ตอนที่ 272 คุณมาได้ยังไง / ตอนที่ 273 ฉันปวดใจ

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 272 คุณมาได้ยังไง 

 

 

           ได้ยินคำพูดของถังถัง ฉู่เจียเสวียนได้แต่ยิ้มไม่ได้ตอบอะไร เรื่องเกี่ยวกับเฉิงเฮ่ากับฉู่อีอีเมื่อก่อน แม้ว่าฉู่เจียเสวียนจะไม่รู้อะไรมาก แต่อย่างน้อยเธอยังก็รู้ว่าฉู่อีอีกับเฉิงเฮ่าเป็นอะไรกัน 

 

 

           ถ้าหากเผยหนานเจวี๋ยรู้ความจริงที่ฉู่อีอีจากเขาไปในตอนนั้น เขาจะเป็นยังไงนะ 

 

 

           ที่จริงฉู่อีอีเป็นคนอย่างไรไม่ได้เกี่ยวกับเธอโดยสิ้นเชิง ทำไมเธอต้องคิดมากด้วย 

 

 

           “สาวมารยาชั้นสูงนี่มันร้ายกาจจริงๆ นะ เธอดูสิเขาเพิ่งจะทำร้ายเธอ คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะแอบคบชู้ลับหลังเผยหนานเจวี๋ย เธอว่า เรื่องนี้เขาจะเอาตัวรอดไปได้ยังไง” 

 

 

           คิ้วของถังถังยับย่น เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าฉู่อีอีมีลูกไม้ชั้นสูงอะไรกันแน่ เรื่องของฉู่อีอีครั้งนี้แม้แต่กล้องวงจรปิดก็มีแล้ว หรือว่าเผยหนานเจวี๋ยยังเชื่อคำแก้ตัวของเธอ 

 

 

           “ถังถัง พวกเราอย่ายุ่งเรื่องนี้เลย เรื่องของคนอื่นก็ปล่อยเขาไปเถอะ” ในที่สุดฉู่เจียเสวียนก็เอ่ยปาก เธอรู้สึกมาตลอดว่าฉู่อีอีรักเผยหนานเจวี๋ยจริงๆ ฉะนั้นจึงทำเรื่องมากมายลับหลังเขา 

 

 

           แต่ว่าตอนนี้ ทำไมเธอถึงอยู่ด้วยกันกับเฉิงเฮ่าอีก 

 

 

           เธอยิ่งไม่เข้าใจฉู่อีอีมากขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ เธอลงกายลงแรงไล่เธอออกไป จากนั้นเธอก็อยู่ข้างกายเผยหนานเจวี๋ย แต่ตอนนี้เธออยู่กับเฉิงเฮ่าด้วยกันอีกครั้ง ต้องการจะทำอะไรกันแน่ 

 

 

           “หึ ฉันเก็บหลักฐานพวกนี้ไว้ก่อนดีกว่า รอจนวันที่เขาทำร้ายเธอ ฉันจะสั่งสอนเขาอย่างสาสม ถึงตอนนั้นฉันจะดูว่าเขายังจะกล้ารังแกเธออีกไหม!” ถังถังเอ่ย หลังจากจัดเก็บรูปที่ถ่ายไว้เรียบร้อยแล้วก็เอาใส่กระเป๋า ใบหน้าเปื้อนยิ้ม อารมณ์ยิ่งดีกว่าเดิม 

 

 

           ยื่นมือควงแขนของฉู่เจียเสวียน ลากเธอแล้วเดินไปยังศูนย์การค้าด้วยกัน 

 

 

           ผ่านไปครึ่งเดือน 

 

 

           บาดแผลบนตัวของเผยหนานเจวี๋ยหายแล้ว เพราะว่าเข้าใจฉู่เจียเสวียนผิดเรื่องสร้อยคอ เผยหนานเจวี๋ยจึงลงนามโดยไม่ระบุชื่อกับทุกโครงการที่ทำร่วมกับบริษัทตระกูลกง 

 

 

           เพราะเขาค้นพบว่า เขามักจะถูกฉู่เจียเสวียนดึงดูดอยู่เสมอ ในหัวก็มักจะมีเงาของเธอผุดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว 

 

 

           ตั้งแต่อุบัติเหตุในคืนนั้น เผยหนานเจวี๋ยก็ถูกฉู่เจียเสวียนดึงดูดอย่างลึกซึ้งแล้ว เขารู้สึกอยู่เสมอว่าตัวของฉู่เจียเสวียนมีความลับมากมายที่เขาไม่รู้ เขาต้องการจะรู้เรื่องอย่างชัดเจน 

 

 

           ตัวเธอเป็นประกายมากน้อยแค่ไหนกันแน่ 

 

 

           ระหว่างที่เหม่อลอย เสียงเคาะประตูออฟฟิศดังขึ้น “เข้ามา” 

 

 

           ดึงความคิดกลับมา เผยหนานเจวี๋ยก้มหน้าก้มตาอยู่ที่โต๊ะทำงาน ไม่ได้มองว่าคนที่เข้ามาคือใคร จนกระทั่งเสียงที่น่าฟังของฉู่อีอังขึ้น เผยหนานเจวี๋ยจึงเงยหน้าขึ้นมอง 

 

 

           “หนานเจวี๋ย” ฉู่อีอีมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า เอ่ยปากด้วยความรักลึกซึ้ง 

 

 

           ตั้งแต่เรื่องสร้อยคอ ฉู่อีอีก็เจอเผยหนานเจวี๋ยน้อยมาก ครั้งนี้เธอตั้งใจต้มน้ำแกงเพื่อให้เขาได้ดื่ม 

 

 

           “คุณมาได้ยังไง” เผยหนานเจวี๋ยลุกขึ้น ขมวดคิ้วเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น พยายามทำน้ำเสียงของตัวเองให้อ่อนโยน 

 

 

           ฉู่อีอีเห็นเผยหนานเจวี๋ยลุกขึ้น เดินเข้าไปข้างกายเผยหนานเจวี๋ยก่อน เอื้อมมือจูงเขาเดินไปยังเก้าอี้พักผ่อน 

 

 

           หลังจากนั่งลง ฉู่อีอีรีบเทน้ำแกงออกมาอย่างรวดเร็ว ส่งถึงมือของเผยหนานเจวี๋ย “หนานเจวี๋ย คุณดื่มน้ำแกงนี้ดูสิว่าอร่อยหรือเปล่า” 

 

 

           “อืม ไม่เลว” ดื่มสองคำพอเป็นพิธี เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปาก 

 

 

           ฉู่อีอีเบิกตากว้าง นึกว่าเผยหนานเจวี๋ยชื่นชมจากใจจริง ในใจอดไม่ไหวรู้สึกมีความสุขกว่าเดิม “หนานเจวี๋ย งั้นคุณดื่มเยอะๆ ดื่มเสร็จฉันก็กลับแล้ว” 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยพยักหน้า ดื่มน้ำแกงในถ้วยจนไม่เหลือสักหยด 

 

 

           ดื่มเสร็จก็วางถ้วยลงบนโต๊ะ เงยหน้ามองใบหน้าที่แจ่มใสของฉู่อีอี เงาของฉู่เจียเสวียนผุดขึ้นมาในหัวของเผยหนานเจวี๋ย 

 

 

           เมื่อเห็นว่าในถ้วยว่างเปล่า ใบหน้าของฉู่อีอียิ้มจนบานเป็นดอกไม้ 

 

 

 

 

 

       ตอนที่ 273 ฉันปวดใจ 

 

 

           “หนานเจวี๋ย คุณพักผ่อนสักหน่อยเถอะ ฉันกลับก่อนล่ะ” ฉู่อีอีเก็บหม้อเก็บความร้อน หลังจากชำเลืองมองเผยหนานเจวี๋ยแล้ว ก็ลุกขึ้นยืนแล้วออกไปจากออฟฟิศของเขา 

 

 

           รอจนกระทั่งฉู่อีอีปิดประตูแล้ว เผยหนานเจวี๋ยจึงมองไปยังทิศทางที่ฉู่อีอีหายไป รอยยิ้มขมขื่นอ้อยอิ่งอยู่ที่มุมปาก 

 

 

           ช่วงนี้เขามักจะหาข้ออ้างออกเช้ากลับดึกอยู่เสมอโดยบอกว่าที่บริษัทยุ่ง ที่จริงแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงฉู่อีอี ไม่รู้ว่าทำไม ตอนนี้เมื่อเห็นฉู่อีอีก็นึกถึงเรื่องที่เขาใส่ร้ายฉู่เจียเสวียน 

 

 

           ในหัวนึกถึงคราวที่แล้วที่อยู่ในโรงพยาบาล ท่าทางที่กงจวิ้นฉือปกป้องเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดจนหายใจไม่ออก เขาต้องทำอย่างถึงจะถูก หรือว่าเขาจะชอบเธอเข้าแล้ว 

 

 

           ตอนกลางคืน เผยหนานเจวี๋ยออกไปจากบริษัทนานแล้ว แต่ว่าเขากลับไม่ได้กลับบ้านทันที แต่ว่าไปที่บาร์ พอตกดึก เผยหนานเจวี๋ยจึงกลับถึงบ้าน 

 

 

           เมื่อได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก ฉู่อีอีรู้สึกดีใจ ลุกขึ้นมาจากโซฟา พุ่งไปหาเผยหนานเจวี๋ยอย่างรวดเร็ว เมื่อได้กลิ่นเหล้าบนตัวเขา คิ้วก็ขมวดกัน 

 

 

           ฉู่อีอีทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ตั้งแต่ที่เขาออกโรงพยาบาล เธอก็แทบไม่เห็นเงาของเขาเลย ออกเช้ากลับดึกทุกวัน ดึกๆ ดื่นๆ ก็ดื่มจนเมามายกลับมา 

 

 

           “หนานเจวี๋ย ทำไมคุณดื่มเยอะขนาดนี้อีกแล้วล่ะ” เอ่ยปากไม่พอใจ น้ำเสียงฉู่อีอีแหลมคมเล็กน้อย 

 

 

           ไม่ได้ตอบคำถามฉู่อีอี เผยหนานเจวี๋ยยื่นมือปัดมือของฉู่อีอีที่เอื้อมออกมาหา เหลือบมองเธอ จากนั้นก็เดินโซซัดโซเซไปยังห้องรับแขก 

 

 

           พิงร่างอยู่บนโซฟาอย่างอ่อนแรง เขาหลับตาลง 

 

 

           ฉู่อีอีอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็กัดริมฝีปากแดง เดินไปนั่งลงข้างๆ เผยหนานเจวี๋ย 

 

 

           “หนานเจวี๋ย คุณเป็นอะไรไป ทำไมช่วงนี้คุณถึงเย็นชากับฉันขนาดนี้ คุณรู้หรือเปล่าว่าหัวใจของฉันทรมานมากจริงๆ” มองดูผู้ชายที่ตัวเองรักตรงหน้า หัวใจของฉู่อีอีเจ็บจนไม่สามารถหายใจได้ 

 

 

           ดวงตาที่เย็นชาเบิกกว้าง มองดูคนตรงหน้าที่หน้าตาละม้ายคล้ายกับฉู่เจียเสวียน เขาส่ายหัว ต้องการทำให้ตัวเองตื่นตัวขึ้นมาบ้าง ฉู่อีอีที่อยู่ตรงหน้ากับลักษณะของฉู่เจียเสวียนมีชั่วขณะหนึ่งที่เหมือนกันมาก 

 

 

           “ดื่มเยอะไปจริงๆ ผมจะเห็นเขาได้ยังไง คุณกับเขาไม่เหมือนกันสักหน่อย” พูดพึมพำกับตัวเอง ริมฝีปากที่บอบบางของเผยหนานเจวี๋ยยกยิ้ม 

 

 

           ถ้าหากเป็นฉู่เจียเสวียนล่ะก็ เมื่อเห็นว่าเขาดื่มขนาดนี้ ก็จะเริ่มยุ่งเป็นพัลวันแล้ว จะกุลีกุจอเตรียมน้ำแกงแก้สร่างให้เขาและเตรียมผ้าขนหนูร้อนให้เขาแล้ว 

 

 

           ฉู่อีอีรู้โดยธรรมชาติว่าคำว่า ‘เขา’ ที่หลุดจากปากเผยหนานเจวี๋ยคือใคร ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในใจโกรธจนกัดฟันกรอด ฉู่เจียเสวียน ฉู่เจียเสวียนอีกแล้ว หรือว่าเขาจะชอบเธอเข้าแล้วจริงๆ 

 

 

           ไม่ เธอจะไม่อนุญาตให้ฉู่เจียเสวียนแย่งผู้ชายที่เป็นของเธอไปอย่างแน่นอน 

 

 

           “หนานเจวี๋ย ฉันคืออีอี” ฉู่อีอีสูดหายใจลึก พยายามข่มความโกรธในใจเอาไว้ พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำให้น้ำเสียงเป็นปกติ มือที่อยู่ข้างลำตัวกลับแสดงความโกรธของเธออกมา น่าเสียดายที่เผยหนานเจวี๋ยกลับมองไม่เห็น 

 

 

           “ฉันรู้ว่าคุณยังโกรธฉันที่คราวก่อนทำให้คุณใส่ร้ายฉู่เจียเสวียนใช่ไหม หนานเจวี๋ย เรื่องนั้นฉันก็อธิบายกับคุณแล้ว ถ้าคุณรู้สึกโมโหจริงๆ ละก็ ฉันยอมรับคำด่าของคุณ แต่ว่าได้โปรดคุณอย่าทรมานตัวเองแบบนี้ได้หรือเปล่า แผลคุณเพิ่งหายดี อย่าล้อเล่นกับร่างกายของตัวเองอีก ฉันก็ปวดใจเป็นนะ” 

 

 

           ฉู่อีอีเอ่ยปาก มองดูผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า แววตาเผยความเจ็บปวด 

 

 

           ริมฝีปากบางๆ เม้มกัน ได้ยินคำพูดของฉู่อีอีแล้ว หัวใจของเผยหนานเจวี๋ยก็รู้สึกขมขื่น “คุณปวดใจแทนผมจริงเหรอ” 

 

 

           “แน่นอนว่าต้องปวดใจแทนคุณอยู่แล้ว คุณรู้หรือเปล่า คุณทำแบบนี้หัวใจของฉันทรมานจริงๆ ฉันรู้ว่าถึงปากคุณไม่พูด แต่ในใจยังกล่าวโทษฉัน แต่ว่าฉันก็พูดไปแล้ว ครั้งนั้นเป็นเพราะฉันไม่ระวังเองจริงๆ” ฉู่อีอีเอ่ยปากอีกครั้ง