ผู้หญิงที่ลูกอยากได้ ใครก็ห้ามไม่อยู่

“ในเมื่อฝ่าบาทตรัสแล้ว เช่นนั้นก็ทำตามที่ตรัส หลิงอวี้จื้อ เจ้าไปคุกเข่าหน้าวังฉางเล่อ สามชั่วยามให้หลังค่อยออกจากวัง ส่วนสาวใช้คนนั้น ขังนางไว้ที่แผนกพิจารณาโทษก่อน เราจะสอบคดีนี้เอง”

 

 

“เช่นนั้นก็ทำตามที่เสด็จแม่ตรัสเถิด”

 

 

เฉินมั่วฉือรับคำ สาวใช้ผู้นั้นบังอาจลอบสังหารมู่หรงกวานเย่ว์ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตายแน่ ถึงแม้มู่หรงกวานเย่ว์ไม่เอ่ยปาก เขาก็ไม่ปล่อยสาวใช้ผู้นั้นไปแน่

 

 

แม้หลิงอวี้จื้อจะร้อนใจมาก แต่ก็รู้ว่าตอนนี้ยังไม่สามารถขอความเมตตาได้ จะช่วยชีวิตมั่วชิง ต้องคิดหาวิธีอื่น

 

 

“หม่อมฉันผิดเองที่ทำให้ไทเฮาตกพระทัย หม่อมฉันก็คิดไม่ถึงว่าสาวใช้ข้างกายจะมีชาติกำเนิดเช่นนี้ เรื่องนี้เป็นความสะเพร่าของหม่อมฉัน ยังดีที่มู่หรงไทเฮาไม่เป็นอะไร มิเช่นนั้นจะให้หม่อมฉันตายหมื่นครั้งก็ไม่ปฏิเสธ ขอบพระทัยไทเฮาที่มีเมตตาไม่ประหาร”

 

 

หลิงอวี้จื้อพูดจบก็เอาหัวโขกพื้นหนึ่งครั้ง ถึงได้ถอยออกไป เห็นหลิงอวี้จื้อออกไป มู่หรงนี่อวิ๋นก็ตามออกไปด้วย

 

 

สองคนออกไปแล้ว เฉินมั่วฉือก็หยิบเม็ดยาสีดำที่อยู่ตรงหน้ามู่หรงไทเฮาขึ้นมา ถามว่า

 

 

“เสด็จแม่ นี่คืออะไร ท่านเรียกหลิงอวี้จื้อเข้าเฝ้า คิดจะทำอะไรกันแน่”

 

 

“ยาทำหมัน ไม่มีพิษ เมื่อกินแล้ว นอกจากจะทำให้ไม่มีทายาทไปตลอดชีวิต ก็ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อสุขภาพ”

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์มีท่าทีสงบนิ่ง

 

 

“เซียวเหยี่ยนจะแต่งงานก็ได้ แต่จะมีลูกไม่ได้ มั่วฉือ แม่ทำเช่นนี้ก็เพื่อเจ้า”

 

 

เฉินมั่วฉือปายาทำหมันลงพื้นอย่างแรง ไม่พอ ยังใช้เท้าบี้ซ้ำอย่างหนักหน่วง

 

 

“เสด็จแม่ ท่านโหดร้ายเกินไปแล้ว อวี้จื้อเป็นหญิงสาว ท่านตัดลูกหลานนางเช่นนี้ได้อย่างไร

 

 

ต่อไปนางจะทำอย่างไร ท่านมั่นใจได้อย่างไรว่านางจะอยู่กับเซียวเหยี่ยนตลอดชีวิต ลูกไม่มีทางยอมให้เสด็จแม่ทำร้ายหลิงอวี้จื้อเช่นนี้”

 

 

“มั่วฉือ เจ้ายังอยากได้นางอีกหรือ”

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์ถามอย่างตระหนกตกใจ

 

 

เฉินมั่วฉือเม้มปาก ไม่ได้ปฏิเสธและไม่ได้ตอบรับ แต่มู่หรงกวานเย่ว์เข้าใจความหมายของเฉินมั่วฉือแล้ว นางลุกขึ้นแล้วเดินไปตรงหน้าเฉินมั่วฉือ พูดเน้นทีละคำ

 

 

“มั่วฉือ ตราบใดที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ แม่ไม่มีวันยอมรับเด็ดขาด”

 

 

“เสด็จแม่…”

 

 

เฉินมั่วฉือร้อนใจ

 

 

“เจ้าหยุดพูด มั่วฉือ เจ้าเป็นประมุขของชาติ จะเปลืองสมองคิดแต่เรื่องผู้หญิงไม่ได้ ยิ่งกว่านั้น นางเป็นผู้หญิงของอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ถึงเวลานั้น นางก็เป็นแค่ดอกไม้ที่โรยราแล้ว จะคู่ควรกับเจ้าได้อย่างไร”

 

 

“ลูกบอกว่าคู่ควรก็คือคู่ควร ผู้หญิงที่ลูกอยากได้ ใครก็ห้ามไม่อยู่ ถึงแม้จะเป็นเสด็จแม่ก็ไม่ได้เช่นกัน”

 

 

“เจ้า…”

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์พูดไม่ออก ยิ่งเฉินมั่วฉือโตขึ้น ลูกชายที่เมื่อก่อนเชื่อฟังและรู้เรื่อง ตอนนี้ยิ่งไม่เชื่อฟังขึ้นเรื่อยๆ นางไม่รู้เลยว่าเฉินมั่วฉือคิดอะไรอยู่ในใจ ในสมองถึงได้มีความคิดไร้สาระเช่นนี้

 

 

เฉินมั่วฉือมองมู่หรงกวานเย่ว์ พูดต่อไป

 

 

“เสด็จแม่ ลูกไม่ใช่เด็กๆ แล้ว เรื่องบางเรื่อง ลูกเข้าใจ

 

 

“เสด็จแม่บังคับให้หลิงอวี้จื้อกินยาทำหมัน ไม่ได้ทำเพื่อลูกด้วยซ้ำ แต่ทำเพื่อตนเอง เสด็จแม่อิจฉาหลิงอวี้จื้อ ดังนั้นจึงยอมนางไม่ได้ หากคิดเพื่อส่วนรวมจริงๆ ตอนนี้เสด็จแม่จะต้องไม่ทำอะไรหลิงอวี้จื้อแม้แต่ปลายนิ้ว

 

 

“เสด็จแม่บอกว่าลูกชอบหลิงอวี้จื้อไม่ได้ เสด็จแม่เองเป็นไทเฮา ก็ชอบอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่ได้เช่นเดียวกัน

 

 

“เสด็จแม่ควบคุมจิตใจของตนเองไม่ได้ แล้วมีสิทธิ์อะไรมาขอให้ลูกควบคุมได้ เมื่อก่อนลูกเชื่อคำของเสด็จแม่ ตอนนี้ลูกก็มีคนที่ชอบ ลูกเห็นชัดกระจ่างแจ้ง เรื่องเหล่านั้นของเสด็จแม่กับอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนช่าง…”

 

 

เมื่อถูกลูกชายพูดถึงชายอื่นที่เก็บซ่อนไว้ในใจต่อหน้าธารกำนัล สีหน้าของมู่หรงกวานเย่ว์ก็ยิ่งดูไม่ได้ขึ้นทุกทีและอับอายมากขึ้น เป็นถึงไทเฮา ยังต้องรักษาหน้าไว้