วกระโดดน้ำ กระโดดน้ำลงไปแล้ว เรียกได้ว่าเย็นสบายทั้งตัวเลย!”

 

 

ช่างไม่อายนัก อะไรก็กล้าพูด เฝิงเยี่ยไป๋กลัวว่านางจะสอนเฉินยางจนเสียคน จึงทำหน้าบึ้งสั่งสอนว่า “ข้าว่าเจ้านับวันก็ยิ่งไร้ระเบียบมากขึ้นแล้ว ยังจะกระโดดน้ำอีก นี่คือเรื่องที่แม่นางควรทำหรือ ไม่รู้จริงๆ ว่าเจ้าอยู่ในวังหลายปีเช่นนี้เรียนอะไรไปเสียบ้าง ไม่มีความเป็นแม่นางเอาเสียเลย” จากนั้นเขาก็หันศีรษะมากำชับเฉินยางว่า “เจ้าก็อย่าได้เรียนตามนาง นางเป็นคนที่ไร้ระเบียบนัก ตั้งแต่เด็กก็เล่นอยู่แต่กับเด็กผู้ชาย ไม่เคยได้หยุดเลย พวกเราไม่เหมือนกัน เป็นกุลสตรีที่มีระเบียบ ควรจะชอบเครื่องประทินโฉม เรื่องปีนป่ายโลดเต้นนี้ เรียนไม่ได้!”

 

 

เว่ยหมิ่นถูกพูดเช่นนี้ก็โกรธขึ้นมา “ไฉนข้าถึงไม่มีความเป็นกุลสตรีเสียแล้ว ที่ข้าสอนเฉินยางล้วนเป็นเรื่องดี ใช่หรือไม่ เฉินยาง”

 

 

เฉินยางอุตส่าห์มีคนที่คุยกับนางได้ แม้ว่าความสัมพันธ์เทียบรุ่นของทั้งสองคนจะต่างอยู่เล็กน้อย แต่ใจนางก็เข้าหาเว่ยหมิ่นอยู่ กำลังจะพยักหน้าเห็นด้วย เฝิงเยี่ยไป๋ก็ขวางอยู่หน้านางแล้วพูดว่า “อาจารย์ที่ใช้ไม่ได้จะสอนลูกศิษย์ดีๆ ได้อย่างไร เรื่องในบ้านของพวกเราไม่ต้องให้เจ้าเป็นกังวล ภรรยาของข้าข้าสอนเองได้”

 

 

เหลียงอู๋เย่ว์ก็ไม่พอใจขึ้นมา ร้องโอ๊ยยืนขึ้นมา “ว่าใครใช้ไม่ได้หรือ รบกวนก่อนจะพูดอะไรก็ดูคนก่อน ข้ายังยืนอยู่ที่นี่อยู่เลย รังแกคนรังแกถึงหัวข้าแล้วหรือ”

 

 

เฉินยางหัวเราะขึ้นมา “ข้าสิถึงจะเป็นอาจารย์ที่ใช้ไม่ได้ เมื่อครุ่ระหว่างทางยังสอนเหลียงอู๋เย่ว์พูดกับเว่ยหมิ่นอยู่เลย พวกเขาสองคนไม่พูดคุยกัน ข้าเห็นแล้วก็รู้สึกอึดอัด ข้าที่เป็นอาจารย์นี้ใช้ไม่ได้ ยังเป็นท่านพี่ที่มีความสามารถ สองสามประโยคก็ทำให้พวกเขาพูดคุยได้แล้ว”

 

 

ดูนั่น ช่างเป็นเด็กที่พูดเก่งเสียจริง กล่อมทั้งสองฝั่ง แถมยังไม่ผิดใจกับใครอีก ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกรัก

 

 

——

 

 

[1] ซานจวง เทียบได้กับสถานตากอากาศในปัจจุบัน