ตอนที่ 1574 ขอโทษนะ แต่เราไม่ได้สนิทกัน (5)
ไม่พูดไม่ได้ กู่ซินเยียนมีความสามารถในการพูดที่ดีจริงๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเฉียวฉู่มีหัวใจที่ “หนักแน่น” ล่ะก็ ถ้าหากเป็นคนอื่น พวกเขาคงหลงไปตามคำพูดของกู่ซินเยียนแล้ว
ถึงขนาดพูดเรื่องความชอบธรรมของสิบสองวิหารได้ ก็คงไม่มีทางไหนที่จะโต้แย้งนางได้แล้ว
หลังจากพูดจบ ใบหน้าของกู่ซินเยียนก็ยังมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนเช่นเดิมขณะมองไปยังทุกคน
กล่าวกันว่า ไม่มีใครตบใบหน้าที่มีรอยยิ้มได้ลง
ท่าทางของกู่ซินเยียนช่างนุ่มนวลอ่อนโยน รอยยิ้มของนางก็ให้ความรู้สึกที่จริงใจจนทำให้พวกเขาไม่รู้จะพูดอะไรไปชั่วขณะ
ถ้าหลินเฮ่าอวี่เป็นคนพูด เฉียวฉู่คงฟาดไม่ยั้งไปแล้ว แต่พอเป็นหญิงสาวที่ดูนุ่มนวลบอบบาง เฉียวฉู่ก็รู้สึกว่าถ้าพูดจาร้ายกาจกับนาง เกรงว่ามันจะไร้คุณธรรมไปหน่อย
เห็นได้ชัดว่าทุกคนคิดเหมือนกัน แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเป้าหมายของตนคืออะไร แต่ทุกคนก็รู้สึกว่าอย่างน้อยพวกเขาควรให้เกียรติผู้หญิงบ้าง
และผู้หญิงเพียงสองคนในหมู่พวกเขา หรงรั่วและจวินอู๋เสีย……ก็อ่อนโยนกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายซะอีก
หรงรั่วไม่เคยชักสีหน้าใส่ผู้หญิงคนไหน ในบรรดาหนุ่มสาวของวิหารจิตหวนคืนที่เป็นศิษย์ใหม่รุ่นนี้ นางได้ชนะใจทุกคน และเป็นผู้เยาว์ที่อ่อนโยนซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆมากกว่าผู้ชายคนไหนๆ
ส่วนจวินอู๋เสีย……
แม่สาวคนนี้ถึงขนาดมีภรรยาแล้วด้วยซ้ำ! ยังจะต้องพูดอะไรอีก!?
นางคือผู้ชนะที่สุดยอดที่สุดในหมู่พวกเขาแล้ว!
โชคดีที่มีคนคนหนึ่งที่มีภูมิต้านทานต่อเพศหญิง แตกต่างจากพวกของเฉียวฉู่มาก
นั่นก็คือ……เฟยเหยียน
ตอนที่เฟยเหยียนเข้าสำนักธาราเมฆ เขาแต่งตัวเป็นผู้หญิง ถ้าหรงรั่วเป็นเทพหนุ่มที่ได้รับการเคารพนับถือมากที่สุดในบรรดาศิษย์ใหม่ของวิหารจิตหวนคืน เฟยเหยียนก็คือ “เทพธิดา” ของวิหารมังกร
ระดับความนิยมของเฟยเหยียนในวิหารมังกรไม่ได้น้อยไปกว่าความนิยมของกู่ซินเยียนในวิหารมารโลหิตเลย
ฝีปากอันร้ายกาจของเฟยเหยียนไม่ใช่สิ่งที่เฉียวฉู่จะแข่งขันด้วยได้ เฟยเหยียนกอดอกเชิดหน้ามองกู่ซินเยียนด้วยสีหน้าไม่ยอมรับ
“ที่คุณหนูกู่พูด คือจะบอกว่าพวกเราทุกคนที่นี่เป็นพวกไร้คุณธรรมงั้นหรือ? ข้าว่าคำพูดของคุณหนูกู่น่าขำมาก สถานการณ์ที่แท้จริงระหว่างสิบสองวิหารเป็นยังไง ต่อให้คนอื่นไม่รู้ พวกเราทุกคนก็ควรรู้ดีกว่าใคร! เจ้าพูดเรื่องความกลมเกลียวปรองดองกันงั้นหรือ? เอาคำพวกนั้นไปพูดกับคนจากเก้าอารามยังเหมาะสมกว่าไหม? ขอถามหน่อยเถอะ ตอนที่วิหารมารโลหิตทำตัวหยิ่งผยองบงการผู้คนไปทั่ว เจ้าได้คิดถึงเรื่องความกลมเกลียวปรองดองระหว่างสิบสองวิหารบ้างรึเปล่า? ถ้าข้าจำไม่ผิด มันก็เพิ่งผ่านมาแค่หนึ่งเดือนเอง คนจากวิหารมารโลหิตทำร้ายคนจากวิหารคลื่นมรกตไม่ใช่หรือ? ชิ ตอนที่พวกเจ้าทำร้ายผู้คน เจ้าไม่สนเรื่องคุณธรรมความดีระหว่างสิบสองวิหารเลยสักนิด แต่พอพวกเจ้าโดนทำร้ายบ้าง ก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ทันทีเลยนะ คนเราจะทำตัวสองมาตรฐานแบบนี้ไม่ได้ซิ ถ้าจะทำ อย่างน้อยก็ต้องจำไว้ว่าต้องซ่อนหางตัวเองไว้ให้ดี อย่าให้หางโผล่แบบนี้ มันดูน่าเกลียด” น้ำเสียงของเฟยเหยียนเดี๋ยวสูงเดี๋ยวต่ำ ไม่อ่อนโยนนุ่มนวลดุจสายน้ำเหมือนกู่ซินเยียน แต่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ยถากถาง
ใบหน้าของกู่ซินเยียนไม่น่ามองแล้ว นางรู้ว่าเพศหญิงของนางทำให้นางได้เปรียบพวกเฉียวฉู่และผู้ชายคนอื่นๆ แต่กับเฟยเหยียนที่เป็น “เพศเดียวกัน” นั้น เห็นได้ชัดว่าความได้เปรียบนี้ใช้ไม่ได้แล้ว
“เฟยเหยียน ข้าคิดว่าเจ้าอาจจะเข้าใจอะไรผิดอยู่นะ พวกเราไม่เคยข่มเหงรังแกใครมาก่อนเลย” กู่ซินเยียนพยายามกอบกู้สถานการณ์
เหตุการณ์ที่คนของพวกเขาคนหนึ่งได้ทำร้ายคนของวิหารคลื่นมรกต นางยังจำได้อย่างชัดเจน เนื่องจากหลินเฮ่าอวี่ใช้ข้ออ้างในการปกป้องจวินอู๋เพื่อโต้เถียงกับคนของวิหารอื่นๆ เพื่อทำให้วิหารอื่นๆเกลียดจวินอู๋มากขึ้น พวกเขาได้ใช้โอกาสนั้นโจมตี พยายามปลุกระดมให้เกิดความโกลาหลมากขึ้น