ตอนที่ 481 : แหงนมอง
ในกลุ่มพูดคุยของเซียนกระบี่พิชิตมาร
ถังหมูถาม [มาสนุกด้วยกันมั้ย?]
ความคิดที่กล่าวถึงโดยผู้ฝึกฝนสองสามคนในกลุ่มพวกเขาได้แพร่กระจายออกไปยังสาวกของสำนักสวรรค์พวกเขาไม่รู้ว่าข่าวจริงหรือไม่ แต่แนวคิดนี้ถือเป็นแรงบันดาลใจให้คนหนุ่มสาวได้กระตุ้นความคิด
องค์ชายห้าจี้หยางแทรกขึ้น [ทำไมพวกเจ้าไม่มาเที่ยวดาจินของเราบ้างละ?]
ซูฉีซินเสริม [ใช่ๆ ที่นั่นดูไกลมาก]
ปีศาจดำ [หรือจะมาที่เมืองครึ่งของเรา
ซงฉิงเฟิงปฏิเสธ [ใครจะอยากไปที่เมืองครึ่งที่นั้นโหดร้ายแม้แต่ผู้คนเดินตามถนนยังถูกทุบดี]
ปีศาจดำที่นั่งอยู่หน้าคอมขมวดคิ้วกระทืบเท้า [เจ้าพวกตัวแสบ เจ้ากล้ามามั้ย?]
เสี่ยวหยูกล่าว [พี่ซูบอกว่าจะมาที่นี้ เธอจะมาเยี่ยมข้า!]
“หืม?”
“ข้าก็ไป!”
“ข้าด้วย!”
ในร้านจิวหัว ชื่อเต๋ปรมาจารย์แห่งวังหลิวหยุนวางชุดหูฟังวีอาร์และหันไปหาซูเทียนจิที่กำลังจิบชานมทำสวนผัก “ศิษย์น้องเจ้าใช่มั้ยที่วางแผนว่าจะไปเยี่ยมชมสถานะจิตวิญญาณที่นั่น?”
“ใช่! ขาเริ่มเบื่อที่จะนั่งอยู่กับที่ในร้าน จข้าเลยวางแผนจะไปเที่ยว” เธอบอก “เปียความคิดที่ดีหรือไม่ที่จะไปเยี่ยมเยียนเจียงเสี่ยวหยู?”
กงซูเกาที่กำลังเล่นสตาร์คราฟได้ยินข่าวที่น่าสนใจ “มันอยู่ไกลมากเทคนิคการควบคุมดาบจะใช้เวลานานมั้ยในการเดินทาง หากพิจารณาถึงอันตรายระหว่างทางแล้ว ข้าผู้มากประสบการณ์ไม่คิดว่าพวกเจ้าจะผ่านน่านท้องทะเลนั้นได้”
กงซูเกาลูบเครา “ต้องเดินทางผ่านน่านน้ำท้องทะเล ข้ากลัวว่าพวกเจ้าจะเป็นอันตราย เพราะทุกๆ สามพันปีท้องทะเลจะสงบแม้แต่ผู้มีอำนาจยังต้องรอเวลา แล้วยังว่ากันว่าดินแดนแห่งหยุนเตี้ยนใครที่ไปเหยียบที่นั่น ไม่เคยมีใครรอดกลับมา”
“จริง?” ซูเทียนจิเล็กคิ้ว
ตอนนี้หลายคนต่างถามหาฟางฉี
ผู้คนจากสองร้านต่างรู้จักกันผ่านอินเตอร์เน็ตเท่านั้นยังไม่เคยมีใครเคยเห็นหน้ากันมาก่อน ซึ่งบางคนเองก็ยังไม่รู้ว่ามีชื่อสถานที่อย่างเมืองครึ่งด้วยซ้ำ ในอดีตพวกเขาเคยคิดว่าแผ่นดินข้างหน้าคือพื้นแผ่นเดียวกันทั้งโลก
แต่ตอนนี้พวกเขาค้นพบว่ามีทวีปที่กว้างใหญ่อยู่นอกมหาสมุทร ซึ่งมีความสมจริงมากกว่าโลกจิตนาการในเกม
พวกเขาค้นพบทวีปใหม่โดยแท้จริง!
ขณะที่ผู้เล่นบางคนวางแผนที่จะออกจากร้านและออกดินทางท่องเที่ยวถานจิตวิญญาณที่สานักหลิงหยุน
วิญญาณอาฆาต!?
“ดู! นั่นอะไร?”
เวลาเดียวกันผู้อาวุโสของสำนักเพิ่งเสร็จสิ้นจากการสอน เหล่าสาวกทยอยเดินออกมา แต่เมื่อหันมองขึ้นฟ้ากลับพบเมฆดำปกคลุมท้องฟ้าเหนือสำนักสวรรค์ เงาขนาดใหญ่ค่อยๆ ทะลุเมฆก่อตัวคล้ายภูเขาเงาดำทำรูปเป็นสัตว์อสูรต่างๆ
เรือจิตวิญญาณล่าใหญ่ปรากฏขึ้นมันมีสีดำสนิท มองผ่านคล้ายกับสัตว์ประหลาดร้ายที่กำลังบินโดยมีเหล่าเงาล้อมรอบ
เสียงคำรามของสัตว์ดุร้ายดังสนั่นมาจากเรือจิตวิญญาณราวกับว่าเทพเจ้าปีศาจกำลังจะเหยียบพื้นผิวโลก
อย่างไรก็ตาม แววตาของพวกเขาดูหมองหม่น
“อะไร? ครอบครัวเจียงปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกิจกรรมของเรา?” หนานกงหลินถาม “มีแค่สองตระกูลที่ส่งผู้อาวุโสมาแค่นั้นหรอ?”
“ฮีม แล้วพวกเขาจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจ!” เขานั่งลง
“อาจารย์หนานกง ท่านหมายความว่างอย่างไร?” แขกคนหนึ่งเอ่ยตามด้วยเสียงเย็นชา
การขับเรือขึ้นท้องฟ้าเหนือกองกำลังอื่นนั่นหมายความว่าเขากำลังประกาศสงคราม!
ข้างหลังเขา ชายร่างสูงสวมชุดเกราะสีดำทรงแบบตา เขาแสดงความเคารพต่อหนานกงหลิน
“หนานกงชูว!?”
พวกเขาเห็นว่าชายคนนั้นคือหนานกงชูว
อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขาดูยืดยาวขึ้นดวงตาดูชีขั้น โดยรวมแล้วหนานกงชวดูแปลกตาไปจากเดิม
“ชิง หมิง” เสียงของเขาฟังดูแหบพร่าราวกับไม่ได้กินน้ำมาเป็นเวลานาน
หนานกงหลินหัวเราะ “เด็กคนนี้โชคดีที่ปรมาจารย์ของเรายมร่างของเขา”
“แน่นอนว่า เจ้าอาจไม่คุ้นเคยกับพลังนี้”
“มันเกิดอะไรขึ้น?”
“อะไร?”
“ปรมาจารย์จากตระกูลเจ้านั่นตายในการต่อสู้ครั้งนั้นไม่ใช่หรือ?”
แขกรับเชิญมีสีหน้าสยอดสยองเมื่อเห็นชายผู้นี้ปรากฏขึ้น .. มันไม่ใช่การปรากฏตัวของมนุษย์
“ผู้อาวุโส .. สำนักสวรรค์อยู่ที่ไหน!?”
“เขาอยู่ที่ร้านต้นกำเนิดคาเฟอินเตอร์เน็ต
“แล้วรองผู้อาวุโสอยู่ที่ไหน?”
“ผู้อาวุโสพาพวกเขาไปเรียนรู้วิธีเล่นสตาคราฟ..”
“…” ผู้เฒ่าหยหยิบหยกสื่อวานออกมาและส่งข้อความอย่างเมามัน
“ทำไมพวกเขาไม่ส่งข้อความกลับ!”
ณ ร้านค้าเมืองหยวนหยาง ชายชราผมขาวชี้นิ้วไปที่หน้าจอ
“จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน?” ผู้เฒ่าหยูรู้สึกสงบขึ้นเล็กน้อยเมื่อมองดูรูปแบบจิตวิญญาณสีฟ้าอันหนาซีดบนท้องฟ้า
“วังดาบอาจจะใช้เวลาราวๆ หนึ่งเดือนในการทำลายอนาเขต”
ผู้เฒ่าหยูพยักหน้า “ข้าได้ส่งข้อความไปยังท่านอาจารย์และขอให้พวกเขากลับมาโดยเร็วที่สุด”
ทันทีที่เขาพูดจบ เสียงตะโกนอันน่าตกใจดังขึ้น “แหงนมองท้องฟ้า!” รอยดาบสีดำปรากฏขึ้นเผยให้เห็นเรือจิตวิญญาณของตระกูลหนานกงก่าลังแล่นผ่าน
หนึ่งในผู้อาวุโสของวังดาบกล่าว “นี่คือปูติผลไม้จิตวิญญาณที่ใช้เวลาพันปีในการบานสะพรั่งและอีกพันปี เพื่อสุกโปรดสนุกกับมัน” เขาพูดจบสาวใช้ปล่อยผลไม้นี้ลงไป