ตอนที่ 278 ความรู้สึกถึงภัยอันตรายของฉู่อีอี / ตอนที่ 279 เสน่ห์ของเธอ

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 278 ความรู้สึกถึงภัยอันตรายของฉู่อีอี

 

 

           ฉู่อีอีได้ยินคำพูดของเผยหนานเจวี๋ยแล้ว ในใจมีความไม่สบายใจมาแทนที่ หรือว่าในใจของเขายังมีฉู่เจียเสวียนอยู่งั้นเหรอ

 

 

           “หนานเจวี๋ย ฉันรู้สึกปวดหัวไม่สบายนิดหน่อย คุณพาฉันขึ้นพักหน่อยได้หรือเปล่า” จู่ๆ ฉู่อีอีขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าเปลี่ยนเป็นดูไม่ดี

 

 

           ได้ยินว่าฉู่อีอีไม่สบาย เผยหนานเจวี๋ยรีบอุ้มฉู่อีอีขึ้นมาแล้วเดินขึ้นไปข้างบน

 

 

           ในห้องนอน หลังจากเผยหนานเจวี๋ยวางฉู่อีอีลงเรียบร้อยแล้ว บอกให้เธอพักผ่อนเยอะๆ แล้วเขาก็หันหลังจากไป แต่ว่าเพิ่งจะหันหลังก็ถูกฉู่อีอีรั้งมือเอาไว้

 

 

           หันกลับมาด้วยความสงสัย มองดูสีหน้าซีดขาวของฉู่อีอีอย่างงุนงง “อีอีเป็นอะไรไป” เสียงทุ้มต่ำน่าดึงดูดดังขึ้น เผยหนานเจวี๋ยยืนอยู่ที่ปลายเตียงก้มหน้ามองเธอ

 

 

           “คุณอยู่เป็นเพื่อนฉันได้หรือเปล่า วันนี้อย่าทำงานเลยได้หรือเปล่า” ฉู่อีอีกล่าว น้ำเสียงเจือปนความหวาดกลัว แววตาเผยให้เห็นความน้อยใจที่น่าสงสาร

 

 

           “อีอี ผมยังมีงานอีกเยอะที่ต้องจัดการ คุณเป็นเด็กดีนะ พักผ่อนเยอะๆ โอเคไหม ไว้ผมเสร็จธุระแล้วจะกลับมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการล่อใจลอยเข้าหูของฉู่อีอี

 

 

           แอบกัดฟัน ฉู่อีอีโมโหในใจ แต่ว่าเธอรู้ดีว่าเธอต้องมองภาพรวม ตอนนี้เผยหนานเจวี๋ยหมดความอดทนกับเธอแล้ว ถ้าหากเธอยังเป็นแบบนี้อีก เขาจะต้องเบื่อเธออย่างแน่นอน

 

 

           พยักหน้า ฉู่อีอีปล่อยชายเสื้อของเผยหนานเจวี๋ยอย่างเสียไม่ได้ จากนั้นก็หลับตา

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยยืนอยู่ที่เดิม จนเสียงหายใจดังขึ้นเป็นจังหวะต่อเนื่อง เขาจึงก้าวออกไปจากห้อง

 

 

           ในวินาทีที่ประตูปิดลง ฉู่อีอีลืมตาขึ้น ดวงตาเป็นประกาย มองดูประตูที่ปิดสนิทบานนั้น ผ้าปูเตียงถูกปลายนิ้วของเธอกำแน่นจนรูปร่างบิดเบี้ยว

 

 

……

 

 

สามวันต่อมา

 

 

           บริษัทกลุ่มกงจัดงานพบปะขึ้น ได้เชิญผู้มีชื่อเสียงมากมายเข้าร่วม แน่นอนว่ากงจวิ้นฉือก็ยังเชิญเผยหนานเจวี๋ยให้เข้าร่วมด้วย

 

 

           ไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้ถึงมีฝนตกพรำตลอดเวลา

 

 

           ในวิลล่า

 

 

           ฉู่เจียเสวียนสวมชุดเดรสสีฟ้ากึ่งพิงอยู่ที่หน้าต่าง มองดูรถเบนท์ลีย์สีดำของกงจวิ้นฉือที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ริมฝีปากแดงยกยิ้ม

 

 

           กงจวิ้นฉือลงมาจากรถ เห็นฉู่เจียเสวียนที่ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้ากะทันหัน ประกายความประหลาดใจผุดขึ้นในดวงตา

 

 

           ชุดเดรสสีฟ้าทั้งตัวทำให้เรือนร่างที่งดงามปราณีตของฉู่เจียเสวียนยิ่งผอมเพรียวและสง่างามกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ผิวขาวดุจหิมะ ยืนสูงเด่นอยู่ตรงนั้น ผมที่เกล้าขึ้นมาครึ่งหนึ่งนั้นเผยให้เห็นใบหน้าน้อยๆ ที่สดใสสวยงาม

 

 

           “จวิ้นฉือ คุณว่าชุดเดรสนี้ของฉันเป็นยังไงบ้าง” ฉู่เจียเสวียนมองกงจวิ้นฉือที่อยู่ตรงหน้าเอ่ยปากหยอกล้อ บนใบหน้ามีรอยยิ้มมั่นใจในตัวเอง

 

 

           กงจวิ้นฉือดึงสติกลับมา รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏอยู่บนใบหน้า ริมฝีปากบางยกขึ้น “เจียเสวียน คุณสวยจริงๆ” ร้องอุทานอย่างจริงใจ น้ำเสียงไพเราะเป็นอย่างมาก

 

 

           เปิดประตูรถให้ฉู่เจียเสวียนขึ้นไปนั่ง

 

 

           หลังจากที่รถแล่นอยู่บนถนนสี่สิบนาทีก็มาถึงโรงแรมแล้ว งานราตรีของกงจวิ้นฉือถูกจัดขึ้นที่นี่

 

 

           หลังลงจากรถก็เดินไปที่ประตูทางเข้า ฉู่เจียเสวียนยื่นมือควงแขนของกงจวิ้นฉือโดยธรรมชาติ ฉู่เจียเสวียนเป็นแฟนของกงจวิ้นฉือ ก็เป็นคู่เดทของเขาโดยธรรมชาติอยู่แล้ว

 

 

           ในโรงแรม ห้องโถงที่กว้างใหญ่ส่องสว่าง โคมไฟคริสตัลบนเพดานนั้นเปล่งประกาย แสงไฟส่องอยู่บนร่างกายทุกคนเบื้องล่าง อาหารและเครื่องดื่มละลานตา

 

 

           ฉู่เจียเสวียนยืนอยู่ข้างกงจวิ้นฉือ มองดูผู้คนขวักไขว่ เอ่ยถามเสียงเบา “คุณเชิญมากี่คน”

 

 

           “ผมเชิญทุกคนที่มีหน้ามีตาในเมืองมาหมดเลย ทำไมเหรอ” เสียงทุ้มต่ำของกงจวิ้นฉือดังอยู่ข้างหูของฉู่เจียเสวียน

 

 

           “เปล่า” กล่าวเรียบๆ บนใบหน้าของฉู่เจียเสวียนเผยรอยยิ้มสง่างาม คืนนี้เธอสวยเป็นพิเศษ

 

 

           ทันทีที่ฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือปรากฏตัวพร้อมกันที่งานในคืนนี้ ฉู่เจียเสวียนก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนทั้งงานไว้แล้ว

 

 

 

 

      ตอนที่ 279 เสน่ห์ของเธอ

 

 

           ที่ไกลๆ ตั้งแต่ที่ฉู่เจียเสวียนเข้ามาในงาน สายตาของเผยหนานเจวี๋ยก็ติดตามเธออย่างไม่ลดละ ถูกดึงดูดด้วยรอยยิ้มที่สวยงามของเธอในคืนนี้ ฉู่อีอีที่ยืนอยู่ข้างเขาโมโหจนกัดฟันกรอด

 

 

           เธออีกแล้ว ทุกครั้งที่เธอปรากฏตัวก็เพื่อยั่วยวนเผยหนานเจวี๋ย

 

 

           ที่ไม่ไกลนัก ฉู่เจียเสวียนรู้สึกได้ว่ามีสายจาจับจ้องอยู่ที่เธอ มองจนเธอรู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว แต่ว่าเมื่อเธอสอดส่องสายตาหานั้น กลับไม่เห็นอะไรเลย

 

 

           “คุณหนูท่านนี้ รังเกียจที่จะเต้นรำกับผมไหมครับ”

 

 

           “ขอโทษนะครับ เขาเป็นคู่เดทของผม เกรงว่าจะไม่สะดวก”

 

 

           กงจวิ้นฉือที่ยืนอยู่ข้างฉู่เจียเสวียนตอบปฏิเสธออย่างมีมารยาท เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะช่วยฉู่เจียเสวียนปฏิเสธสักกี่คน สงสัยว่าครั้งหน้าคงไม่สามารถปล่อยให้เธอแต่งตัวสวยเกินไปแล้ว

 

 

           ฉู่เจียเสวียนละสายตา พยักหน้าขอโทษกับคนนั้น

 

 

           “คุณดูคุณสิ มีเสน่ห์แค่ไหน คุณสะดุดตาแบบนี้ผมหึงนะ” กงจวิ้นฉือเอ่ยปาก น้ำเสียงเจือปนความสุข

 

 

           ผู้หญิงที่งดงามขนาดนี้เป็นแฟนของเขามันช่างดีจริงๆ

 

 

           “คุณควรจะดีใจที่มีแฟนที่ทั้งเก่งฉลาดแล้วก็สวยอย่างฉัน” ฉู่เจียเสวียนกล่าวชมตัวเอง รอยยิ้มบนใบหน้าสดใสราวกับดอกไม้

 

 

           ที่ไกลๆ เห็นฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือพูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนิทสนม ในใจของเผยหนานเจวี๋ยไม่พอใจมาก

 

 

           เมื่อก่อนตอนที่เธออยู่กับเขาทำไมถึงไม่เคยเห็นเธอยิ้มแบบนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ก้าวเท้าตรงไปหาสองคนที่กำลังพูดคุยหยอกล้อกัน

 

 

           ฉู่อีอีตกใจ รีบเดินตามไป เมื่อเห็นชัดเจนแล้วว่าเป้าหมายที่เผยหนานเจวี๋ยปรี่เข้าหาคือฉู่เจียเสวียน ความเกลียดชังก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ ถือไวน์แดงตามไปข้างๆ เผยหนานเจวี๋ยอย่างรวดเร็ว มือควงแขนของเขา

 

 

           “คุณกง คุณหนูฉู่” สองกันที่กำลังหัวเราะกันไม่ได้สังเกตโดยสิ้นเชิงว่ามีคนเดินตรงมาหาพวกเขา จนกระทั่งเสียงผู้ชายที่มืดมนดังขึ้นข้างกาย ทั้งสองคนจึงเงยหน้าขึ้นมามองคนที่เดินเข้ามา

 

 

           ริมฝีปากแดงยกยิ้ม เลิกคิ้วเล็กน้อย ดวงตาของฉู่เจียเสวียนมีรอยยิ้ม คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาจริงๆ นี่ทำให้เธอประหลาดใจมากเลยทีเดียว

 

 

           เดิมทีฉู่เจียเสวียนตามมาข้างๆ เผยหนานเจวี๋ย แต่ว่าขณะที่กำลังจะเข้าใกล้พวกเรา กลับถูกคนดึงตัวไว้ระหว่างทาง ในเวลานี้คนที่ปรากฏตัวต่อหน้ากงจวิ้นฉือและฉู่เจียเสวียนมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยมาแน่นอนว่าฉู่อีอีก็มาด้วยสินะ สอดส่องสายตา เป็นไปตามคาด ที่ไม่ไกลนัก ดวงตาทั้งคู่ของฉู่อีอีกำลังมองเธออย่างเป็นปรปักษ์ ในใจยิ้มเยาะ แต่กลับไม่แสดงสีหน้าพร้อมเอ่ยอย่างมีมารยาท “คุณเผย คิดไม่ถึงว่าคุณจะมาด้วย”

 

 

“คุณเผย ขอบคุณที่ให้เกียรติ” น้ำเสียงของทั้งสองคนประสานกัน ทำให้หัวใจของเผยหนานเจวี๋ยยิ่งทรมาน ความเยือกเย็นบนใบหน้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

 

 

           “งานเลี้ยงของคุณกง ต่อให้ยุ่งก็จะต้องเจียดเวลามา จริงสิ คุณหนูฉู่ พอดีเลย ผมมีเรื่องอยากจะถามคุณ สะดวกคุยกันตามลำพังไหม คุณกงคงจะไม่ถือสานะ”

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยกล่าว น้ำเสียงมืดมน ไฟโกรธในส่วนลึกของดวงตากำลังแผดเผาช้าๆ

 

 

           พูดจบ ยื่นมือดึงฉู่เจียเสวียนไปโดยไม่อนุญาตให้พูดอะไร กงจวิ้นยื่นมือต้องการจะรั้งฉู่เจียเสวียนไว้ตามจิตใต้สำนึก แต่ว่าฉู่เจียเสวียนกลับหันกลับมาแล้วใช้สายตาห้ามปรามเขา

 

 

           ริมฝีปากขยับเขยื้อน ในที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไร สายตามองตามไปยังทิศทางของฉู่เจียเสวียน ที่จริงเผยหนานเจวี๋ยก็ไม่ได้พาฉู่เจียเสวียนไปไกลนัก แค่ลากเธอไปที่มุมหนึ่งเท่านั้น

 

 

           ฉู่เจียเสวียนสะบัดมือของเผยหนานเจวี๋ยออก จากนั้นก็หยุดยืน ริมฝีปากแดงอ้าเอ่ย “ไม่ทราบว่าคุณเผยมีเรื่องอะไรอยากหารือกับฉันเหรอ”

 

 

           ยกแก้วไวน์ในมือขึ้น จิบไวน์ในแก้วเบาๆ มองเผยหนานเจวี๋ยด้วยรอยยิ้มแจ่มใส