ตอนที่ 483 : นั้นเจ้าของ!?
หนานกงหลินยืนหัวเราะอย่างบ้าคลั่งบนเรือจิตวิญญาณของเขา “ข้าคิดว่าสำนักสวรรค์นั้นทรงพลัง แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่ามันเป็นแค่กลุ่มคนไร้ค่า!”
“ฮ่าๆๆๆๆ ข้าคิดว่ามีเพียงนักบุญผู้เดียวที่ตื่นขึ้น แต่นี่ถึงสามคนยังทำอะไรไม่ได้” ผู้อาวุโสคนที่สองยืนข้างๆ หนานกงหลินเอ่ยขึ้น “ท่านอาจารย์ผู้ทรงพลังบางคนได้หายตัวไปจากสำนักสวรรค์ มีคนบอกเล่าว่าเขาอยู่ในร้านเล็กๆ ที่ยุ่งกับเรา ข้าจะพาพวกเราไปจับเขา เราจะทำลายทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับร้านนี้!”
“ไป!” ใบหน้าของหนานกงหลินมีดลง
หัวหน้าครอบครัวโบราณหลายครอบครัวที่อยู่บนเรือจิตวิญญาณถูกบังคับให้นั่งดูการต่อสู้
ฟางฉีตบหน้าผากตัวเองเขารู้สึกวิงเวียนเล็กน้อยหลังจากถูกทรมานกว่าครึ่งปีในห้องฝึกฝน
“หม? เจ้าของเป็นอะไร เขาดูหน้าซีด เขาไปทำอะไรชั้นบน!?”
“ฮะ ข้ารู้สึกว่างเปล่าเหมือนไม่ได้ทำสิ่งนั้นมานานแล้ว” ฟางฉีสายหัวเห็นคนกลุ่มหนึ่งมองมาทางเขาและอ้าปากค้าง
“เมื่อกี้พวกเจ้าว่าไงนะ?” ฟางฉีขมวดคิ้ว “เสี่ยวหยกำลังโดนรังแก?”
ความเข้าใจอย่างกระทันหัน เขาตบโต๊ะและตะโกนว่า “พวกเขาไม่รู้หรือไงว่าเสี่ยวหยูอยู่ภายใต้การคุ้มครองของข้า!”
“อะไรนะ!? มีใครกล้ารังแกน้องสาวข้าหรอ?” เจียงซวนลุกขึ้นยืนทันที
ผู้พิทักษ์ทั้งสองเซ็นหยันและชื่อหมิงตบโต๊ะ “มีคนกล้ารังแกองค์หญิงน้อยของเราหรือฝ่าบาท!”
“ไป ไปจัดการพวกมัน!”
ฟื้ว! ปิ้ว! ปิ้ว!
พลังงานดาบจำนวนมากพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้านองเมืองหยวนหยางในทันที
ณ สำนักสวรรค์ เวลาปัจจุบัน
ในเวลานี้สาวกส่วนใหญ่มารวมตัวกันรอบๆ ผู้อาวุโสแม้ว่าความแข็งแกร่งโดยรวมของสำนักจะมากกว่าวังดาบ แต่หลายคนเองรู้สึกเป็นกวังวลและหวาดกลัว ท้ายที่สุดแนวป้องกันอันยิ่งใหญ่ของสำนักในเวลานี้ถูกฉีกออกอย่างง่ายดายด้วยการโจมตีของพลังดาบเพียงครั้งเดียว เมฆสีทองถูกดูดกลืนหายไป
หนานกงหลินที่ยืนมองอยู่บนเรือ สายตาของเขาดูเย็นชาและเยือกเย็นจนไม่อาจคาดเดา
ถ้าไม่ใช่เพราะเมฆสีทองที่ขัดขวางการโจมตีนั้น ป่านนี้ทั้งสาวกและรวมไปถึงผู้อาวุโสคงจะถูกถล่มลงกับพื้นไปแล้ว
ตระกูลโบราณอย่างหนานกงมีไพ่ในมือหลายใบและนี่เป็นเพียงหนึ่งในนั้น พวกเขาอุดมไปด้วยทรัพยากรและผู้ฝึกฝนมีความสามารถมากมาย เรือล่าใหญ่มีเมฆก้อนดำขนาบข้างมันกระจายตัวคล้ายปีก ร่างด่าอันน่ากลัวคือไพ่ตายใบที่สองของวังดาบ
“ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมาวังดาบนั้นก้าวร้าวและหยิ่งผยอม” ผู้เฒ่าหยูตะโกนเสียงแข็ง “เจ้าเริ่มแผนการมากว่าพันปีก่อนใช่มั้ยละ รอต่อไปไม่ได้แล้วหรอ?”
“รอ!?” หนานกงหลินยืนอยู่บนหัวเรือจิตวิญญาณเขาปรายตามองลงมายังพื้นดิน “เราไม่ต้องรออีกต่อไป วันนี้แหละข้าจะทำลายสำนักสวรรค์ให้สิ้น ใครไม่ยอมรับมันจะต้องตาย!”
“คนนี้ช่างอวดโอ้!” เจียงเสี่ยวหยูจ้องมองไปบนท้องฟ้า “ห์! ถ้าเจ้านายมาเมื่อไร เขาจะทุบตีเจ้าจนตาย!”
ทันทีที่เขาพูดขึ้น จู่ๆ แสงสีเขียวก็ส่องลงมาจากท้องฟ้าราวกับว่ามันมาจากสวรรค์ หนานกงหลินรู้สึกหนาวไปทั้งตัว เขามองย้อนกลับไปที่หน้าเรือ อุกกบาตขนาดใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้า มันเสียดสีกันในอากาศจนเกิดลูกไฟ
ชายหนุ่มคยหนึ่งยืนอยู่บนท้องฟ้า เขาเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วพร้อมดาบสีเขียวในมือปรากฏตัวขึ้นในหมอกเมฆ เมฆหน้าบดบังเขาแต่นั้นก็ไม่สามารถกั้นออร่าแรงสัมผัสได้ว่าเขาคือผู้ทรงพลังที่มาพร้อมเทคนิคอันทรงพลัง
“อ๊ะ!”
“จิงเทียน”
ข้างๆ เจียงเสี่ยวหยูทุกคนไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายเหล่าสาวกต่างกรีดร้องอย่างสุดเสียง
“เขาไม่ใช่ตัวละครสมมติหรอ?”
นี่มันอะไรกัน พวกเขากำลังดูอะไรอยู่!? ดาบปีศาจ? จิงเทียน?
“นั่นอะไร?” ปรมาจารย์ของตระกูลโบราณต่างๆ ที่กำลังดูสตีมสดในหยกสื่อวาร พวกเขาแทบจะสำลักออกมาเมื่อเห็น
“ใครจะไปกล้ายุ่งกับเสี่ยวหยูและเด็กสาวคนอื่น” ร่างที่อยู่บนก้อนเมฆเอ่ยก่อนที่เขาจะปรากฏตัวอย่างชัดเจน
“…” ทุกคนหน้ากระตุกเมื่อได้ยินเสียงนี้
บ้าแล้ว! นี่หรอเจ้าของร้าน?