ตอนที่ 274 หรือว่าเมื่อก่อนเธอแสร้งทำตัวดีเกินไป / ตอนที่ 275 ลืมแล้วเหรอว่าลูกของเธอเสียไปได้ยังไง

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 274 หรือว่าเมื่อก่อนเธอแสร้งทำตัวดีเกินไป

 

 

           “อีอี หวังว่าต่อไปคุณจะไม่หลอกผมนะ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากเรียบๆ แววตาเต็มไปด้วยความสับสน ใช่ว่าเขาจะไม่เข้าใจกลอุบายเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างผู้หญิง แต่การทำเรื่องเช่นนี้บ่อยเกินไปมีแต่จะทำให้เขาหมดความอดทนไปทีละน้อยๆ

 

 

           ฉู่อีอีในอดีตไม่ใช่แบบนี้แน่นอน

 

 

           เพราะฉู่เจียเสวียนปรากฏตัวเธอก็เลยไม่มีความรู้สึกปลอดภัยหรือเป็นเพราะว่านี่ก็คือนิสัยดั้งเดิมของเธอเพียงแค่เมื่อก่อนเธอแสร้งทำตัวดีเกินไปกันนะ?

 

 

           หวังว่าเรื่องเดียวกันนี้จะไม่เกิดขึ้นซ้ำสอง

 

 

           แน่นอนว่าฉู่อีอีเข้าใจความหมายในคำพูดของเผยหนานเจวี๋ย หัวใจเต้นระรัว สายตามองไปยังเผยหนานเจวี๋ยด้วยความสงบเป็นอย่างมาก

 

 

           “หนานเจวี๋ย คุณวางใจเถอะ ฉันสัญญาว่าคราวหน้าถ้าหากไม่มีหลักฐานฉันจะไม่พูดส่งเดชอีกแล้ว ครั้งนี้คุณยกโทษให้ฉันได้หรือเปล่า”

 

 

           “อีอี เรื่องครั้งนี้ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป ผมไม่โทษคุณ ดึกมากแล้ว ไปพักผ่อนก่อนเถอะ” เผยหนานเจวี๋ยพูดจบก็เดินขึ้นไปชั้นบนก่อน การก้าวเดินไม่มั่นคงนัก ฉู่อีอีเอื้อมมือต้องการจะประคอง แต่กลับถูกเผยหนานเจวี๋ยหลบหลีกเงียบๆ

 

 

           ตามเผยหนานเจวี๋ยไปตลอดทางจนถึงชั้นบน เดิมทีนึกว่าเผยหนานเจวี๋ยจะเข้าห้องนอน คิดไม่ถึงว่าเขาจะเปิดประตูห้องหนังสือทันที ยังไม่ทันรอให้เธอได้ตอบสนอง ประตูของห้องหนังสือก็ปิดเสียงดังปัง ปล่อยให้ฉู่อีอียืนตัวแข็งเป็นหินอยู่ที่เดิม

 

 

           มองประตูที่ปิดสนิทบานนั้น ความโกรธแค้นที่ฉู่อีอีอดกลั้นเอาไว้ในตอนแรกในเวลานี้ได้เอ่อล้นอยู่ในแววตาแล้ว มือที่อยู่ข้างลำตัวนั้นเล็บยิ่งจิกลึกเข้าไปในเนื้อ

 

 

           ฉู่เจียเสวียน ทั้งหมดคือความผิดของเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เผยหนานเจวี๋ยก็จะไม่ทำแบบนี้กับเธอ ทั้งหมดเป็นเพราะเธอ ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เดินเข้าห้องไปด้วยความเกรี้ยวกราด

 

 

           ในหัวนึกถึงเผยหนานเจวี๋ยที่ดื่มน้ำแกงที่เธอต้มวันนี้ ตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะส่งไปให้เขาอีก เธอจะต้องค่อยๆ เอาหัวใจของเผยหนานเจวี๋ยกลับมาที่ตัวเองอีกครั้ง เธอจะไม่อนุญาตให้ผู้หญิงคนอื่นที่นอกเหนือจากเธอเข้าใกล้เผยหนานเจวี๋ยอย่างแน่นอน

 

 

           วันต่อมาฉู่อีอีมาถึงบริษัทของเผยหนานเจวี๋ย เพิ่งจะถึงชั้นบน เลขาก็แจ้งว่าเผยหนานเจวี๋ยกำลังคุยงานอยู่ ฉู่อีอีพยักหน้า นั่งรอเผยหนานเจวี๋ยอยู่ในออฟฟิศของเขา

 

 

           ทันใดนั้นเกิดเหตุฉุกเฉิน ฉู่อีอีเข้าห้องน้ำไป คิดไม่ถึงว่าขณะที่ออกมาจะเห็นเงาของฉู่เจียเสวียน

 

 

           ดวงตาเบิกกว้างฉับพลัน เห็นฉู่เจียเสวียนที่ปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน ฉู่อีอียิ่งโมโหในใจ

 

 

           หญิงเลวคนนี้ มายั่วผู้ชายของเธออีกแล้วเหรอ กำมือแน่น แอบก้าวเดินตามหลังฉู่เจียเสวียนไป พบว่าเธอเดินเข้าห้องประชุมตามคาด

 

 

           ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ความโมโหภายหัวใจของฉู่อีอีราวกับว่ากำลังจะระเบิดออกมาแล้ว

 

 

           เธอจะต้องทน แผนการที่ยิ่งใหญ่นั้นอาจถูกทำลายได้ด้วยเพียงความไม่อดทนเพียงนิดเดียว พูดกับตัวเองในใจซ้ำๆ หันหลังหยิบหม้อเก็บความร้อนแล้วตรงไปยังลานจอดรถทันที

 

 

           ที่ลานจอดรถ ฉู่อีอีนั่งอยู่ในรถ ตั้งใจรอฉู่เจียเสวียน เธอจะต้องสั่งสอนเธอสักหน่อย นึกถึงช่วงนี้ที่เสียเปรียบฉู่เจียเสวียนอยู่เสมอ บนใบหน้าของเธอเผยความโกรธแค้น

 

 

           ครั้งนี้ไม่ว่าบัญชีเก่าหรือใหม่ก็จะคิดให้หมด

 

 

           ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ในที่สุดฉู่อีอีก็รอจนฉู่เจียเสวียนปรากฏตัว เห็นใบหน้าที่เย่อหยิ่งของเธอ ความเกลียดชังในแววตาของฉู่อีอียิ่งหนักหน่วง ยื่นมือเปิดประตู รีบลงมาจากรถ

 

 

           “ฉู่เจียเสวียน” เสียงที่คมชัดแสบหูดังขึ้น ฉู่เจียเสวียนหยุดเดินตามสัญชาตญาณ

 

 

           หันไปยังที่มาของเสียง ก็เห็นฉู่อีอีกำลังมองเธอด้วยสีหน้าโกรธแค้น

 

 

           เลิกคิ้ว แหม ดูจากท่าทางเธอแบบนี้ เหมือนกับว่าตั้งใจรอเธออยู่ที่นี่สินะ

 

 

           “คุณหนูฉู่ บังเอิญจังเลย? คุณคงไม่ได้ตั้งใจอยู่ที่นี่เพื่อรอฉันหรอกนะ” เสียงที่สดใสระคนรอยยิ้มดังขึ้น ฉู่เจียเสวียนหันหลังไปเผชิญหน้ากับฉู่อีอี

 

 

 

 

      ตอนที่ 275 ลืมแล้วเหรอว่าลูกของเธอเสียไปได้ยังไง

 

 

           ฉู่เจียเสวียนมาประชุมหารือร่วมกับเผยหนานเจวี๋ย วันนี้เธอสวมกระโปรงครึ่งตัวสีเบจอ่อน เข้ากันกับหิวขาวดุจหิมะของเธอ ผมยาวที่หยิกเล็กน้อยปล่อยสยายอยู่ด้านหลัง บนใบหน้ามีรอยยิ้ม

 

 

           แววตาเผยความเย็นชา มองฉู่อีอีตาไม่กระพริบ

 

 

           เมื่อฉู่อีอีเห็นฉู่เจียเสวียนที่มีลักษณะสดใสและน่ารื่นรมย์ ความโมโหในใจก่อตัวขึ้น แววตาที่มองฉู่เจียเสวียนกลายเป็นความดุร้าย

 

 

           “ฉู่เจียเสวียน เธอมาที่บริษัททำไม มายั่วหนานเจวี๋ยเหรอ” ยิ้มเอ่ย ไม่สามารถมองเห็นความโกรธบนใบหน้าของฉู่อีอีได้ ก้าวเท้าเดินเข้าใกล้ฉู่เจียเสวียน

 

 

           เห็นว่าฉู่อีอีใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ใบหน้าของเธอเพียงแต่ยิ้มเย็นชา ไม่มีความขลาดกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว ดวงตาที่งดงามจ้องฉู่อีอีไม่กระพริบ

 

 

           ถ้าหากเป็นเธอเมื่อสามปีก่อน เมื่อเห็นฉู่อีอีคาดว่าเธอคงจะกลัวจนคิดอยากจะหนีสินะ คิดมาถึงตรงนี้ ฉู่เจียเสวียนยิ่งมองฉู่อีอีด้วยความกล้าหาญ

 

 

           “คุณหนูฉู่ คุณถามแบบนี้เพราะไม่เชื่อใจคนรักของคุณหรือว่าไม่เชื่อใจตัวเอง” ริมฝีปากแดงขยับขึ้นลง เธอมองฉู่อีอี ใบหน้าเปื้อนยิ้มดุจสายลมสดชื่นยามฤดูใบไม้ผลิ

 

 

           “ฉู่เจียเสวียนเธออย่าภูมิใจไป ไม่ช้าก็เร็วฉันจะให้เธอได้รู้ถึงความร้ายกาจของฉัน!” กัดฟันพูด ฉู่อีอีไม่สงบนิ่งต่อไปอีกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่เจียเสวียน เธอยิ่งโมโห

 

 

           ตั้งแต่ที่ผู้หญิงคนนี้กลับประเทศมาก็มักจะมีท่าทางยโสโอหังอยู่เสมอ เธอเกลียดเธอที่เป็นแบบนี้ที่สุด

 

 

           “ฉันได้ลองความร้ายกาจของเธอมาแล้ว ทำไม เรื่องคราวที่แล้วเธอยังไม่เข็ดอีกเหรอ ครั้งนี้คิดลูกเล่นอะไรออกอีกล่ะ” พูดจาอย่างเมินเฉย ใบหน้าของฉู่เจียเสวียนไร้ซึ่งความกลัว

 

 

           เธอในตอนนี้จะกลัวเธองั้นเหรอ เธอกลัวว่าเธอจะไม่ทำอะไรมากกว่า

 

 

           ได้ยินฉู่เจียเสวียนพูดถึงเรื่องคราวที่แล้ว ฉู่อีอีโมโหจนกัดฟันกรอด คราวที่แล้วหากไม่ใช่เพราะเธอ หนานเจวี๋ยของเธอก็จะไม่เย็นชากับเธอถึงเพียงนี้

 

 

           แววตาที่มองฉู่เจียเสวียนเผยให้เห็นความเกลียดชังรุนแรง มือที่อยู่ข้างลำตัวกำแน่น ข่มความโกรธอยู่ในใจอย่างเอาเป็นเอาตาย

 

 

           อดทน เธอต้องอดทน เธอยังไม่ลืมเป้าหมายของตัวเองที่รอฉู่เจียเสวียนอยู่ตรงนี้

 

 

           “เรื่องคราวก่อนฉันประมาทเอง” ฉู่อีอีสูดหายใจเบาๆ จากนั้นเสียงที่หยิ่งผยองก็ดังขึ้น

 

 

           คราวก่อนเพราะเธอโชคดี ฉะนั้นจึงหาหลักฐานได้

 

 

           “เธอประมาทเกินไปแล้วจริงๆ ถ้างั้นครั้งนี้ที่ตั้งใจมารอฉันที่นี่เพราะเรื่องอะไรอีกล่ะ”

 

 

           “ฉู่เจียเสวียน เธอไปจากเมืองนี้ซะดีหรือเปล่า เธอไม่ชอบหนานเจวี๋ยไม่ใช่เหรอ ทำไมเธอยังอยู่ที่นี่ล่ะ” ฉู่อีอีเอ่ยปากสิ่งที่อยู่ส่วนลึกที่สุดในใจ จ้องเธอตาไม่กระพริบ

 

 

           ริมฝีปากแดงยกยิ้ม รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่เจียเสวียนยิ่งแจ่มใสกว่าเดิม “ฉู่อีอี เธอนึกว่าเธอเป็นใคร เธอมีสิทธิ์อะไรให้ฉันออกไป ฉันอยู่ที่นี่แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย ฉันขอร้องเธอล่ะ ใช้ความคิดให้มากกว่านี้อีกนิดว่าจะมัดใจผู้ชายยังไงเถอะ”

 

 

           พูดจบก็หันหลังจากไป ในวินาทีที่หันไปนั้นเอง รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่เจียเสวียนจางหายไป

 

 

           มองดูฉู่เจียเสวียนที่กำลังจะจากไป ประมาณการว่าเผยหนานเจวี๋ยก็ใกล้จะลงมาแล้ว เธอรู้ดีว่าหากพูดกับฉู่เจียเสวียนดีๆ เธอจะต้องไม่ฟังอย่างแน่นอน ต้องบีบบังคับให้เธอใช้ลูกไม้นี้!

 

 

           “ฉู่เจียเสวียน เธอลืมแล้วเหรอว่าลูกของเธอเสียไปได้ยังไง”

 

 

           เพียงประโยคเดียวทำให้ฉู่เจียเสวียนหยุดเดิน เนื้อตัวสั่นเทาอยู่ที่เดิม ดวงตาเกิดอาการระคายเคือง

 

 

           สามปีมานี้ ลูกคือเหตุการณ์ที่เป็นฐานที่ใหญ่ที่สุดในใจของเธอ มันคือแผลเป็นที่เธอไม่สามารถแตะต้องได้

 

 

           หลายต่อหลายคืนที่เธอหลับฝัน ก็ฝันเห็นลูกคนนั้นของเธอที่ยังไม่ทันลืมตาขึ้นมาดูโลก ความเจ็บปวดก่อตัวขึ้นภายในใจ ฉู่เจียเสวียนหันกลับมา ความเย็นชาในดวงตายิ่งล้ำลึกกว่าเดิม

 

 

           ชาตินี้เธอไม่มีวันลืมว่าลูกของเธอตายยังไง!