บทที่ 823 มาพาคนของผมไป / บทที่ 824 ยุคสมัยของพวกเรา

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 823 มาพาคนของผมไป

ทั้งสองปรับเปลี่ยนบททันที โดยไม่ได้ถามความเห็นของลู่เฉินแม้แต่น้อย

ลู่เฉินกำมือที่ข้างลำตัวแน่น

ในวงการบันเทิง ความจริงเรื่องอย่างนี้พบเจอกันได้ปกติมาก ประสบการณ์ที่แย่กว่านี้เขาก็เคยเจอมาหมดแล้ว…

เพียงแค่ตั้งแต่ที่กลับมาโด่งดัง เขาได้พี่เยี่ยปกป้องดีเกินไป พี่เยี่ยไม่เคยให้เขาเจอกับเรื่องพวกนี้ สิ่งเดียวที่เขาต้องทำมีแค่แสดงละครให้ดีเท่านั้น…

ไช่หย่งเซิ่งมองกงซวี่ด้วยท่าทีโอหัง “แล้วก็เธอนะกงซวี่ อย่าลืมว่าเดี๋ยวตอนที่ซีซีจูบเสร็จ เธอต้องเข้าไปต่อยลู่เฉินทันที! ต่อยให้สมจริงหน่อย เข้าใจไหม เรื่องนี้เธอน่าจะเชี่ยวชาญนะ ฮ่าๆๆ”

กงซวี่กำหมัดจนส่งเสียงดังกร๊อบ ดวงตาทอประกายแดงฉาน…

ผู้กำกับตบมืออย่างทนรอไม่ไหว “เอาละๆ ทุกคนอยู่ประจำตำแหน่งตัวเอง เริ่มถ่ายทำกันเถอะ!”

ช่วงเล่นเกมเสร็จสิ้นตามบทโดยสมบูรณ์ ในช่วงเวลานั้นหยางลู่ซีแตะต้องลู่เฉินสารพัด แม้กระทั่งกงซวี่ก็จวนจะทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว ทว่าลู่เฉินกลับอดทนได้ตลอดไม่ได้วู่วาม

หลังจากเล่นเกมจบ พิธีกรเอ่ยด้วยน้ำเสียงเกินจริงว่า “ว้าว! เก่งจริงๆ เลย! ขอแสดงความยินดีกับลู่เฉินและหยางลู่ซีของพวกเราที่ได้ที่หนึ่ง! เทพธิดาลู่ซีควรมอบกอดให้ลู่เฉินเป็นรางวัลหน่อยไหมครับ”

หยางลู่ซีพูดด้วยความเขินอาย “ต้องขอบคุณลู่เฉินที่คอยดูแลฉันในเกมค่ะ ดีใจมากเลยที่ได้ที่หนึ่ง! ลู่เฉิน ขอบคุณเธอนะ!”

หยางลู่ซีพูดจบก็เดินไปหาลู่เฉิน เธอเหมือนมองเห็นแล้วว่าหลังจากรายการออกอากาศเรตติ้งที่ได้จะกระฉูดแค่ไหน…

ลู่เฉินยืนอยู่กับที่ หลังแข็งทื่อเล็กน้อย กงซวี่ที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้าอึมครึมจนถึงขีดสุดแล้ว เยี่ยมู่ฝานเองก็มีสีหน้าร้อนใจ

ถ้าเป็นไปตามบทของผู้กำกับจริงๆ ภาพลักษณ์ที่ตั้งไว้ของกงซวี่กับลู่เฉินก็นับว่าจบสิ้นกันแล้ว ข่าวลือที่ว่าทั้งสองคนไม่ลงรอยกันจะเป็นความจริง แล้วก็ลู่เฉิน ภาพลักษณ์เขาคือประเภทเว้นระยะห่างกับผู้หญิง…

หยางลู่ซีเดินทีละก้าวไปถึงตรงหน้าลั่วเฉิน แกล้งทำเป็นเขินอายพลางแนบชิดเข้าไปหาเขา…

“บัดซบเอ๊ย…” เยี่ยมู่ฝานเดินวนไปมาอย่างร้อนใจ

หยางลู่ซียื่นมือกอดลั่วเฉิน จากนั้นอาศัยโอกาสนี้เล็งริมฝีปากสีแดงสดไปที่ใบหน้าเขาอย่างอดรนทนไม่ไหว…

ชั่ววินาทีที่ริมฝีปากของหยางลู่ซีกำลังจะแตะลู่เฉิน เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น ทั้งตัวของลู่เฉินพลันถูกคนกระชากไปด้านหลัง…

ลู่เฉินรู้สึกแค่ว่าร่างกายที่แข็งทื่อของตัวเองพลันถอยไปด้านหลัง จากนั้นก็ชนเข้ากับร่างของใครบางคนอย่างแรง ก่อนจะได้กลิ่นที่คุ้นเคยอีกทั้งทำให้จิตใจสงบลอยมาจากด้านหลัง…

ลู่เฉินหันไปยังไม่อยากเชื่อ หลังจากที่เขาเห็นอีกฝ่าย รูม่านตาพลันหดตัว “พะ…พี่เยี่ย…”

เขาเห็นชายหนุ่มสวมชุดสูทสีท้องฟ้าสไตล์ย้อนยุค ที่ชายเสื้อปักลวดลายแบบจีนดูหรูหราสวยงาม ด้านในแขนเสื้อมีเสื้อซับในสีขาวเผยออกมาให้เห็น ขับเน้นให้นิ้วเรียวขาวผ่องที่กำลังดึงลู่เฉินอยู่ดูผ่องใสราวกับหยก มุมปากของชายหนุ่มยกขึ้นน้อยๆ ความเฉยชาในดวงตาที่ชำเลืองมองผู้คนอย่างดูถูกเจือแววยิ้มที่เย็นยะเยือกไว้…

หากนี่เป็นยุคโบราณ ชายตรงหน้าเวลานี้ก็ต้องเป็นคุณชายตระกูลใหญ่ที่พราวเสน่ห์ สูงศักดิ์และเอาแต่ใจตัวเองไม่ผิดแน่…

ไม่รู้ว่าเยี่ยไป๋ปรากฏตัวขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ก่อนที่หยางลู่ซีจะแตะต้องตัวลู่เฉิน ก็ดึงลู่เฉินมาปกป้องไว้ด้านหลังในรวดเดียว

“พี่เยี่ย พี่กลับมาแล้ว!” กงซวี่ส่งเสียงร้องอย่างตื่นเต้น

จนกระทั่งได้ยินเสียงของกงซวี่ ทุกคนในที่นี้จึงค่อยตอบสนอง ได้สติกลับมาจากความน่าตกใจเมื่อครู่นี้

เมื่อเห็นเยี่ยไป๋โผล่มากะทันหัน แถมยังขัดขวางการถ่ายทำโดยไม่ได้รับอนุญาต ไช่หย่งเซิ่งก็เปลี่ยนสีหน้า “เยี่ยไป๋ นี่หมายความว่ายังไง”

รอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าเยี่ยหวันหวั่นแย้มกว้างอย่างช้าๆ เสียงของเธอเหมือนสายลมที่พัดผ่านมาจากทิวเขา “ก็ไม่ได้หมายความว่าอะไร แค่มาพาคนของผมไปก็เท่านั้น”

————————————————————————

บทที่ 824 ยุคสมัยของพวกเรา

เวลานี้ นักแสดงและทีมงานโดยรอบพากันกระซิบกระซาบ…

“ว้าว…ละ…หล่อจัง…คนนั้นคือใครน่ะ”

“ได้ยินผู้อำนวยการไช่เรียกเขาว่าเยี่ยไป๋…เหมือนจะเป็นผู้จัดการของกงซวี่กับลู่เฉินนะ เป็นรองประธานคนใหม่ของกวางเย่ามีเดีย!”

“เชี่ย! จริงเหรอเนี่ย! ไม่น่าเชื่อว่าจะมีผู้จัดการที่หน้าตาหล่อขนาดนี้อยู่ด้วย? ถ้าผู้จัดการหน้าตาเป็นแบบนี้หมด จะมีนักแสดงกี่คนเรียกร้องขอเอาตัวเข้าแลกกัน”

หยางลู่ซีเห็นว่าโอกาสของข่าวลือสุดร้อนแรงในวงการถูกทำลายไปแล้ว ก็เผยสีหน้าไม่พอใจ หันไปมองไช่หย่งเซิ่งอย่างขอความช่วยเหลือ

เห็นเยี่ยไป๋ท้าทายตัวเองต่อหน้าทุกคน ไช่หย่งเซิ่งสีหน้ามืดทะมึน พูดเสียงลอดไรฟันว่า “เอาคนของนายไปอะไรมิทราบ ที่นี่มีคนของนายที่ไหน! กงซวี่กับลั่วเฉินเป็นคนของบริษัท! นายรู้รึเปล่าว่าพวกเราอัดรายการกันอยู่?”

เยี่ยหวันหวั่นตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน “แล้วยังไงล่ะ”

ไช่หย่งเซิ่งมีแผนอยู่ เอ่ยข่มขู่ด้วยสีหน้าเปี่ยมความดูถูก “เยี่ยไป๋ นายจะแข็งข้อกับฉันก็คิดดีๆ ก่อนดีกว่า! ถ้าประธานฉู่รู้เรื่องที่เธอทำวันนี้ ผลที่ตามมา…”

เขากังวลที่จับจุดอ่อนของเด็กนี่ไม่ได้อยู่พอดี ตอนนี้ได้จังหวะแล้ว เจ้าตัวมาหาเขาด้วยตัวเอง เขาจะถือโอกาสนี้แจ้งความประพฤติของอีกฝ่าย ยิ่งลดขั้นได้ยิ่งดี…

ไม่อย่างนั้นถ้าเยี่ยไป๋อยู่ตำแหน่งสูงคอยกดหัวเขา เขาก็ไม่พอใจมากจริงๆ!

“อ้อ? ผลที่ตามมา?” เยี่ยหวันหวั่นเลิกคิ้ว ก่อนจะใช้นิ้วคีบจดหมายบางๆ ออกมาหนึ่งฉบับและโบกมันไปมา “คุณหมายถึงอันนี้เหรอ”

บนจดหมายฉบับนั้นเขียนคำว่า ‘ลาออก’ อันน่าตกใจไว้

หลังเห็นจดหมายฉบับนั้นชัดเจน ม่านตาของไช่หย่งเซิ่งหดลงทันใด มองที่เยี่ยไป๋ด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ “นะ…นี่นายจะลาออก?”

ไช่หย่งเซิ่งนึกไม่ถึงแม้แต่น้อย ว่าเยี่ยหวันหวั่นจะถึงกับกล้าลาออก!

วงการบันเทิงตอนนี้เหมือนคลื่นยักษ์ชะล้างทราย การเข้ามายากเพียงไหนใครๆ ก็รู้ ด้วยอายุอย่างเขาได้เป็นถึงรองประธาน ตำแหน่งนี้คนปกติยังไม่กล้าคิดด้วยซ้ำ เขาจะเต็มใจละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ตอนนี้เชียวเหรอ?

เยี่ยหวันหวั่นโยนจดหมายให้ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ไช่หย่งเซิ่ง “ก็อย่างที่คุณเห็น”

บัดซบเถอะ! ไอ้เด็กเหม็นเน่านี่ถึงกับกล้าลาออก!

ไช่หย่งเซิ่งจ้องเยี่ยไป๋เขม็ง “เยี่ยไป๋! ได้ ดีเลย แกมันแน่มาก! แกอยากลาออกใช่ไหม ในเมื่ออยากลาออก งั้นตอนนี้แกก็ไม่ใช่คนของกวงเย่าแล้ว มีคุณสมบัติอะไรมาดูแลเรื่องของกงซวี่กับลู่เฉิน?”

เยี่ยหวันหวั่นมองไปทางลั่วเฉินกับกงซวี่ ดวงตาเปล่งประกายราวกับแสงอาทิตย์สว่างไสว “ไปกับฉันไหม?”

ลั่วเฉินกับกงซวี่สบตากัน ก่อนจะพยักหน้าอย่างไร้ซึ่งความลังเล

แววตาหม่นหมองของลั่วเฉินเต็มไปด้วยแสงสว่างในพริบตา ใบหน้าจริงจังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “พี่เยี่ย พี่ไปไหน ผมไปด้วย”

กงซวี่ก็มีสีหน้าตื่นเต้นมาก “โอ้โห ในที่สุดพี่ก็พูดคำนั้นสักที ผมรอจนฟ้าดินจะสลายแล้ว!”

เมื่อเห็นนักแสดงแนวหน้าสองคนที่ทำเงินได้มากที่สุดของกวงเย่าจะไปด้วยกันกับเยี่ยไป๋ ในที่สุดไช่หย่งเซิ่งก็ร้อนใจแล้ว จึงตะคอกต่อหน้าทุกคน “พะ…พวกแก! พวกแกบ้าไปแล้วเหรอ พวกแกรู้ผลของการละเมิดสัญญารึเปล่า กงซวี่ ลั่วเฉิน มีแค่คนฉลาดที่อ่านสถานการณ์ออก เยี่ยไป๋ไม่มีอำนาจบารมี ออกจากกวงเย่าไปก็ไม่มีอะไรทั้งนั้น พวกนายตามเขาไปเป็นการดับอนาคตตัวเองชัดๆ! ทางที่ดีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจดีกว่า!”

ลั่วเฉินยืนตรงนั้นอย่างแน่วแน่ ไม่เอ่ยอะไร แต่ถอดป้ายชื่อรายการบนแขนออกทันที

กงซวี่หงายมือถอดเสื้อทีมบนตัวออกและโยนไว้บนพื้น เขาเปลือยท่อนบน ชูนิ้วกลางใส่ไช่หย่งเซิ่ง “ซาโยนาระนะ ไอ้โง่!”

ขณะเดียวกัน เยี่ยมู่ฝานก็ม้วนแจ็กเก็ตของหยางลู่ซีที่ถือไว้ยัดคืนผู้ช่วยของเธอ สะบัดผมสั้นข้างหน้าผากแล้วผิวปากเอ่ย “เฮ้ ยังมีฉันด้วยคน!”

“ยู้ฮู่! เป็นอิสระแล้ว! พี่เยี่ย พาผมไปกับพี่ด้วย…”

ห่างออกไปไกล กงซวี่ร้องดีใจพลางกระโดดโลดเต้น

แสงอาทิตย์ยามเย็นลับฟ้า แผ่นหลังที่จากไปของพวกเขาเหมือนเคลือบด้วยทองส่องประกาย…

ยุคสมัยของพวกเราเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น…

ขณะมองทั้งสี่คนจากไปอย่างสง่าผ่าเผยไร้ความลังเล พวกไช่หย่งเซิ่ง หยางลู่ซี และผู้กำกับรายการที่อยู่ด้านหลังตาโตอ้าปากค้างกันหมด…

……………………………