ตอนที่ 545 ปรากฎ

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 545 ปรากฎ

ความจริงกำลังปรากฎออกมาและทำให้อันหลิงเกอรู้สึกท้อแท้อย่างเห็นได้ชัด

อันหลิงเกอทราบดีว่าตลอดเวลาที่ผ่านมามู่จวินฮานให้ความสำคัญต่อมู่เหล่าหวางเฟยมากเพียงใด

“เอาล่ะ มิเป็นไร เจ้ากลับไปเถิด”

อันหลิงเกอมิอยากให้ผู้ใดติดตาม นางจึงเดินเข้าวังเพียงลำพัง ครั้นเดินมาถึงหน้าประตูตำหนักของเหล่าหวางเฟยก็ได้ยินเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานดังขึ้นในตำหนัก มู่จวินฮานและเหล่าหวางเฟยมีความสนิทสนมกันมากทีเดียว

แล้ว…ท่านแม่ของนางเล่า ?

เมื่อได้รู้ว่ามู่เหล่าหวางเฟยคือฆาตกรสังหารมารดา นางก็ทำราวกับมิมีอันใดเกิดขึ้นแล้วไปอยู่ข้างกายของมู่จวินฮาน

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมีปริศนาเต็มไปหมด แต่จ้าวหลานหยู่ยอมทิ้งทุกอย่าง ยอมตายดีกว่าเอ่ยออกมา เรื่องนี้สร้างความสะเทือนใจให้อันหลิงเกอเป็นอย่างมาก

เมื่อนางมาถึงก็ได้เห็นมู่เหล่าหวางเฟยอยู่ด้านใน น้ำเสียงที่หัวเราะกันอย่างสนุกสนานของทั้งสองคนทำให้นางรู้สึกทรมานใจมากเหลือเกิน

ตัวนางก็เป็นลูกที่ท่านแม่รักสุดดวงใจเช่นกัน

“เรียนท่านอ๋องและเหล่าหวางเฟย พระชายามาเจ้าค่ะ”

หลังอันหลิงเกอเดินเข้าไปก็เห็นว่าแววตาของมู่เหล่าหวางเฟยแปรเปลี่ยนซึ่งที่ผ่านมาอันหลิงเกอมิเคยสังเกตเห็นมาก่อน

“เมื่อครู่ข้าได้ทราบข่าวจากนอกวังหลวงว่าฆาตกรที่สอบสังหารเจียงอ๋องหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย…” อันหลิงเกอเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบและเฝ้าสังเกตอากัปกิริยาของทั้งสอง

พอได้ยินประโยคนี้มู่จวินฮานก็ขมวดคิ้ว ส่วนมู่เหล่าหวางเฟยถอนหายใจด้วยความโล่งอก

หึ…มีเพียงบุตรชายของตนเท่านั้นที่ควรค่าแก่การได้รับความรักหรือไร ?

วันนี้อันหลิงเกอต้องมองเหล่าหวางเฟยผู้นี้ใหม่

ดูเหมือนใจดีแต่แอบสอดส่องทุกย่างก้าวและเฝ้ามองอย่างระมัดระวัง

ยอมแลกอิสระของตนกับความปลอดภัยของบุตรชาย มิเพียงเป็นมารดาผู้ยิ่งใหญ่ แต่ยังเป็นนักวางแผนอันยอดเยี่ยมอีกด้วย

“เช่นนั้นจวินฮานรีบไปตรวจสอบเถิด แม่จักอยู่คุยกับเกอเอ๋อเอง”

มู่เหล่าหวางเฟยยิ้มด้วยความรักและเมตตา อีกทั้งมู่จวินฮานก็วางใจฝากฝั่งอันหลิงเกอไว้กับมารดา

“เกอเอ๋อ ค่ำนี้ข้าจะรอเจ้าที่จวน”

ตลอดเวลาที่ผ่านมาอันหลิงเกอมักมาเยี่ยมเยือนอีกฝ่ายเสมอ เพียงแต่เป็นก่อนได้รู้ความจริง พอรู้เรื่องแล้วในที่สุดนางก็ต้องมาเผชิญหน้ากับมู่เหล่าหวางเฟย

อันหลิงเกอยอมรับว่ามิใช่คนที่จะข่มอารมณ์ได้ ด้วยเหตุนี้หลังมู่จวินฮานจากไป นางจึงเอ่ยปากว่า

“ในตอนที่เจียงอ๋องโดนลอบสังหาร ลูกบังเอิญอยู่ในจวนเจียงอ๋องพอดีเจ้าค่ะ”

มู่เหล่าหวางเฟยเงยหน้าด้วยความตกใจ นางแค่อยากให้มีคนประชิดตัวจ้าวหลานหยู่ไว้ มิได้สั่งพวกเขาลงมือแต่อย่างใด

ทว่าคนเหล่านั้นคงหลบเลี่ยงมิทันและนางก็คาดมิถึงว่าอันหลิงเกอจักอยู่ในสถานที่เกิดเหตุด้วย

“หมู่เฟยคงทราบดีว่าเจียงอ๋องได้เอ่ยบางอย่างกับลูก” ครั้นเห็นแววตาของอันหลิงเกอ มู่เหล่าหวางเฟยก็เข้าใจทุกอย่างชัดเจน

“แม่จะรู้ได้อย่างไร เกอเอ๋อยังมิได้เล่าออกมาเลยและนี่ก็เป็นเบาะแสที่หาได้จากเจียงอ๋อง”

มู่เหล่าหวางเฟยแสร้งเป็นกังวลพลางลูบไปบนถ้วยน้ำชาด้วยความมิสบายใจ

“เจียงอ๋องกล่าวว่า…”

อันหลิงเกอเอ่ยได้เพียงมิกี่คำก็ก้มหน้าหัวเราะเบา ๆ โดยมิได้กล่าวอันใดต่อ

“หมู่เฟยพักผ่อนเถิด ขอให้หมู่เฟยหลับสบายนะเจ้าคะ” กล่าวจบ อันหลิงเกอก็หมุนตัวเดินจากไป

ครานี้นางมิได้ทำความเคารพแต่อย่างใด

มู่เหล่าหวางเฟยจึงมองออกว่าอันหลิงเกอรู้ทุกอย่างแล้ว

เหล่าหวางเฟยในเวลานี้มีสีหน้ากระวนกระวายมากทีเดียว หลายปีมานี้เพื่อความลับนั้นนางต้องแบกชีวิตมากมายเอาไว้ ทว่าเพิ่มอีกสักหนึ่งชีวิตคงมิเป็นไร

ฮูหยินใหญ่อัน เจ้ารอพบบุตรีสุดที่รักได้เลย !

หลังอันหลิงเกอกลับจากในวังก็มิได้เอ่ยปากพูดอันใดอีก

“พระชายา…”

ปี้จูยืนมองอยู่ข้างกายด้วยความร้อนใจ คิดว่าอีกฝ่ายกังวลเรื่องของจวนเจียงอ๋อง

“พระชายา เมื่อครู่เหล่าหวางเฟยแจ้งว่าพรุ่งนี้จักอธิษฐานเผื่อแผ่แก่เจียงอ๋อง พระชายาอยากเตรียมอันใดเพิ่มบ้างเจ้าคะ ? ”

อันหลิงเกอแสยะยิ้มอย่างเย็นชาแต่สร้างความตกใจให้แก่ปี้จูมาก

“พระชายา…”

ปี้จูคุกเข่าลงและสังเกตสีหน้าของอันหลิงเกอ

นางได้เห็นน้ำตาที่ไหลอาบแก้มทั้งสองของผู้เป็นนาย แม้น้ำเสียงของอันหลิงเกอเย็นชา รอยยิ้มราบเรียบอย่างเห็นได้ชัด ทว่าเวลานี้ก็ร้องไห้ออกมาจริง ๆ

มิรู้ว่าเพราะมารดา เพราะตนเองหรือเพราะมู่จวินฮาน

อันหลิงเกอนึกมิออกว่าเป็นเพราะเหตุใด กระทั่งนางหมดสติไป ปี้จูจึงประคองนางมานอนบนเตียง ครั้นตื่นขึ้นมาก็ถึงวันที่เหล่าหวางเฟยจะทำพิธีอธิษฐานให้แก่เจียงอ๋องแล้ว

อันหลิงเกอมิอยากเอ่ยให้มากความ เพราะเห็นปี้จูเตรียมการไว้ทุกอย่างแล้ว นางจึงปล่อยเลยตามเลย

“ไปกันเถิด”

เดิมทีอันหลิงเกอคิดว่าอาจเลือกกลืนมันลงท้อง หรือบางทีอาจทำเหมือนมิเคยเกิดขึ้นมาก่อน

ทว่าในตอนที่เห็นใบหน้าของมู่เหล่าหวางเฟย ความเกลียดชังที่อยู่ในใจก็ปะทุขึ้นอีกครา บนโลกใบนี้ยังมีคนหน้าอย่างลับหลังอีกอย่างได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ!

“พระชายา พระชายาเป็นอันใดเจ้าคะ ? ”

อันหลิงเกอได้สติกลับมาก็มองไปยังปี้จูที่อยู่ข้างกาย

“ถึงคราวพระชายาจุดธูปแล้วเจ้าค่ะ”

อันหลิงเกอเงยหน้ามองเหล่าหวางเฟยที่อยู่บนแท่นสูง นางจึงปักธูปตามใจและกลับไปนั่งอยู่ข้างกายของอีกฝ่าย

ส่วนทัวป๋าหลิวลี่ก็เดินขึ้นหน้าแล้วนั่งลงอีกด้านหนึ่งของเหล่าหวางเฟย

อันหลิงเกอดื่มชาด้วยท่าทีนิ่งเฉยแต่รู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ น่าเสียดายที่เวลานี้จิตใจของนางมิสงบจึงมิทันได้สังเกต

“หมู่เฟย…”

ทัวป๋าหลิวลี่และเหล่าหวางเฟยมีท่าทางสนิทสนมกันมาก ส่วนอันหลิงเกอมีความรู้สึกแปลกประหลาด

“วันนี้ท่านอ๋องและฝ่าบาทยุ่งงานราชกิจ เราอยู่เรือนหลังก็ต้องแบ่งเบาภาระของพวกเขา เช่นนี้เรายิ่งต้องอธิษฐานให้แก่เจียงอ๋อง…”

บัดนี้ในวังหลัง เนื่องจากตำแหน่งของมู่จวินฮานแตกต่างไปจากเดิมจึงทำให้เหล่าหวางเฟยกลายเป็นสตรีสูงส่งและมีอำนาจ

น้ำเสียงของเหล่าหวางเฟยทรงพลังอย่างเห็นได้ชัด อันหลิงเกอเพิ่งค้นพบและดูท่าแล้ววังหลังคงถูกนางจิ้งจอกเฒ่าครอบครองหมดแล้ว

ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ ๆ อันหลิงเกอก็รู้สึกตาลายขึ้นมาอย่างฉับพลัน ชาถ้วยนั้น…

ทันทีที่อันหลิงเกอเงยหน้าขึ้นมา ภาพตรงหน้าก็แทบดับวูบ นางมองไปยังเหล่าหวางเฟย ในสติสัมปชัญญะที่หลงเหลืออยู่ทำให้นางได้เห็นใบหน้าที่เผยรอยยิ้มชั่วร้ายของอีกฝ่าย

เมื่อครู่จิตใจของนางคงมิอยู่กับเนื้อกับตัวจึงไม่ทันได้เตรียมการป้องกัน บัดนี้รู้สึกว่ามีบางอย่างมิชอบมาพากล รสชาติของชาถ้วยนั้น…

“สุขภาพของพระชายามิค่อยดี เจ้าพานางกลับจวนเถิด”

อันหลิงเกอได้ยินมิชัดว่าเสียงนั้นเป็นของผู้ใด แต่ในระหว่างที่ใกล้หมดสติไปนั้นก็มีคนมาประคองเดินออกไป

มิใช่สิ…คนผู้นี้มิใช่ปี้จู!

อันหลิงเกอมิรู้ว่าถูกประคองไปไว้ที่แห่งใด รู้สึกเพียงว่าร่างกายอ่อนแอมากจึงต้องปล่อยให้ผู้อื่นจัดการพาไป

“เราทำเช่นนี้จะมิมีปัญหาจริงหรือ ? ”

“นางเป็นถึงพระชายามู่เชียวนะ”

“จะมีปัญหาอันใดเล่า ? นี่เป็นคำสั่งของมู่เหล่าหวางเฟย รีบลงมือเถิด!”

อันหลิงเกอมิรู้ว่าคนที่อยู่รอบกายกำลังเอ่ยถึงเรื่องใด รู้แค่ว่ามีมือนับมิถ้วนวนเวียนอยู่บนร่างกาย นางอยากดิ้นสะบัดออกแต่ก็ดิ้นมิได้

มู่เหล่าหวางเฟยคิดทำร้ายนางจริง!

เพราะความประมาทของตนโดยแท้จึงถูกคนเยี่ยงนี้วางยาและพาตัวมาที่นี่ บัดนี้นางควรทำเช่นไร ?

“มิได้…” เวลานี้แม้แต่แรงพูดอันหลิงเกอก็ยังมิมี นางกัดฟันกรอดและพยายามดิ้นอย่างสุดกำลัง

“ยังไม่สลบอีกหรือ ? นางจะจำพวกเราได้หรือไม่ ! ”

“มิต้องกลัวหรอก จบเรื่องก็มีคนมาจัดการนางเอง!”

คำพูดนี้ทำให้อันหลิงเกอเย็นวาบไปทั้งหัวใจ วันนี้เหล่าหวางเฟยต้องการให้นางตายหรือ ? นางประมาทเกินไปแล้ว

อันหลิงเกอออกแรงกัดลิ้นของตนโดยหวังให้พอได้สติกลับมาสักชั่วอึดใจหนึ่งก็ยังดี